ให้ของเก่ากลับมามีชีวิตใหม่! เปลี่ยนขยะให้มีค่า เป็น “สินค้ารักษ์โลก จากวัสดุหมุนเวียน” ที่โฮมโปร

โฮมโปร สานต่อแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนก้าวสู่ความยั่งยืนเต็มรูปแบบ ส่ง Circular Products สินค้ารักษ์โลก จากวัสดุหมุนเวียน ผ่านโครงการ ‘แลกเก่าเพื่อโลกใหม่’ ลุยตลาดรักษ์โลก เปลี่ยนของเก่าที่ไม่ใช้แล้ว ให้กลับมาเป็นของใหม่ที่มีคุณค่า นำขยะอิเล็กทรอนิกส์และวัสดุเหลือใช้กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างครบวงจร ตั้งแต่รับของเก่าจากบ้านลูกค้า (Trade-in) นำมาคัดแยก บด ล้าง หลอม เพื่อนำไปจัดการอย่างถูกวิธี เพื่อช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ลดมลพิษ และสร้างคุณค่าให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมรักษ์โลก ยกระดับองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี ค.ศ. 2050

คุณวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” ถูกขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด Circular Economy” สร้างระบบหมุนเวียนที่ครบวงจร โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าเอาของเก่ามาแลก (Trade-in) แล้วส่งต่อของเก่านั้นเข้าสู่กระบวนการ บด-ล้าง-หลอม และนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี โดยไม่สร้างมลพิษแก่สิ่งแวดล้อม อีกทั้งชิ้นส่วนที่ใช้งานต่อได้จะถูกนำไปรีไซเคิลและผลิตใหม่ เป็นสินค้ารักษ์โลก (Circular Products) ที่สามารถนำทรัพยากรกลับมาใช้ซ้ำอย่างมีคุณค่า ลดขยะ ลดมลพิษ และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ในระยะแรก สินค้ารักษ์โลก (Circular Products) ได้รับการพัฒนาให้หลากหลายขึ้น โดยใช้วัสดุหมุนเวียนที่มาจากหลายประเภท เช่น กระเบื้องรักษ์โลก ผลิตจากสุขภัณฑ์จากโครงการแลกเก่าเพื่อโลกใหม่ และกระเบื้องแตกหักที่เสียหายจากการขนส่ง, กล่องรักษ์โลก ถูกรีไซเคิลมาจากส่วนประกอบพลาสติกของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด ที่โฮมโปรได้รับมาจากโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” และถุงรักษ์โลก ที่รีไซเคิลมาจากสายรัดพลาสติก ที่โฮมโปรได้รับมาจากการขนส่งสินค้า

สินค้ากลุ่มนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม  สร้างกระแสตอบรับที่ี้ดีเยี่ยม ผลักดันให้โฮมโปร เดินหน้ายกระดับสินค้ารักษ์โลก โดยร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำต่างๆ พัฒนานวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มองหาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

“เครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลกทุกชิ้นจะมี PCR (Post-Consumer Recycled) หรือเม็ดพลาสติกจากชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ได้จากโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” เป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ลดการฝังกลบและการเผาทำลาย รวมถึงช่วยลดมลพิษที่ออกสู่สิ่งแวดล้อม และช่วยให้ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้คนในระยะยาว” คุณวีรพันธ์ กล่าวเสริม

โดยปัจจุบัน สินค้ารักษ์โลก (Circular Products) ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่โฮมโปรได้พัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ มีให้เลือกอย่างมากมาย เช่น

  • เครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลก แบรนด์ STIEBEL ELTRON  และ แบรนด์ Mazuma ที่ผลิตจากพลาสติก ABS ซึ่งมีส่วนผสมของพลาสติก PCR (Post-Consumer Recycled) จากชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าของลูกค้าโฮมโปร

มีประสิทธิภาพในการทำน้ำอุ่นรวดเร็ว ควบคุมอุณหภูมิแม่นยำ พร้อมระบบป้องกันน้ำร้อนลวก และระบบความปลอดภัยที่แม่นยำ

  • ตู้เย็น และเครื่องซักผ้ารักษ์โลก แบรนด์ SAMSUNG และ แบรนด์ TOSHIBA ผลิตจากพลาสติก PP และ ABS ซึ่งมีส่วนผสมของพลาสติก PCR (Post-Consumer Recycled) จากชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าของลูกค้าโฮมโปร ที่ได้รับมาจากโครงการแลกเก่าเพื่อโลกใหม่ นำกลับมาผลิตเป็นสินค้าใหม่ เพื่อลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่่ิในการผลิต และช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกได้อีกทางหนึ่ง

คุณวีรพันธ์ ทิ้งท้ายว่า โฮมโปรอยากให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่า สินค้ารักษ์โลก จากวัสดุหมุนเวียน (Circular Products) นี้ นอกจากจะสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว เมื่อไม่ใช้ก็ยังคงเกิดคุณค่า สร้างความยั่งยืนได้ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญช่วยนำไปจัดการให้อย่างถูกวิธี โดยสินค้ารักษ์โลก สังเกตง่ายๆ จะมีสัญลักษณ์ คือ โลโก้อินฟินิตี้ เพื่อการันตีถึงคุณภาพระดับสากล และเป็นเครื่องหมายยืนยันว่าผู้บริโภคได้มีส่วนช่วยในการรักษ์โลกอย่างแท้จริง

เชิญชวนคนรักบ้านร่วมรักษ์โลกกับโฮมโปร พิเศษสำหรับการซื้อสินค้ารักษโลก รับส่วนลดทันที 3%+2%* เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม (ที่โฮมโปรทุกสาขา) และลดทันที 2% เมื่อซื้อผ่านช่องทางโฮมโปรออนไลน์

#สินค้ารักษ์โลกจากวัสดุหมุนเวียน #CircularProducts #CircularEconomy #โฮมโปร #HomePro #BetterLifeเพื่อชีวิตที่ดีกว่าและยั่งยืน #ร่วมรักษ์โลกไปกับโฮมโปร #เมกาโฮม #MegaHome #Homepropr

ไดกิ้น คว้าใบรับรองห้องทดสอบ EMC มาตรฐานอาเซียน แห่งแรกในไทยและภูมิภาค ตอกย้ำแนวคิด “Perfecting the air” สร้างอากาศดีเพื่อคุณอย่างยั่งยืน

นายสึโทมุ คุริฮารา ประธานบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด รับมอบใบรับรองห้องทดสอบ EMC มาตรฐานอาเซียน จากนายนรุณ สุขสมาน รองเลขาธิการสำนักงานมาตราฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม  ห้องทดสอบ EMC ก็ได้ยกระดับขึ้น ด้วยการได้รับรองขึ้นทะเบียนเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบของประเทศเวียดนาม ภายใต้โครงการความตกลงว่าด้วยกฎระเบียบและการควบคุมสำหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอาเซียน (ASEAN EE MRA : AHEEERR) เป็นแห่งแรกในประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยศักยภาพของห้องทดสอบ EMC ที่มีระบบการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศที่ได้มาตรฐานและแม่นยำ ตอกย้ำแนวคิด “Perfecting the air” มุ่งสร้างอากาศดีเพื่อคุณอย่างยั่งยืน ณ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ชี้แจงกรณีตรวจพบเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าออนไลน์บางราย

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร ได้ตรวจพบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าออนไลน์บางรายการ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ตรวจสอบแล้ว ข้อมูลที่ถูกเข้าถึงเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานของลูกค้าเท่านั้น ไม่มีข้อมูลอ่อนไหว และข้อมูลธุรกรรมทางการเงินใดๆ

บริษัทฯ ให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ หลังจากตรวจสอบ ได้ทำการปิดกั้นการเข้าถึงโดยมิชอบนั้นทันที และได้ดำเนินการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงของระบบ พร้อมประสานงานแจ้งหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแล และติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้ประกาศแจ้งให้ลูกค้าทราบ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ได้มีการเข้าถึงระบบหลักอื่นๆ ภายในองค์กรแต่อย่างใด ข้อมูลของลูกค้ายังคงมีมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูง และบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยข้อมูล และเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ในอนาคต

บริษัทฯ ขออภัยอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันความปลอดภัยข้อมูลของลูกค้า พร้อมแสดงความห่วงใย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดที่โฮมโปรยึดมั่น คือการส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนสำคัญทุกท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่มีนโยบายให้พนักงานติดต่อ เพื่อขอข้อมูลลูกค้า หรือชักชวนลูกค้าให้ทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ บริษัทฯ จึงขออนุญาตแนะนำวิธีการป้องกันตนเองจากมิจฉาชีพที่อาจเกิดขึ้น โดยโปรดหลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่น่าไว้ใจ หรือตอบกลับอีเมล์ที่น่าสงสัย ไม่ส่งข้อมูลส่วนบุคคล หรือ OTP ให้บุคคลอื่น และโปรดระมัดระวังการแอบอ้างชื่อบริษัทฯ ในการทำธุรกรรมต่างๆ

หากพบข้อความที่น่าสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 1284 (เวลา 9.00-21.00 น.) หรือ อีเมล์ : data_privacy@homepro.co.th

“ไวไว” ร่วมสนับสนุนโครงการ “สงกรานต์ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” มอบของที่ระลึก-รณรงค์คนไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ “สงกรานต์ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” โดยมี นายอำนวย อ่ำเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว” เป็นผู้แทนบริษัท เข้ามอบของที่ระลึกและให้การสนับสนุนโครงการฯ มอบของที่ระลึกให้ประชาชนที่กำลังเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมร่วมปล่อยขบวนรณรงค์เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางและด้านข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุตลอดการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานครฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ไดกิ้น คว้าใบรับรองห้องทดสอบ EMC มาตรฐานอาเซียน แห่งแรกในไทยและภูมิภาค ตอกย้ำแนวคิด “Perfecting the air” สร้างอากาศดีเพื่อคุณอย่างยั่งยืน

ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) ร่วมพิธีรับมอบใบรับรอง แต่งตั้งขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการทดสอบภายใต้โครงการความตกลงว่าด้วยกฎระเบียบและการควบคุมสำหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอาเซียน (ASEAN EE MRA : AHEEERR) ด้วยศักยภาพของห้องทดสอบ EMC ที่มีระบบการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศที่ได้มาตรฐานและแม่นยำ ตอกย้ำแนวคิด “Perfecting the air” มุ่งสร้างอากาศดีเพื่อคุณอย่างยั่งยืน

นายสึโทมุ คุริฮารา ประธานบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไดกิ้น อินดัสทรีส์ ประเทศไทย มุ่งมั่นจะเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน-โอเชียเนีย (ASEAN-Oceania) โดยมุ่งเน้นผลิตเครื่องปรับอากาศที่มีครบทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวคิดหลักขององค์กรอย่าง Perfecting the air : สร้างอากาศดีเพื่อคุณ” โดยเฉพาะในกระบวนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ไดกิ้นให้ความสำคัญกับด้านการวิเคราะห์และการทดสอบอย่างมาก ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์จะต้องผ่านการทดสอบความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) ที่ควบคุมผ่านห้องทดสอบที่มีระบบควบคุมคุณภาพและการจัดการด้านเทคนิคที่แม่นยำ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการประหยัดพลังงาน, ความปลอดภัย รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

สำหรับห้องทดสอบ EMC (Electromagnetic Compatibility) ของ ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ณ อาคารศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของบริษัทฯ โดยประกอบด้วยห้องทดสอบประเภทต่าง ๆ ที่ทันสมัยและครอบคลุม เช่น ห้องทดสอบทั้งประเภทปิดกั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากึ่งสะท้อน (SAC chamber), ห้องทดสอบ EMC แบบเคลื่อนที่ (Portable Shielding Tent) และห้องทดสอบแบบเปิดโล่ง (Open Area Test Site : OATS)

ในปี 2566 ที่ผ่านมา ห้องทดสอบ EMC นี้กลายเป็นห้องทดสอบจากโรงงานผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองความสามารถ และระบบคุณภาพของห้องทดสอบตามมาตราฐาน ISO/IEC 17025 จากสถาบันมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และจากสถาบัน IEC / IECEE ประเทศสวีเดน โดยมีขอบข่ายการทดสอบครอบคลุมทุกประเทศในแถบยุโรป รวมถึง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง และไต้หวัน โดยห้องทดสอบ EMC แบบเคลื่อนที่ (Portable Shielding Tent) และห้องทดสอบแบบเปิดโล่ง (Open Area Test Site : OATS) ถือเป็นห้องทดสอบที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานนี้ในปีนั้น

อีกทั้ง ในปี 2567 ห้องทดสอบ EMC ก็ได้ยกระดับขึ้น ด้วยการได้รับรองขึ้นทะเบียนเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบของประเทศเวียดนาม ภายใต้โครงการความตกลงว่าด้วยกฎระเบียบและการควบคุมสำหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอาเซียน (ASEAN EE MRA : AHEEERR) เป็นแห่งแรกในประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน ในกลุ่มห้องทดสอบ EMC จากโรงงานผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยเพิ่มขอบข่ายการทดสอบให้ครอบคลุมทุกประเทศแถบยุโรป ตลอดจนกลุ่มประเทศอาเซียน โดยได้รับเกียรติจากนายนรุณ สุขสมาน รองเลขาธิการสำนักงานมาตราฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นผู้มอบใบรับรอง เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

“ไดกิ้นมุ่งมั่นอย่างมากในการเสริมสร้างความพร้อมทั้งด้านการทดสอบ วิจัย พัฒนา เพื่อจะส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศที่ดีที่สุดที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านอากาศที่แตกต่างและหลากหลาย ตามแนวคิด Perfecting the Air : สร้างอากาศดีเพื่อคุณ” พร้อมสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค รวมถึงเพื่อให้ไดกิ้นกลายเป็นรากฐานสำคัญของคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนต่อไป” นายสึโทมุ ย้ำทิ้งท้าย

ตัวจริงที่ 1 !! โฮมโปรจัดโปรตัวจบรับซัมเมอร์ “ดับร้อนไว เปลี่ยนเครื่องใหม่ที่โฮมโปร” ลดฉ่ำตลอดหน้าร้อนรวมสูงสุด 5,000 บาท ฟรี! ส่ง-ติดตั้ง-รื้อถอน ภายในวัน! ถึง 31 พ.ค. นี้

ซัมเมอร์นี้อย่าปล่อยให้แอร์เก่ากินไฟเล่นๆ เปลี่ยนใหม่ตอนนี้ คุ้มกว่าทุกองศา! เพราะโฮมโปรจัดดีลแรง เย็นฉ่ำ ให้ทุกคนได้ไอเทมเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ ใหม่แกะกล่อง แบบไม่ต้องรอ …จัดเต็มความคุ้มม! ไปกับโปรโมชั่น “ดับร้อนไว เปลี่ยนเครื่องใหม่ที่โฮมโปร” ตัวจริงที่ 1 เรื่องบ้าน แจกโปรตัวจบ เอาใจสายชอป ให้ได้ชอปหมวดไอเทมดับร้อนที่โฮมโปร #แอร์ #ตู้เย็น #เครื่องซักผ้า #เครื่องอบผ้า #ทีวี รับเลยทันที สิทธิพิเศษสุดปัง 3 ต่อ ลดเพิ่มรวมสูงสุดถึง 5,000 บาท ตลอดหน้าร้อนนี้ !!

  • ต่อที่ 1 คูปองลดดับร้อน ลดเพิ่มสูงสุด 3,000 บาท/เครื่อง เมื่อซื้อเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น รุ่นที่ร่วมรายการ
  • ต่อที่ 2 สิทธิ์เก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท เมื่อซื้อสินค้ารุ่นที่ร่วมรายการ
  • ต่อที่ 3 รับเพิ่มคูปองส่วนลด มูลค่า 500 บาท จากบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม, บัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิต CardX, บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรเครดิต ttb และบัตรเครดิตยูโอบี เมื่อซื้อเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น รุ่นที่ร่วมรายการ ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป พิเศษ! สมาชิกบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ได้ทั้งคูปองส่วนลด พร้อมรับเครดิตเงินคืนเข้าโฮมโปร วอลเล็ต สูงสุดถึง 5,000 บาท (เมื่อรูดเต็มจำนวนครบตามเงื่อนไข)

หมายเหตุ : ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% / กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี

ห้ามพลาด! รับเพิ่มอีกหลายความคุ้มค่า ทั้งสะดวก ทั้งรวดเร็วด้วยบริการ SAMEDAY INSTALLATION จัดส่ง-ติดตั้ง-รื้อถอน ฟรี! ภายในวัน (ไม่มีขั้นต่ำ) / ผ่อนนาน…ผ่อนน้อย ผ่อนชิลไม่แคร์อุณหภูมิ ด้วยสิทธิ์ Super Zero 0% นานสูงสุด 10 เดือน จ่ายเริ่มต้นเพียง 500 บาทต่อเดือน/ ใช้งานสบาย เย็นใจทั้งบ้าน รับฟรีบริการ Worry Free ดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดอายุประกัน นานสูงสุด 5 ปี! (สำหรับเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น รุ่นที่ร่วมรายการ)

ดับร้อนไว เปลี่ยนเครื่องใหม่ ต้องที่โฮมโปร ตัวจริงที่ 1 เท่านั้น! รับความคุ้มค่าตลอดหน้าร้อนนี้…เริ่ม 1 มีนาคม 2568 – 31 พฤษภาคม 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.homepro.co.th หรือโทร Call Center หมายเลข 1284

#ดับร้อนไวเปลี่ยนเครื่องใหม่ที่โฮมโปร #แอร์ #ตู้เย็น #เครื่องซักผ้า #เครื่องอบผ้า #ทีวี #ซัมเมอร์ #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า#SAMEDAYInstallation #จัดส่งติดตั้งรื้อถอนฟรี!

Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2025 พร้อมเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่รวบรวมสุดยอดอัญมณีและเครื่องประดับจากทั่วโลก สู่ศูนย์กลางการค้าของอาเซียน

อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในอาเซียนกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าและการผลิตที่สำคัญ ในปีนี้ Jewellery & Gem ASEAN Bangkok (JGAB) 2025 พร้อมเปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจระดับโลก งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ยิ่งใหญ่แห่งปี ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 เมษายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) นำเสนอแพลตฟอร์มเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ออกแบบ และผู้ซื้อจากทั่วโลก

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตและส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของอาเซียน JGAB 2025 ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับคุณภาพสูง รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องมือ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่

กิจกรรมไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ใน JGAB 2025

  • The Jewellery & Gem ASEAN Summit
    สัมมนาระดับนานาชาติที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ นักวิเคราะห์ตลาด และผู้ประกอบการชั้นนำ เพื่อเจาะลึกแนวโน้มธุรกิจอัญมณีในอนาคต พร้อมถกประเด็นสำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค การใช้เทคโนโลยี AI ในการออกแบบเครื่องประดับ และแนวทางความยั่งยืนในอุตสาหกรรม
  • The ASEAN’s Masterpieces Gallery
    นิทรรศการพิเศษที่นำเสนอผลงานเครื่องประดับอันล้ำค่าจากทั่วอาเซียน สะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและงานฝีมืออันประณีต
  • The Next Gem Awards 2025
    เวทีเฟ้นหานักออกแบบเครื่องประดับรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์หน้าใหม่ได้นำเสนอผลงานสู่ตลาดระดับโลก
  • JGAB Runway – “Jewels of the Orient”
    แฟชั่นโชว์เครื่องประดับสุดอลังการ นำเสนอคอลเลกชันพิเศษจากดีไซเนอร์ชั้นนำของภูมิภาค ถ่ายทอดศิลปะและความงดงามผ่านเครื่องประดับที่สะท้อนวัฒนธรรมและแนวโน้มแฟชั่นแห่งอนาคต
  • สัมมนาและเวิร์กช็อปด้านการตลาดและเทคโนโลยีอัญมณี
    อัปเดตแนวโน้มตลาดอัญมณีโลก กลยุทธ์การทำตลาดดิจิทัล และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI และ Blockchain ที่เข้ามามีบทบาทในการซื้อขายอัญมณี

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจ Business Matching & Networking Sessions โอกาสพิเศษสำหรับผู้ประกอบการไทยในการพบปะคู่ค้าจากทั่วโลก ผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจที่ออกแบบมาเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนโซนจัดแสดงสินค้าหลากหลายประเภท ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อาทิ เครื่องประดับสำเร็จรูป (Fine Jewellery) พลอยสี (Gemstone) เพชรสังเคราะห์ (Lab-Grown Diamond) เครื่องประดับเงิน (Silver) เครื่องมืออุปกรณ์และเทคโนโลยี (Tools & Equipment) บรรจุภัณฑ์ (Packaging) และเพชรแท้ (Diamond)

อย่าพลาดโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจและสร้างพันธมิตรใหม่ในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับระดับโลก ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23-26 เม.ย. 68 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2025 (JGAB) สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่: https://bit.ly/3DNk2up หรือ จองพื้นที่ออกงานแสดงสินค้าhttps://bit.ly/3C3YIQp

ดูรายละเอียดและติดตามข่าวสารเพิ่มเติม:

นอนละเมอ ท้องผูกเรื้อรัง มือสั่น ภัยเงียบ “โรคพาร์กินสัน”หนึ่งในกลุ่ม “โรคสมองเสื่อม” ที่พบผู้ป่วยอันดับ 2 รองจาก “โรคอัลไซเมอร์”

หลายคนมักมองข้ามอาการเช่น นอนละเมอ ท้องผูกเรื้อรัง มือสั่น แต่รู้หรือไม่ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณร้ายของ “โรคพาร์กินสัน” หนึ่งในกลุ่ม “โรคสมองเสื่อม” ที่พบมากเป็นอันดับ 2    รองจากอัลไซเมอร์ และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ โรคนี้ไม่ได้เป็นแค่โรคของผู้สูงอายุอีกต่อไป เพราะหลายคนเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุยังน้อยโดยไม่รู้ตัวมาก่อนเลยว่ากำลังป่วยอยู่

นพ.สิทธิ เพชรรัชตะชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและโรคพาร์กินสันจากโรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวถึงการเกิดโรคพาร์กินสันว่า “โรคนี้เกิดจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาทในก้านสมอง ทำให้การผลิตสารโดปามีนลดลง ส่งผลให้การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง และอาจมีอาการอย่างมือสั่นปรากฏออกมา หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการจะยิ่งรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้”

แม้ว่าโรคพาร์กินสันจะถูกค้นพบมานานกว่า 200 ปีแล้ว แต่ในประเทศไทยผู้คนส่วนใหญ่เพิ่งเริ่มรู้จักโรคนี้จริงจังในช่วง 10-20 ปีมานี้ หลายคนยังเข้าใจผิดว่าเป็นแค่ “โรคมือสั่น” ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสมอง ทั้งที่ในความจริงแล้ว โรคพาร์กินสันคือหนึ่งในกลุ่ม “โรคสมองเสื่อม” ที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากอัลไซเมอร์ และสิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือ โรคนี้ไม่ได้เป็นเพียงโรคของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่คนทุกวัยสามารถเป็นได้ โดยหลายคนเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุยังน้อยโดยที่ไม่รู้ตัว

จากสถิติพบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคพาร์กินสันประมาณ 150-250 คน ต่อประชากร 100,000 คนในทุกช่วงวัย และจำนวนผู้ป่วยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ก็เพิ่มขึ้นทุกปี อันเป็นผลจากการพัฒนาด้านการวินิจฉัยและการให้ความรู้แก่ประชาชน

สำหรับสัญญาณเตือนของ “โรคพาร์กินสัน” ที่หลายคนมักมองข้าม เช่น การนอนละเมอ ท้องผูกเรื้อรัง ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลที่ไม่มีสาเหตุชัดเจน ทุกอาการเหล่านี้อาจเป็น “เสียงเตือน” จากสมองว่าระบบกำลังมีปัญหา และที่น่าตกใจคือ อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นก่อนที่อาการสั่นจะเริ่มขึ้นถึง 10-20 ปี หมายความว่าเมื่อร่างกายเริ่มมีอาการทางการเคลื่อนไหว เช่น เคลื่อนไหวช้าลง มือสั่น หรือเดินสะดุด นั่นคือช่วงที่เซลล์สมองตายไปแล้วกว่า 60%

นพ.สิทธิ เพชรรัชตะชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า “การนอนละเมอ” โดยเฉพาะการละเมอที่มีท่าทางเคลื่อนไหวหรือออกเสียง มักจะเชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะเริ่มต้น โดยมีโอกาสพัฒนาเป็นโรคพาร์กินสันได้สูงกว่าคนทั่วไปถึง 30 เท่า หากเกิดร่วมกับอาการท้องผูกที่หาสาเหตุไม่ได้และการรับกลิ่นที่แย่ลงจนแทบไม่รู้ตัว ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงทันที

นอกจากนี้สาเหตุสำคัญของการเกิด “โรคพาร์กินสัน” คือ การเกิดภาวะย่อยโปรตีน Alpha-Synuclein โดยส่วนใหญ่เกิดจากพันธุกรรม เมื่อร่างกายไม่สามารถย่อยโปรตีนชนิดนี้ได้ โปรตีนเหล่านี้ก็สะสมในร่างกาย จนกลายเป็น “โปรตีนขยะ”  จุดเริ่มต้นของโปรตีนขยะเหล่านี้อาจเริ่มจาก “ลำไส้” ก่อน แล้วค่อยๆ เดินทางผ่านเส้นประสาทเข้าสู่ก้านสมองและสมองส่วนอื่นๆ ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากเริ่มมีอาการทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก แน่นท้อง หรือเรอ ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแค่อาการของระบบย่อยอาหาร แต่จริงๆ อาจเป็นสัญญาณของโรคสมองเสื่อมระยะเริ่มต้นได้

สำหรับอาการของ “โรคพาร์กินสัน” แบ่งออกเป็น 5 ระยะ โดยเริ่มจากอาการเล็กน้อย เช่น การเคลื่อนไหวช้า หรือเดินลำบาก และในระยะรุนแรง ผู้ป่วยจะต้องพึ่งพาผู้อื่นในทุกการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การเดิน หรือแม้แต่กิจกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน หลายคนมักไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ตั้งแต่แรก เพราะอาการเริ่มต้นมักไม่ชัดเจน และเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของวัยหรือความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก โดยผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ ได้แก่ ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี, เพศชายที่มีโอกาสเป็นมากกว่าหญิงถึง 1.5 เท่า, ผู้ที่มีประวัติครอบครัวป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน, เกษตรกรที่สัมผัสสารเคมีบ่อย ๆ รวมถึงนักกีฬาที่เคยบาดเจ็บที่สมอง เช่น นักมวย และนักฟุตบอล

นพ.สิทธิ กล่าวให้ข้อมูลต่อว่า “แม้ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา “โรคพาร์กินสัน” ให้หายขาด แต่การรักษาอย่างรวดเร็วสามารถช่วยบรรเทาอาการและช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น การใช้ยาเพิ่มระดับสารโดปามีนในสมอง และในปัจจุบันมีนวัตกรรมการรักษาที่ก้าวหน้าขึ้น เช่น เทคโนโลยี Deep Brain Stimulation (DBS) หรือการผ่าตัดฝังอิเล็กโทรดในสมอง ช่วยลดอาการสั่น เคลื่อนไหวช้า และลดการพึ่งพายาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอัลตราซาวด์ความเข้มสูง (Focused Ultrasound) ซึ่งเป็นการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้คลื่นเสียงยิงเข้าไปในสมองเฉพาะจุดเพื่อหยุดวงจรที่ผิดปกติ และแนวโน้มว่าเทคโนโลยีนี้จะขยายผลได้ดีในกลุ่มผู้ป่วยระยะแรก

นอกจากนี้ การรับประทานอาหารแบบ Mediterranean Diet ที่เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช ปลา ไขมันดีจากน้ำมันมะกอก ช่วยลดความเสี่ยงของโรคพาร์กินสันได้อย่างมีนัยสำคัญ และการเปลี่ยนแปลงแบคทีเรียในลำไส้ยังมีบทบาทช่วยชะลอการดำเนินของโรคในอนาคต

นพ.สิทธิ กล่าวทิ้งท้ายว่า “โรคพาร์กินสัน” ไม่ใช่แค่โรคของผู้สูงวัยอีกต่อไป เพราะสามารถเกิดได้กับทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยกลางคนหรือแม้แต่วัยรุ่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีอันตราย เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันและลดความเสี่ยง”

เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับ “โรคพาร์กินสัน” โรงพยาบาลพระรามเก้าได้จัดกิจกรรม “วันพาร์กินสันโลก” ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคาร A เพื่อส่งต่อความรู้และช่วยเพิ่มการตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคนี้ ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมให้ความรู้หลากหลาย เช่น บูธข้อมูลเกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน, อาการ, สาเหตุ, แนวทางการดูแล, บูธโภชนาการแนะนำอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย และสัมมนาพิเศษ “พาร์กินสัน รู้เร็ว ป้องกันได้”

หากท่านต้องการดูแลสุขภาพของตนเองและคนที่รัก สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1270 หรือเว็บไซต์: www.praram9.com / Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และ Facebook: Praram9 Hospital เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospitalอย่าลืมชวนคนที่คุณรักมาร่วม “โอบกอดสุขภาพดีไปด้วยกัน” เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน

ไทยผงาดบนเวทีเกมโลก gamescom 2025 พร้อมรุดหน้าจัด “gamescom asia x Thailand Game Show” เปิดฉากมหกรรมเกมสุดยิ่งใหญ่ในกรุงเทพฯ 16-19 ต.ค. 68 นี้ พบกันที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) พร้อมด้วย นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมกันแถลงข่าวการสนับสนุนการจัดงาน “gamescom asia x Thailand Game Show งานเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16-19 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตอกย้ำศักยภาพวงการเกมไทย และสะท้อนความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเกมระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยมี          นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และกลุ่มผู้จัดงานอย่าง นายแมทเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการ และรองประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของ โคโลญเมสเซ่ นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ผู้ก่อตั้ง Thailand Game Show และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชว์ ไร้ขีด จำกัด และ นายวินท์รดิศ กลศาสตร์เสนี ประธานฝ่ายดิจิทัลมีเดีย บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ร่วมแถลงข่าวด้วย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันก่อน

BRAND’S Unveils Songkran 2025 Campaign: “Express your love with BRAND’S Bring Hearts closer together”—Fostering Family Bonds and Promoting Well-Being

Suntory Beverage & Food (Thailand) Co., Ltd., the leader of health enrichment products under BRAND’S trademark in Thailand and Asia, has launched a campaign to celebrate the Songkran Festival 2025. The campaign, themed Express your love with BRAND’S,Bring Hearts closer together” aims to promote love, care, and strong family bonds, as most families rarely express their feelings directly,  or they “meet face-to-face but often hold back from expressing their true feelings”. With this year’s focus on sending well wishes through a collection of meaningful health gifts, the campaign encourages making Songkran more than just a reunion—it’s about truly caring for and connecting with loved ones on a deeper level.

According to Mr. Napis Sasivimolkul, Marketing Director for BRAND’S Bird’s Nest and BRAND’s Gifting, Suntory Beverage & Food (Thailand) Co., Ltd., “Songkran is a meaningful occasion when families come together to celebrate. We want BRAND’S to symbolize care and help convey good health to our loved ones through the campaign motto, Express your love with BRAND’S,Bring Hearts closer together. To make this Songkran a festival of joy and significance, we have designed this campaign to appeal to those who enjoy gifting their family members and those who wish to make merit with thoughtful care”.

To facilitate customers in expressing love and sharing good wishes, BRAND’S is offering an exclusive promotion with discounts of up to 15% on various health gift baskets and sets. Additionally, customers who spend 1,499 baht will receive a complimentary Wiggle Cooler Bag. These products will be available at Lotus’s, Big C, The Mall, and Tops locations from 26 March to 23 April 2025. Through this campaign, BRAND’S reaffirms its commitment to supporting good health while helping customers give thoughtful and meaningful gifts to their loved ones.

Mr. Napis highlighted another key feature of this year’s campaign: the launch of the merit-making pack designed to promote monks’ health. Priced at 155 baht, the package will be available at all 7-Eleven locations starting 20 March 2025. Customers can also enjoy a special promotion of the Empty Box merit-making pack, which allows them to choose from BRAND’S Chicken Essence or BRAND’S Bird’s Nest products to provide monks with wholesome nutrition. BRAND’S believes this initiative will foster a more health-conscious approach to merit-making.

In collaboration with UOB Bank, BRAND’S offers exclusive benefits to UOB credit card holders, enabling them to redeem health gift sets using their accrued points. Through the Rewards+ feature on the UOB TMRW app, customers can choose from a range of options, including BRAND’S Veta Vitamin A Berry Shot (42 ml × 6 bottles) for 1,950 points (valued at 209 baht), BRAND’S Essence of Chicken (42 ml × 6 bottles) for 2,200 points (valued at 229 baht), BRAND’S Bird’s Nest Xylitol (42 ml × 9 bottles) for 8,700 points (valued at 944 baht). Also, special gift hampers are also available: HAMPER A: BRAND’S Bird’s Nest Xylitol (42 ml × 10 bottles) for 10,200 points (valued at 1,099 baht), HAMPER B: BRAND’S Essence of Chicken and Classic Bird’s Nest (42 ml × 10 bottles) for 7,800 points (valued at 839 baht), HAMPER C: BRAND’S Essence of Chicken (42 ml × 10 bottles) for 3,800 points (valued at 409 baht). This initiative allows customers to gift themselves and their loved ones with good health, subject to the bank’s terms and conditions.

Mr. Napis concluded that “BRAND’S” is more than just a gift—it’s a heartfelt symbol of care and affection that can be genuinely conveyed. This Songkran, we hope everyone will take the opportunity to spend meaningful time with their families and share good health through BRAND’S products, whether it’s merit-making packs or thoughtful gift sets for loved ones.

For more details, check out BRAND’S World Thailand on Facebook at www.facebook.com/BRANDSWorldThailand or follow Line Official Account @brandsworld for updates and promotions.