โฮมโปร เปิดแคมเปญ #วันพุธสีเขียว ชวนคนไทยรักษ์โลกทุกวันพุธ ผ่าน 4 ลูปหมุนเวียนทรัพยากร ชวนซ่อม-ชวนทิ้ง-ชวนแลก-ชวนช้อป

โฮมโปร เดินหน้าแคมเปญ #วันพุธสีเขียว ยกระดับองค์กรต้นแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เชิญชวนผู้บริโภคร่วมรักษ์โลกในทุกสัปดาห์ ผ่านพฤติกรรมง่ายๆ ได้ที่บ้าน ภายใต้แนวคิด “4 ลูปหมุนเวียนทรัพยากร” ชวนซ่อม-ชวนทิ้ง-ชวนแลก-ชวนช้อป ครอบคลุมห่วงโซ่การใช้ทรัพยากรอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเลือกซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนซื้อใหม่ เพราะทุกการซ่อมคือการช่วยลดการใช้ทรัพยากรโลก หากซ่อมไม่ได้สามารถนำมาเข้าร่วมโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” เพื่อให้โฮมโปรนำของเก่าไปจัดการให้อย่างถูกวิธี พร้อมขยายหมวดสินค้าให้ครอบคลุมกว่า 50 ประเภท มากกว่า 8,000 รายการ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้ารักษ์โลกได้ง่ายขึ้นในทุกวันพุธ นอกจากนี้สำหรับของเก่าที่เสีย/พัง ซ่อมไม่ได้ หรือหมดอายุการใช้งานแล้ว เก็บไว้อาจก่อให้เกิดมลพิษ ชวนนำมาฝากทิ้งกับโฮมโปร เพื่อให้โฮมโปรนำไปจัดการอย่างถูกวิธี จนนำกลับมาผลิตเป็นสินค้าใหม่ ที่เรียกว่า “สินค้ารักษ์โลก จากวัสดุหมุนเวียน” หรือ Circular Products เพื่อให้ทุกคนสามารถ “ใช้สินค้าได้อย่างมีคุณค่าและร่วมรับผิดชอบต่อโลก” ได้จริง เริ่มต้นจากในบ้านของตนเอง พร้อมเสริมแรงตัดสินใจด้วยข้อเสนอพิเศษเพื่อความคุ้มค่าทุกวันพุธ อีกด้วย

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” (HMPRO) กล่าวถึงเบื้องหลังความตั้งใจแคมเปญ #วันพุธสีเขียว ว่า มาจากวิสัยทัศน์องค์กรที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบ ‘ลงมือทำจริง’ ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งคราว แต่ต้องต่อเนื่อง และวัดผลได้จริง

“หัวใจของแคมเปญ #วันพุธสีเขียว จึงไม่ใช่โปรแรงหรือส่วนลดสินค้า แต่เป็นคำ ‘ชวน’ ที่ชวนให้ทุกคนลงมือทำสิ่งเล็กๆ เพื่อสร้างวงจรที่ดีขึ้น เริ่มจากในบ้านของเราเองก่อน ตั้งแต่ ชวนซ่อม ชวนแลก ชวนทิ้ง และชวนช้อปสินค้ารักษ์โลก จากวัสดุหมุนเวียน – สี่จุดสัมผัสที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนจากความคิดที่อยู่ในใจให้กลายเป็นการลงมือทำจริงที่เริ่มจากในบ้านของเราเอง ตั้งแต่การตัดสินใจซ่อมก่อนซื้อใหม่ การจัดการของเก่าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางอย่างถูกวิธี จนถึงการเลือกซื้อสินค้าใหม่ที่ใช้วัสดุหมุนเวียนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เริ่มด้วย “ชวนซ่อม” เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะทุกการซ่อมคือการประหยัดทรัพยากรโลก เพราะในหนึ่งปี ประเทศไทยสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 400,000 ตันต่อปี แต่มีเพียงราว 10% เท่านั้นที่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี โฮมโปรจึงผลักดันให้ “การเลือกซ่อม” กลับมาเป็นทางเลือกแรกของผู้บริโภค เพื่อให้ของเก่าได้ไปต่อ ด้วยทีมช่างโฮมโปร-มือโปรประจำบ้านคุณ ที่ให้บริการรับซ่อมได้หลายแบรนด์ หลายรุ่น แม้ไม่ได้ซื้อจากโฮมโปร เพื่อยืดอายุการใช้งานสินค้าและลดของเสียที่ไม่จำเป็น

ส่วน “ชวนแลก” คือการยกระดับแนวคิดของโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” หรือ Trade-In ที่ทำให้การรักษ์โลกเห็นผลจริงต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งโฮมโปรเป็นรีเทลรายแรกที่มีระบบการจัดการขยะเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบครบวงจร (Closed-Loop Circularity) ช่วยให้ของเก่าถูกนำกลับมาเข้าสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกวิธี ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปลี่ยนของเก่ากลับเป็นคุณค่าใหม่แบบที่จับต้องได้ รวมถึงสร้างความสะดวกสบายด้วยบริการจากทีมช่างโฮมโปร-มือโปรประจำบ้านคุณ เข้ารับของเก่าถึงบ้าน และมีหมวดสินค้าที่รองรับภายใต้โครงการฯ กว่า 50 ประเภท – ผลลัพธ์ทำให้โฮมโปรจัดการเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าอย่างถูกวิธีไปได้มากกว่า 5,000 ตันต่อปี

ถัดมาคือ “ชวนทิ้ง” สำหรับของที่ซ่อมไม่ได้หรือหมดอายุการใช้งานแล้ว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ของเก่า แต่คือ ‘การทิ้งที่ไม่ถูกวิธี’ ซึ่งอาจสร้างมลพิษกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพคนใกล้ตัว โฮมโปรจึงตั้งใจทำให้การทิ้งเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย เพียงนำของเก่าที่เสีย/พัง ซ่อมไม่ได้ หรือหมดอายุการใช้งานแล้ว ให้โฮมโปรช่วยนำไปช่วยจัดการให้อย่างถูกวิธี ตั้งแต่รับ-คัดแยก-ส่งต่อไปรีไซเคิลด้วยกระบวนการที่ได้มาตรฐาน เพื่อทำให้ “การทิ้ง” ที่โฮมโปร เปลี่ยนเป็นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ปลายทางแคมเปญนี้คือ “ชวนช้อป” ที่ไม่ใช่การซื้อของใหม่แบบเดิมๆ แต่คือการเลือกสินค้ารักษ์โลก หรือ Circular Products ที่ผลิตจากวัสดุหมุนเวียน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการจัดการของเก่าในโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงคุณภาพ มาตรฐาน และยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่และลดปริมาณขยะได้จริงในระยะยาว – โฮมโปรจึงตั้งใจให้ “การช้อป” ครั้งนี้เป็นการซื้อเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ให้ทั้งบ้านและโลกนี้ดีขึ้นไปพร้อมกัน

สิ่งที่ทำให้ #วันพุธสีเขียว สะท้อนความตั้งใจของโฮมโปรในการ “เปลี่ยนโลก” คือการชวนให้เกิดพฤติกรรมเล็กๆ ของลูกค้าที่ทำซ้ำได้ทุกสัปดาห์ ภายใต้ระบบที่มีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่การรับของเก่าจากบ้านลูกค้า เพื่อนำไปช่วยจัดการให้อย่างถูกวิธี เมื่อลูปทั้งหมดมารวมกับความตั้งใจของผู้บริโภคที่อยากรับผิดชอบต่อโลก จึงทำให้ “ทุกวันพุธ” กลายเป็น “จุดเริ่มต้นของการรักษ์โลก” ที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ เพื่อให้คำว่า #ชวน กลายเป็นพฤติกรรมง่ายที่ทำได้จริง โฮมโปรได้ออกแบบข้อเสนอพิเศษ เชื่อมโยง “ความคุ้มค่า” เข้ากับ “ความรับผิดชอบต่อโลก” โดยทุกๆ วันพุธเมื่อนำสินค้าเก่ามาฝากทิ้งที่สาขาโฮมโปรและเมกาโฮม ลูกค้าจะได้รับคูปองส่วนลดสำหรับซื้อสินค้า สูงสุด 100 บาท ลูกค้าใหม่ HomeCard จะได้รับคูปอง Next Purchase มูลค่า 100 บาท ทุกวันพุธ พร้อมดีล Burn Point 2 เท่า ใช้ 500 คะแนน แลกคูปองส่วนลด 100 บาท เมื่อซื้อสินค้ารักษ์โลก (Circular Products) และคูปองส่วนลดค่าบริการ 100 บาท จำนวน 500 สิทธิ์ สำหรับบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า บริการล้างแอร์ บริการล้างเครื่องซักผ้า และบริการล้างตู้เย็น

“โฮมโปรตั้งใจทำให้ทุกวันพุธเป็นวันแห่งการลงมือทำเรื่องเล็กๆ ให้มีความหมาย ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ทั้งซ่อมก่อนซื้อใหม่ ทิ้งให้ถูกวิธี ผ่านโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” หรือจะช้อปสินค้ารักษ์โลกก็ได้ – ถ้าวันนี้เรา ชวน กันได้หนึ่งบ้าน วันต่อไปอาจเป็นสิบบ้าน และไม่นานทั้งชุมชนจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี และกลายเป็นพลังหมุนเวียนที่ทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น” นายวีรพันธ์ สรุปทิ้งท้าย

#สินค้ารักษ์โลก #CircularProducts #CircularEconomy #โฮมโปร #HomePro #BetterLiving #Homepropr

JobThai ชี้ตลาดแรงงานปี 2568 “AI – ไลฟ์สด” แรงไม่หยุด Reskill คือกุญแจคนทำงานยุคใหม่

  • ตลาดแรงงานไทยยังโต แม้เศรษฐกิจชะลอ มีตำแหน่งงานเปิดรวมกว่า 1.75 ล้านอัตรา เพิ่มขึ้น 2.18% โดยธุรกิจ อาหาร–ค้าปลีก–ยานยนต์–บริการ–ก่อสร้าง ยังต้องการแรงงานสูง
  • ทักษะ “AI และไลฟ์สด” มาแรงสุดในปี 2568 องค์กรแห่หาคนใช้ ChatGPT, Gemini, TensorFlow, Midjourney ขณะงาน TikTok Live / ไลฟ์ขายของ เป็นคำค้นหายอดนิยม
  • องค์กร–คนทำงานเร่งปรับตัวสู่ยุค AI กว่า 49% ขององค์กร และ 64% ของคนทำงาน ใช้ AI แล้ว โดย Gen Z ใช้มากสุดถึง 67% แต่ส่วนใหญ่เห็นว่า AI เป็น “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “ผู้แทน”
  • Reskill คือกุญแจอยู่รอดของแรงงานยุคใหม่ ต้องพัฒนา Soft Skills + ทักษะดิจิทัล ควบคู่กัน พร้อมเปิดรับ Hybrid Work – การเรียนรู้ตลอดชีวิต – การใช้ AI อย่างสร้างสรรค์

จ๊อบไทย (JobThai) ผู้ให้บริการหางาน สมัครงาน ออนไลน์ ที่มีผู้เข้าใช้งานเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เผยภาพรวมตลาดแรงงานไทยช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคม–กันยายน) จากฐานข้อมูลการเปิดรับสมัครงานและการสมัครงานทั่วประเทศ พบว่าตลาดแรงงานไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง มีการเปิดรับสมัครงานรวมกว่า 1,758,029 อัตรา เพิ่มขึ้น 2.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในช่วงเวลาเดียวกัน มีการสมัครงานผ่าน JobThai รวมกว่า 17.5 ล้านครั้ง โดยวันจันทร์เป็นวันที่มีการสมัครงานมากที่สุด และช่วงเวลา 11.00–12.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ผู้สมัครนิยมสมัครงานมากที่สุด

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย www.jobthai.com  เปิดเผยว่า จากการรวบรวมและวิเคราะห์ฐานข้อมูลความต้องการแรงงานและพฤติกรรมความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศของผู้ใช้งานจ๊อบไทยพบสถิติที่น่าสนใจ ดังนี้

5 ธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด

จากข้อมูลของ JobThai พบว่า 5 อุตสาหกรรมหลัก ที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุดในปีนี้ ได้แก่

  1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (168,556 อัตรา) – แม้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว แต่การบริโภคยังเป็นสิ่งสำคัญและเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ยังนิยมการรับประทานอาหารนอกบ้านและบริการเดลิเวอรี ทำให้ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีความต้องการแรงงานสูงที่สุด
  2. ธุรกิจค้าปลีก (148,706 อัตรา) – โดยเฉพาะกลุ่มร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ยังคงจ้างงานต่อเนื่อง รวมถึงร้านค้าปลีกสินค้าแฟชั่น สุขภาพ และความงาม ที่เติบโตจากเทรนด์รักสุขภาพในทุกช่วงวัย
  3. ธุรกิจยานยนต์ (118,150 อัตรา) – ได้แรงหนุนจากนโยบายภาครัฐที่ดึงดูดการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้เกิดการจ้างงานในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน และตัวแทนจำหน่าย
  4. ธุรกิจบริการ (116,222 อัตรา) – โดยเฉพาะบริการเอาท์ซอร์สซิ่ง (Outsourcing) เช่น งานบริการลูกค้า, งานจัดหางาน, IT Service และนอกจากนี้ยังมีงานบริการสุขภาพ
  5. ธุรกิจก่อสร้าง (96,980 อัตรา) – ได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่ยังเดินหน้าต่อเนื่อง แม้ภาคเอกชนจะชะลอตัว

ขณะเดียวกัน ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นดาวรุ่งของตลาดแรงงาน โดยมีตำแหน่งงานเปิดรับกว่า 92,138 อัตรา เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน สะท้อนบทบาทของไทยในฐานะฐานการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำคัญของโลก แม้จะเผชิญแรงกดดันจากนโยบายภาษีการค้าระหว่างประเทศ

นางสาวแสงเดือน กล่าวอีกว่า สำหรับ 5 สายงานที่องค์กรเปิดรับมากที่สุด อันดับหนึ่งงานขาย คิดเป็น 21.38% อันดับสองงานช่างเทคนิค คิดเป็น 9.53% อันดับสามงานผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น 9.03% อันดับสี่งานวิศวกรรม คิดเป็น 5.84% อันดับห้างานธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น 5.71% ของอัตราการเปิดรับในแต่ละเดือนรวมกัน ด้าน 5 สายงานที่มีผู้สมัครมากที่สุด พบว่า งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ มีการสมัครสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคิดเป็น 13.55%  อันดับสองงานธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น 11.99%% อันดับสามงานวิศวกรรม คิดเป็น 9.54% อันดับสี่งานทรัพยากรบุคคล คิดเป็น 7.96% อันดับห้างานขาย คิดเป็น 7.86% ของผู้สมัครทั้งหมด

“AI และไลฟ์สด” ทักษะใหม่ที่ตลาดต้องการ

ในมิติของทักษะการทำงาน พบว่า องค์กรต้องการคนทำงานที่มีทักษะความรู้ด้าน AI และความสามารถในการใช้เครื่องมือ AI สูงขึ้น โดยเฉพาะสายงานดังนี้ 1. งานคอมพิวเตอร์/ไอที ได้แก่ ChatGPT, Machine Learning, TensorFlow, PyTorch, OpenCV, Natural Language Processing (NLP), Large Language Models (LLM) 2. งานการตลาด ได้แก่ ChatGPT, Gemini, Claude, Midjourney  3. งานออกแบบ/กราฟิก ได้แก่ ChatGPT, Gemini, Midjourney 4. งานวิศวกรรม ได้แก่ Computer Vision, ChatGPT, Machine Learning, Deep Learning 5. งานทรัพยากรบุคคล ได้แก่ ChatGPT, Gemini

ไลฟ์สด / TikTok” เป็นคีย์เวิร์ดที่มาแรงติดอันดับคำค้นยอดนิยมขององค์กร สะท้อนเทรนด์ธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการบุคลากรด้านคอนเทนต์ไลฟ์สดและสตรีมเมอร์เชิงพาณิชย์มากขึ้น ส่วนคำค้นหายอดนิยมจากฝั่งผู้สมัครกลับสะท้อนอีกมุมหนึ่งของตลาดแรงงาน คือ “หยุดเสาร์–อาทิตย์ / นักศึกษาจบใหม่ / ไม่มีประสบการณ์ / ฝึกงาน

นางสาวแสงเดือน กล่าวเสริมอีกว่า JobThai ยังได้จัดทำแบบสำรวจ สำรวจ “การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้งานภายในองค์กรและการทำงาน” จากกลุ่มตัวอย่างคนทำงานกว่า 2,600 คน และ HR กว่า 600 องค์กรทั่วประเทศ พบว่า

  • 49.42% ขององค์กรไทย ได้นำ AI เข้ามาใช้ในงานบางส่วนแล้ว
  • 63.93% ของคนทำงาน เคยใช้ AI เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในงานค้นคว้า เขียนสรุปเนื้อหา และสร้างคอนเทนต์
  • Gen Z เป็นกลุ่มที่ใช้ AI มากที่สุดถึง 67.5% รองลงมาคือ Gen Y (64.16%) และ Gen X (55.11%)

นอกจากนี้ 64.89% ขององค์กร มองว่า AI ควรถูกใช้เป็น “ผู้ช่วยเสริมประสิทธิภาพ” มากกว่าจะมา “แทนคนทำงาน” มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มองว่า AI จะเข้ามาแทนตำแหน่งงานซ้ำซากหรืองานที่ใช้ทักษะต่ำ

ผลสำรวจของ JobThai ยังชี้ว่า คนทำงาน 74.29% มีทัศนคติเชิงบวกต่อการใช้ AI โดยเห็นว่า AI ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น เร็วขึ้น และเปิดโอกาสให้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ขณะเดียวกัน 69.71% มองว่า AI มีส่วนทำให้คนตกงานบ้างในบางสายงาน แต่เป็นแรงกระตุ้นให้ต้องพัฒนา “ทักษะใหม่” แทนที่จะหลีกเลี่ยง

นางสาวแสงเดือน กล่าวสรุปว่า เทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของการทำงานในทางที่ดีและท้าทาย รวมถึงในอนาคตเทคโนโลยีต่าง ๆ จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือคนทำงานต้องเรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลา ทั้งในด้านทักษะดิจิทัลและ Soft Skills เช่น การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ และความคิดสร้างสรรค์ พร้อมแนะนำให้ภาคธุรกิจปรับแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับความต้องการของพนักงานรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการส่งเสริมการทำงานแบบ Hybrid Work, การพัฒนาทักษะการใช้ AI เชิงลึก, การลงทุนในเทคโนโลยี และการปรับระบบสวัสดิการให้เหมาะสม เพื่อรักษาและจูงใจบุคลากรที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรระยะยาว

ผู้สนใจสามารถหางาน สมัครงาน หรือค้นหาบุคลากรคุณภาพได้ที่

www.jobthai.com หรือ โทร. 02-353-6999

29 ปี โฮมโปร เติมความหมายให้การอยู่บ้าน ‘ดียิ่งขึ้น’ เพื่อ Better Living ของทุกคน เปิดแคมเปญใหญ่ “HomePro 29th Anniversary แจกทองรวม 29 บาท” มูลค่ารวม 1.5 ล้านบาท คืนกำไรพร้อมกันทุกสาขาทั่วประเทศ และออนไลน์ 1-11 พฤศจิกายนนี้

ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา โฮมโปร เติบโตเคียงข้างบ้านของคนไทยในฐานะ “ผู้นำโซลูชันเรื่องบ้านครบวงจร” ที่เข้าใจทั้งความคุ้มค่าและความสุขการอยู่อาศัย ในโอกาสครบรอบ 29 ปี นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการเดินทาง โฮมโปรจึงขอ “ขอบคุณ” และ “คืนกำไร” ให้ลูกค้าอย่างรู้ใจ ผ่านแคมเปญใหญ่ปลายปี “HomePro 29th Anniversary” พร้อมต่อยอดความสำเร็จของ “เมกาโฮม ครบรอบ 12 ปี” ด้วยกิจกรรมพิเศษ “แจกทอง 29 บาท” !! รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท (ราคาทอง ณ วันที่ 9 กันยายน 2568) พร้อมมอบดีลสุดคุ้มให้เลือกได้ตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดทันที คะแนนสะสม เงินคืน สิทธิแลกซื้อ และอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ 1–11 พ.ย. 68 ที่โฮมโปร เมกาโฮมทุกสาขาทั่วประเทศ และออนไลน์

นางอุไรวรรณ ตันติพิริยะกิจ ผู้อำนวยการกลุ่มปฏิบัติการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า “ตลอด 29 ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของโฮมโปร ไม่ได้สะท้อนเพียงระยะเวลาของดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่คือ ‘ความไว้วางใจ’ ที่ลูกค้าและพันธมิตรมีให้เราเสมอมา ในโอกาสครบรอบ 29 ปีนี้ โฮมโปรต้องการส่งต่อคำขอบคุณผ่านสิ่งที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้จริง ทั้งความคุ้มค่าทุกการช้อป การใช้ชีวิตในบ้านที่ดีขึ้นกว่าเดิม และโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่ที่มอบให้จากใจ นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปี สำหรับใครที่กำลังเตรียมอัปเกรดบ้านให้ดียิ่งขึ้น ด้วยดีลสุดคุ้มที่เราตั้งใจออกแบบมาเป็นของขวัญให้กับลูกค้าทุกคน”

ครบรอบ 29 ปี โฮมโปร ขอมอบความสุขคืนกลับให้ลูกค้าทุกคน ด้วยแคมเปญใหญ่แห่งปี !! “HomePro 29th Anniversary และ เมกาโฮม ครบรอบ 12 ปี แจกทอง 29 บาท” รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท! ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568 นี้ สำหรับสมาชิกโฮมการ์ด –– เพียงช้อปครบทุก 3,000 บาท/ใบเสร็จ ก็รับสิทธิ์ลุ้นรับทองได้ทุกการช้อปทันที !!

ลูกค้าโฮมโปร และเมกาโฮม สามารถร่วมลุ้นรางวัลได้ทุกช่องทาง –– ไม่ว่าจะช้อปที่หน้าร้านหรือออนไลน์ก็ได้รับสิทธิ์ตามเงื่อนไขเดียวกัน สมาชิกโฮมการ์ด Regular รับ 1 สิทธิ์, สมาชิกโฮมการ์ด Prestige รับเพิ่ม 2 สิทธิ์ พิเศษสุด! เมื่อชำระด้วยบัตร Visa รับเพิ่มอีก 5 เท่าทันที !!

ห้ามพลาด! ความคุ้มค่ามากกว่า 10 ต่อ ระหว่างวันที่ 1–11 พฤศจิกายน 2568

จัดเต็มทั้งส่วนลด-คะแนนสะสม-เงินคืน-ราคาพิเศษ แฟลชดีล-แจกโค้ดส่วนลด-ของขวัญสุดพรีเมียม

คุ้มแบบได้ทันที – ส่วนลดทันที/ลดเพิ่มสำหรับสมาชิก

  • PRO SAVE: ลดเพิ่มรวมสูงสุด 15% สำหรับรายการที่ร่วม (ตามเงื่อนไขรายการ/หมวดสินค้า)
  • สมัครสมาชิกใหม่โฮมการ์ด รับคูปองส่วนลด 110 บาท เมื่อช้อปครบตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ

คุ้มแบบได้คืน – ได้ทั้งคะแนน/เงินคืน/คูปองช้อปต่อ *เฉพาะสมาชิกโฮมการ์ด*

  • PRO BONUS: ช้อปครบตามเงื่อนไข รับสูงสุด 1,100 คะแนน + รับเงินคืนสูงสุด 500 บาท เข้าโฮมโปร วอลเล็ต
  • PRO NEXT: ช้อปที่สาขาครบตามเงื่อนไข รับทันทีคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จรวมสูงสุด 500 บาท สำหรับบิลถัดไป

คุ้มแบบธนาคาร – จ่ายน้อยลงด้วยบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม

  • PRO BANK: ลด + รับเครดิตเงินคืน รวมสูงสุด 7%* เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม

คุ้มแบบเลือกได้ – แลกคะแนน/แลกซื้อราคาพิเศษ *เฉพาะสมาชิกโฮมการ์ด*

  • PRO BURN: แลกคะแนน 1,000 คะแนน รับส่วนลดทันที 229 บาท (จากปกติ 100 บาท) เพื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป*
  • PRO REDEEM: แลกซื้อสินค้าราคาพิเศษ เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข เริ่มต้นเพียง 29 บาท

คุ้มแบบดีลพรีเมียม – ซื้อเป็นคู่/รับของแถม

  • PRO DUO: ซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไข บิลแรกช้อปที่โฮมโปรออนไลน์และบิลถัดไปช้อปต่อที่โฮมโปรทุกสาขา รับฟรี พัดลมพกพา มูลค่า 990 บาท จำกัด 1,000 ท่านแรกตลอดรายการ*

คุ้มแบบตัวท็อป – เฉพาะวันที่ 1 พ.ย. 68 และ 11 พ.ย. 68

  • PRO DISCOUNT: รับคูปองส่วนลด 500 บาท ช้อปครบตามเงื่อนไข กดรับสิทธิ์ผ่าน Line HomePro Connect
  • PRO FLASH SALE: ดีลราคาแรงส์เฉพาะวัน ราคา 11.- / 111.- / 1,111.- เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ*
  • PRO NEW OMNI: รับเงินคืนทันที 500 บาท สำหรับลูกค้าใหม่โฮมการ์ด และช้อปสินค้าทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ในวันเดียวกันเท่านั้น

นางอุไรวรรณ เสริมทิ้งท้ายว่า “เราอยากให้ทุกการมาช้อปกับโฮมโปร ในปีที่ 29 นี้ และเมกาโฮม ปีที่ 12 นี้ เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าและมีความหมาย ไม่ว่าลูกค้าจะต้องการหาของชิ้นใหญ่ รีโนเวทบ้าน หรืออัปเกรดมุมเล็กๆ ให้สวยงามขึ้น ก็สามารถเลือกดีลที่ใช่สำหรับบ้านของคุณเองได้ ไม่ว่าจะที่สาขาใกล้บ้านหรือทางออนไลน์ เพื่อแทนคำขอบคุณทุกคน ที่ให้โฮมโปรและเมกาโฮมดูแลบ้านของทุกคนมาตลอด และเราเชื่อมั่นว่าการได้สร้าง Better Living แบบนี้ จะมีไปอย่างต่อเนื่องในวันครบรอบทุกปี”

ระยะเวลาแคมเปญ: 1 – 11 พฤศจิกายน 2568

ช่องทางที่ร่วมรายการ: โฮมโปร เมกาโฮมทุกสาขาทั่วประเทศ และออนไลน์

รายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.homepro.co.th หรือ Call Center หมายเลข 1284

#โฮมโปรครบรอบ29ปี #โฮมโปร #HomePro #BetterLiving #เมกาโฮมครบรอบ12ปี #เมกาโฮม #MegaHome #เมกาโฮมศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและงานช่าง #ครบเรื่องบ้านและงานช่าง #homepropr

“ปวดคอเรื้อรัง ไม่ใช่เรื่องเล็ก!!! ส่งผลทั้งกาย–ใจ เสี่ยงสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิต” “อย่าปล่อยให้ปวดคอทำลายชีวิต! รู้เร็ว ป้องกันก่อนสายเกินไป”

การก้มหน้าดูจอสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน อาจกำลังทำร้ายคอและจิตใจคุณอย่างเงียบ ๆ อาการปวดคอแบบไม่จำเพาะเจาะจง (Non-specific Neck Pain) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดในยุคดิจิทัลนี้ โดยสถิติจากพบว่าผู้ป่วยถึง 70–80% มีอาการปวดคอแบบไม่ชัดเจน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่แท้จริงแล้วนี่คือสัญญาณเตือนร้ายแรงของร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม

โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ผนึกความร่วมมือกับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเวทีประชุมวิชาการระดับประเทศ “Update in Common Neck Pain 2025” โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ออร์โธปิดิกส์ และประสาทวิทยามาร่วมถ่ายทอดมุมมองการรักษาแบบองค์รวม ครอบคลุมตั้งแต่
ลักษณะของอาการปวดคอ การวินิจฉัยแยกโรค การปรับตัวของระบบกล้ามเนื้อและประสาท การควบคุมท่าทาง การฟื้นฟูด้วยการออกกำลังกายเชิงประสาท ไปจนถึงเทคโนโลยีการกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็ก (Magnetic Stimulation) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่ได้รับความสนใจในวงการแพทย์ระดับโลก สะท้อนความมุ่งมั่นของสองสถาบันชั้นนำในการยกระดับมาตรฐานเวชศาสตร์ฟื้นฟูของไทยให้เทียบเท่าสากล

นพ.ชนศักดิ์ หทัยอารีย์รักษ์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระรามเก้า อธิบายว่า อาการปวดคอเรื้อรังไม่ได้สร้างความเจ็บปวดทางร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้เพียงการสัมผัสเบา ๆ หรือความเครียดเล็กน้อยก็สามารถปลุกอาการปวดได้ กลไกนี้เกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทสำคัญ เช่น เซโรโทนิน, นอร์เอพิเนฟรีน หากขาดหายไปอาจนำไปสู่โรคทางจิตเวช หรือทำให้อาการทางจิตที่มีอยู่เดิมกำเริบได้

อาการปวดคอเรื้อรังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยบางรายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ต้องลาหยุดงาน หรือใช้ชีวิตอย่างจำกัด หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง อาการปวดเรื้อรังนี้สามารถลุกลามจนบั่นทอนคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริง กลุ่มเสี่ยงพบมากในวัยรุ่นตอนปลายถึงวัยทำงานตอนต้น โดยพบในเพศชายและหญิงใกล้เคียงกัน สาเหตุสำคัญเกิดจากไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้งานหน้าจอในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน

นพ.ชนศักดิ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การรักษาอาการปวดคอแบบไม่จำเพาะเจาะจงจำเป็นต้องใช้แนวทางแบบองค์รวมและสหสาขาวิชาชีพ ร่วมกับแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ศัลยแพทย์กระดูก จิตแพทย์ นักกายภาพบำบัด และนักกิจกรรมบำบัด โดยการรักษาครอบคลุมทั้งการฟื้นฟูทางกายภาพ การปรับพฤติกรรม และการดูแลทางจิตใจ การทำกายภาพบำบัดถือเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การประคบร้อนหรือเย็น คลื่นอัลตราซาวด์ คลื่นช็อกเวฟ คลื่นไฟฟ้า และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อคลายกล้ามเนื้อและฟื้นฟูความแข็งแรง

การปรับท่าทางให้ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็น เช่น การจัดระดับหน้าจอ คีย์บอร์ด และเก้าอี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงการเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30–60 นาที จะช่วยลดแรงกดต่อคอและบ่าได้อย่างมาก นอกจากนี้ การออกกำลังกายเบื้องต้น เช่น ท่าเก็บคาง (Chin Tuck) โดยค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้งต่อรอบ วันละ 3 รอบ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอชั้นลึก และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดซ้ำ

ด้าน นพ.วิทยา วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า และจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า ความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า สามารถกระตุ้นให้อาการปวดรุนแรงขึ้นได้อย่างมหาศาล การทำจิตบำบัดและการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาทางกาย งานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่า ความเครียดและอาการปวดเรื้อรังคือสองด้านของเหรียญเดียวกัน ที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลควบคู่กัน

“อาการปวดคอเรื้อรัง” ที่ยาวนานเกิน 3 เดือนถือเป็นสัญญาณเตือนอันตรายที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะวงจรของความปวดและความเครียดสามารถขัดขวางการฟื้นฟูของร่างกาย และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาว ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการปวดเรื้อรังหลังจากการบาดเจ็บ ดังนั้นการดูแลแบบองค์รวมที่ใส่ใจทั้งร่างกายและจิตใจ จึงเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นตัวที่ยั่งยืน

นพ. วิทยา ให้ข้อมูลปิดท้ายว่า อาการปวดคอไม่ใช่เรื่องเล็ก การเริ่มต้นปรับพฤติกรรม จัดสภาพแวดล้อม และบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด หากอาการปวดต่อเนื่องหรือรบกวนชีวิตประจำวัน ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามจนบั่นทอนคุณภาพชีวิต เป้าหมายของการรักษาไม่ใช่เพียงการสมานร่างกาย แต่คือการฟื้นฟู “คนทั้งคน” ทั้งกายและใจ เพราะการขอความช่วยเหลือไม่ใช่ความอ่อนแอ หากแต่เป็นก้าวที่ทรงพลังที่สุดสู่การหายดีอย่างแท้จริง

“อย่าปล่อยให้อาการปวดคอเป็นเรื่องเล็กอีกต่อไป เพราะการเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ คือการลงทุนเพื่อร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงในวันข้างหน้า การฟื้นฟูไม่ใช่เพียงแค่รักษาอาการ แต่คือการคืนคุณค่าให้ชีวิตของคุณ… เพราะคุณคือคนสำคัญที่สุดที่ควรได้รับการดูแลอย่างแท้จริง

โฮมโปร ปักหมุดชิงทำเล EEC เปิดสาขา “แหลมฉบัง” ศูนย์รวมโซลูชันเรื่องบ้านครบวงจร สานต่อวิสัยทัศน์ผู้นำ Total Home Solution & Living Experience เสริมแกร่งตลาดภาคตะวันออก ตอบดีมานต์โตเร็วรอบนิคมฯ

โฮมโปร เดินหน้าขยายสาขาสู่ทำเลศักยภาพบนพื้นที่อีสเทิร์นซีบอร์ด เปิดสาขาใหม่ “โฮมโปร แหลมฉบัง” ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านครบวงจร ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์อินไซต์ของคนทำงาน–นักศึกษา–ครอบครัวรอบนิคมฯ ภายใต้แนวคิด “Smart Living & One Stop Shopping” ที่รวมทุกโซลูชันสินค้าและบริการไว้ในที่เดียว ครบครันทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้องครัว เฟอร์นิเจอร์ ของรีโนเวท และมุมโซลูชัน รองรับทุกมิติของการอยู่อาศัยและภาคธุรกิจในยุคใหม่ พร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 นี้ พร้อมโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาใหม่ และห้ามพลาดกับกิจกรรม ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอด 3 วันเต็ม โดยทีมช่างโฮมโปร-มือโปรประจำบ้านคุณ ที่พร้อมให้บริการเพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของคนในพื้นที่ ตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทต่อเดือน

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” (HMPRO) กล่าวว่า “ภาพรวมดีมานด์เรื่องบ้านของแหลมฉบังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการขยายตัว (Growth Rate) 4.79% ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ศักยภาพสูงสุดของจังหวัดชลบุรี รองจากพัทยาและศรีราชา สะท้อนถึงการเติบโตของชุมชนเมือง แรงงาน และนักศึกษาที่ทยอยเข้ามาใช้ชีวิตในละแวกนิคมฯ มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้คือฐานสำคัญของกำลังซื้อใหม่ในตลาดภาคตะวันออก และเป็นโอกาสสำคัญในการขยายบริการโฮมโปรไปสู่ทำเลแห่งอนาคต”

“แหลมฉบังเป็นทำเลศักยภาพที่มีการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำลังซื้อหลักในกลุ่มระดับเริ่มต้น–กลาง ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า ความคุ้มค่า และความสะดวกในการติดตั้ง ขณะที่ในกลุ่มครัวเรือนระดับบน ก็มุ่งเน้นสินค้าที่มีความทนทาน พร้อมบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ ทำให้การตัดสินใจเปิดสาขาใหม่ ‘โฮมโปร แหลมฉบัง’ จึงเป็นการขยายจุดบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ใกล้ขึ้น ลดระยะการเดินทางจากชุมชนโดยรอบ เมื่อเทียบกับสาขาพัทยาเหนือหรือสาขาศรีราชา อีกทั้งยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการซ่อม–เปลี่ยน–ติดตั้ง ให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพ”

นอกจากนี้ ทำเลแหลมฉบังยังได้รับแรงหนุนจากดีมานด์ที่อยู่อาศัยซึ่งขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีอพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียม รวมกันมากกว่า 30,000 ห้อง รองรับกลุ่มนักศึกษาและแรงงานในนิคมฯ ที่ขยับขยายเข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้มีความต้องการด้านการรีโนเวทและปรับปรุงที่อยู่อาศัยสูงควบคู่กันไป อีกทั้งแหลมฉบังยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจฐานรากสำคัญของภาคตะวันออก ซึ่งมีนิคมฯ หลากหลายสาขา ทั้งสิ่งทอ–อุปโภคบริโภค–อาหารและเครื่องดื่ม–อิเล็กทรอนิกส์–ชิ้นส่วนยานยนต์ โครงสร้างอุตสาหกรรมเหล่านี้ล้วนให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ทนทาน คุ้มค่า และตอบโจทย์ด้านเวลา จึงมองหาโซลูชันที่ครบ จบ ในที่เดียว พร้อมมีบริการติดตั้ง–ซ่อมบำรุงแบบมืออาชีพรวมอยู่ในที่เดียว ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการให้บริการแบบ Total Home Solution & Living Experience ของโฮมโปรอย่างสมบูรณ์แบบ

โฮมโปร แหลมฉบัง จึงถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Smart Living & One Stop Shopping” เพื่อรองรับทั้งลูกค้ากลุ่มที่พักอยู่อาศัยและกลุ่มธุรกิจให้ครบในที่เดียว โดยจัดโซนสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตจริง ตั้งแต่โซนเฟอร์นิเจอร์ครบชุด และเทรนด์รีโนเวทบ้านหรือห้องเช่าที่ให้บริการโดยทีมช่างโฮมโปร-มือโปรประจำบ้านคุณ ไปจนถึงโซนครัวครบวงจร ที่รวมเครื่องครัวขนาดเล็กไปจนถึงระบบครัวครบวงจรสำหรับร้านอาหาร–คาเฟ่ และมุมอุปกรณ์งานช่างสำหรับผู้ประกอบการหรือผู้รับเหมารายย่อย ขณะเดียวกันในโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มาพร้อมสินค้าประหยัดพลังงาน พร้อมคำแนะนำจากทีมที่ปรึกษาช่วยออกแบบห้องและเลือกสเปกได้อย่างตรงความต้องการ พร้อมโซนไลฟ์สไตล์จากร้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำ ให้ลูกค้าได้พักผ่อนและใช้เวลาคุณภาพระหว่างเลือกซื้อสินค้า ทั้งหมดรวมอยู่บนพื้นที่ขายราว 7,592 ตร.ม. จากงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์การใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีกว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ Better Living ได้อย่างลงตัว

ฉลองเปิด “โฮมโปร แหลมฉบัง” ความคุ้มค่าจัดเต็มตั้งแต่วันแรก

โฮมโปร จัดโปรโมชันพิเศษฉลองเปิดสาขาใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ให้ลูกค้าได้ช้อปสุดคุ้มตั้งแต่วันแรก! ถึงก่อน มีสิทธิ์ก่อน! ร่วมสนุกตอบคำถามสั้นๆ ลุ้นจับคูปองช้อปสินค้าราคาพิเศษจำนวนจำกัด!

  • 30 ตุลาคม 68 วันเดียวเท่านั้น สิทธิพิเศษสมาชิกโฮมการ์ด และสมาชิกช่าง ช้อปสินค้าอุปกรณ์ช่างราคาพิเศษ จำนวนจำกัด 200 ชิ้น
  • 31 ตุลาคม 68 วันเดียวเท่านั้น สิทธิพิเศษสมาชิกโฮมการ์ด ช้อปสินค้าเรื่องบ้านคุณภาพ จำนวนจำกัด 200 ชิ้น
  • 3 วันเท่านั้น! 31 ต.ค. – 2 พ.ย. 68 สินค้าเรื่องบ้านแบรนด์ดังราคาเดียว 9,990 บาท อาทิ แอลอีดีทีวี, เครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า จำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย!
  • 3 วันเท่านั้น! 31 ต.ค. – 2 พ.ย. 68 กิจกรรม “ซ่อมฟรี!” เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยทีมช่างโฮมโปร #มือโปรประจำบ้านคุณ ห้ามพลาด !!

พร้อมสิทธิพิเศษ แจกเยอะให้หลายต่อ ทั้งคูปอง ส่วนลด เครดิตเงินคืน โปรโมชันจากบัตรเครดิตชั้นนำ ในช่วงฉลอ งเปิดสาขา แจกความสุขต่อเนื่องถึง 9 พฤศจิกายน 2568 นี้!

  • สมัครสมาชิกโฮมการ์ดใหม่ รับทันทีคูปองส่วนลดสุดคุ้ม!
  • สมัครสมาชิกโฮมการ์ดใหม่ รับคูปองส่วนลด300 บาท พร้อมรับคะแนนโฮมการ์ดอีก X3 !! (เฉพาะใบเสร็จแรก)
  • โหลดเลย Homepro Application
  • ฟรีคูปองส่วนลดหลายต่อ รวมสูงสุด 1,800 บาท
  • ซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไข ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. – 2 พ.ย. 68 รับเพิ่มคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ รวมมูลค่า 800 บาท
  • สมาชิกโฮมการ์ด ช้อปครบ…รับคืน!
  • รับเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ต ผ่าน โฮมการ์ด แอปพลิเคชัน รวมสูงสุด 100,000 บาท!
  • สมาชิกบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม รับ 3 ต่อสุดคุ้ม!
  • ลดทันที 3% ตั้งแต่บาทแรก
  • รับเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ต สูงสุด 4% เมื่อชำระเต็มจำนวน
  • รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดอีก 13% เมื่อแลกพอยต์เท่ายอดชำระ
  • สมาชิกบัตรเครดิตกรุงศรี
  • รับเครดิตเงินคืนเพิ่มสูงสุด 12000บาท เมื่อชำระเต็มจำนวน
  • รับส่วนลดเพิ่ม 10% เมื่อแลกพอยต์เท่ายอดชำระ
  • พิเศษ! สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำที่ร่วมรายการ
  • จ่ายน้อยกว่า…สิทธิ์ Super Zero ผ่อนนาน ผ่อนน้อย! ผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุดถึง 24 เดือน
  • ช้อปสะดวกไร้รอยต่อ
  • ฟรี! บริการจัดส่ง ติดตั้ง รื้อถอน ครบภายในวัน! (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)

*ใช้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% / กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, อัตราดอกเบี้ยปกติ 25% ต่อปี*

โฮมโปร แหลมฉบัง (บางละมุง ซอย 3) เปิดบริการเต็มรูปแบบ 31 ตุลาคม 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 21.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 033-268-640

#โฮมโปรแหลมฉบัง #สโตร์โฉมใหม่ #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #homepropr

โรงพยาบาลพระรามเก้า ขับเคลื่อนการสื่อสารแบรนด์ ด้วย AI (Artificial Intelligence)ยกระดับศักยภาพของคนในองค์กร สู่การพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน

โรงพยาบาลพระรามเก้าเดินหน้าพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ด้วยการยกระดับการสื่อสารแบ
รนด์ผ่านผลงานวิดีโอ
“REAL-LIFE INSPIRED STORY” ที่สะท้อนแนวคิดการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับศักยภาพของบุคลากรในองค์กร พร้อมส่งเสริมให้บุคลากรได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอย่างเข้าใจและสร้างสรรค์

          นพ.วิทยา วันเพ็ญ รองกรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า “การประยุกต์ใช้ AI ในกระบวนการผลิตวิดีโอและการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการพัฒนาองค์กรตามหลักความยั่งยืน 3 องค์ประกอบ ได้แก่ คน – กระบวนการ – เทคโนโลยี ซึ่งโรงพยาบาลพระรามเก้าให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาคน การใช้เทคโนโลยี และการปรับกระบวนการทำงานให้ยืดหยุ่น ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล

วิดีโอ “REAL-LIFE INSPIRED STORY” เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างทีมสื่อสารแบรนด์และสื่อการตลาด โรงพยาบาลพระรามเก้า กับเทคโนโลยี AI Generation ในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อสร้างวิดีโอที่สะท้อนภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี เป็นการเปิดโอกาสให้บุคลากรของเราได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับเทคโนโลยี พัฒนาทักษะและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสะท้อนแนวทางการพัฒนาองค์กรที่ผสาน ‘เทคโนโลยี’ เข้ากับ ‘การพัฒนาคน’ อย่างสมดุล

          การทำงานเริ่มตั้งแต่การระดมความคิด การเขียน Storyboard และ Voiceover Script ไปจนถึงการสร้างภาพและตัดต่อวิดีโอ เพื่อให้ได้ผลงาน Short Teaser ที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของ “ช่วงเวลาการดูแลรักษาชีวิต” ได้อย่างกระชับและสื่อความหมายได้ชัดเจน

จุดเด่นของกระบวนการผลิตวิดีโอนี้อยู่ที่ การผสานความคิดของคนกับ AI ทีมงานใช้ AI วิเคราะห์และเรียบเรียงถ้อยคำให้สอดคล้องกับอารมณ์ของภาพและเสียงอย่างละเอียด อาศัยความเข้าใจร่วมกันระหว่าง “มนุษย์ที่เล่าเรื่อง” และ “AI ที่ช่วยต่อยอดจินตนาการ” นอกจากนี้การใช้ข้อมูลจริงเป็นต้นแบบ โดยรวบรวมภาพและข้อมูลจากภายในโรงพยาบาล ทั้งภาพแพทย์ พยาบาล อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบรรยากาศจริงของพื้นที่ เพื่อให้ AI เรียนรู้รายละเอียดและโครงสร้างของภาพ ทำให้วิดีโอที่สร้างขึ้นมีความสมจริงและสะท้อนตัวตนของโรงพยาบาลได้อย่างแท้จริง

หลังการผลิตทุกขั้นตอน วิดีโอจะผ่านการตรวจสอบโดยทีมแพทย์ของโรงพยาบาลพระรามเก้า เพื่อให้มั่นใจว่า ภาพลักษณ์ เนื้อหา และองค์ประกอบทางการแพทย์ถูกต้องตามหลักวิชาการ และเป็นไปตามมาตรฐานของโรงพยาบาลอย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่สะท้อนความใส่ใจในรายละเอียดและคุณภาพของทุกผลงาน     

จุดแข็งสำคัญของโปรเจกต์นี้ คือการเปิดโอกาสให้บุคลากรของโรงพยาบาลได้เรียนรู้และทำงานร่วมกับเครื่องมือ AI จริง ทั้งในด้านการสื่อสาร การคิดสร้างสรรค์ และการจัดการข้อมูล เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ๆ ได้แก่

  • AI Skill (ทักษะการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์)
  • Digital Literacy (ความรู้เท่าทันเทคโนโลยีดิจิทัล)
  • Creative Thinking (การคิดเชิงสร้างสรรค์)

นพ.วิทยา กล่าวเสริมว่า “แนวทางของโรงพยาบาลพระรามเก้า มุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และการพัฒนาทักษะของคน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดเวลา และลดต้นทุน ให้การทำงานภายในองค์กรมีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น”

“สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การใช้ AI ได้ แต่คือการเรียนรู้ว่าจะใช้อย่างเข้าใจและสร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น และสื่อสารด้วยหัวใจมากขึ้น เทคโนโลยีช่วยเสริมศักยภาพของคน ขณะเดียวกัน ‘คน’ ก็เป็นหัวใจที่ทำให้เทคโนโลยีมีความหมายและคุณค่ามากยิ่งขึ้น” นพ.วิทยา กล่าว

วิดีโอ “REAL-LIFE INSPIRED STORY” จึงไม่เพียงเป็นผลงานด้านสื่อสารแบรนด์ แต่ยังเป็น จุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมการทำงานยุคใหม่ ที่คนและเทคโนโลยีเติบโตไปพร้อมกัน “เทคโนโลยีช่วยเสริมศักยภาพของคน ขณะเดียวกัน “คน” ก็เป็นหัวใจที่ทำให้เทคโนโลยีมีความหมายและคุณค่ามากยิ่งขึ้นสะท้อนภาพองค์กรที่พร้อมพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน

ทุกท่านสามารถเข้าไปชม วิดีโอ “REAL-LIFE INSPIRED STORY”  ได้ที่ https://youtu.be/Msu3cJKVa9w?si=MLxzsPmkb–j9gmZ

โฮมโปร (HMPRO) เดินเกมเชิงรุกท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ หนุนบริการจาก “ช่างโฮมโปร” ดันรายได้บริการโตสวนกระแส ตอกย้ำ ‘แบรนด์ผู้นำเรื่องบ้านครบวงจร’ เสริมพอร์ตธุรกิจยั่งยืน

แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2568 จะเผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว ภัยธรรมชาติ และความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร (HMPRO) ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่นและมีความสามารถในการปรับตัวสูง โดยบริษัทฯ ยังคงรักษาผลประกอบการได้อย่างมั่นคง พร้อมเดินหน้าหนุนธุรกิจบริการจาก “ช่างโฮมโปร (Chang HomePro) – มือโปรประจำบ้านคุณ” ให้เติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์มพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำ “Total Home Solution” ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องบ้าน

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร (HMPRO) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,303.57 ล้านบาท ลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 16,715.77 ล้านบาท ลดลงเพียง 1.7% ท่ามกลางบริบทเศรษฐกิจที่ท้าทาย ขณะที่กำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 4,409.50 ล้านบาท ลดลง 7.68% โดยบริษัทฯ ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับแข็งแกร่งที่ 26.25% สะท้อนถึงประสิทธิภาพด้านการบริหารต้นทุนสินค้าและการดำเนินงานอย่างรอบคอบ

“ปีนี้เป็นปีแห่งความท้าทายของภาคธุรกิจค้าปลีกและวัสดุก่อสร้าง แต่โฮมโปรยังมุ่งเน้นสร้างมูลค่าให้ลูกค้าต่อเนื่อง ทั้งในมิติของสินค้าและบริการ โดยเฉพาะการยกระดับบริการจากทีมช่างโฮมโปร (Chang HomePro) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักการเติบโตของธุรกิจ พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้ทุกที่ทุกเวลา สะท้อนความยืดหยุ่นของโมเดลธุรกิจที่พร้อมปรับตัวต่อทุกสถานการณ์” นายวีรพันธ์ กล่าว

ในไตรมาสที่ผ่านมา โฮมโปรยังคงเดินหน้าขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ โฮมโปร บ่อวิน แม่สาย และบางนา-ตราด รวมถึงเมกาโฮม แม่สาย ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพสำคัญในภาคตะวันออกและภาคเหนือ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทฯ มีสาขารวมทั้งสิ้น 139 แห่ง ครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย สะท้อนศักยภาพการเติบโตเชิงรุกและการขยายเครือข่ายธุรกิจอย่างยั่งยืน

นอกจากการขยายสาขา บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับ “ประสบการณ์ลูกค้า” ในทุกมิติ ผ่านกิจกรรมด้านความยั่งยืน (ESG) และบริการหลังการขาย ที่สร้างคุณค่าร่วมให้กับสังคม โดยเฉพาะโครงการ “ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่โฮมโปรและเมกาโฮม ทั่วประเทศ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ช่วยเสริมความผูกพันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค และสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริการของแบรนด์ จากทีมช่างมืออาชีพ “ช่างโฮมโปร” ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งสำคัญองค์กร

นายวีรพันธ์ กล่าวอีกว่าในด้านช่องทางออนไลน์ โฮมโปรเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ Omni-Channel อย่างเต็มรูปแบบ โดยพัฒนาบริการ Quick Commerce ร่วมกับพันธมิตรอย่าง LINE MAN และ Grab ควบคู่กับการเปิดร้านค้าทางการบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักอย่าง Shopee, Lazada และ TikTok Shop ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้า เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ และตอบสนองความต้องการได้รวดเร็วขึ้น ทันท่วงที

แม้รายได้จากการขายสินค้าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยตามฤดูกาล แต่รายได้บริการจากทีมช่างโฮมโปร (Chang HomePro) และค่าเช่าพื้นที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นกว่า 2% จากการบริหารพื้นที่ในสาขาและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตธุรกิจ

นายวีรพันธ์ กล่าวเสริมว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2569 คาดว่าจะช่วยหนุนกำลังซื้อของผู้บริโภคให้กลับมา พร้อมกับการปรับกลยุทธ์เชิงรุกในด้านดิจิทัล การบริการ และการขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนโฮมโปรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะผู้นำธุรกิจเรื่องบ้านครบวงจรของภูมิภาคอีกด้วย

#ผลประกอบการQ32025 #โฮมโปร #HomePro #BetterLiving #homepropr

ดีไซน์ที่เข้าใจชีวิตจริง | MOYA เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ถ่ายทอดแนวคิด “ความคุ้มค่า ที่ดีไซน์มาเพื่อคุณ” สู่ Tatal Bathroom Solutions ที่ทำให้ทุกวันดีขึ้นเสมอ

ห้องน้ำอาจเป็นพื้นที่เล็กที่สุดในบ้าน แต่สำหรับ MOYA ห้องน้ำคือจุดเริ่มต้นและปลายทางของแต่ละวัน – MOYA แบรนด์สุขภัณฑ์คุณภาพจาก HomePro เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ถ่ายทอดแนวคิด “ความคุ้มค่า ที่ดีไซน์มาเพื่อคุณ” สะท้อนมุมมองของแบรนด์ที่เชื่อว่า “ความสุขในห้องน้ำ ไม่ได้เริ่มต้นจากดีไซน์ที่สวยที่สุด แต่เกิดจาก ดีไซน์ที่เข้าใจที่สุด” — เพราะแต่ละคนมีวิถีชีวิตและพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำที่แตกต่างกัน

MOYA ตั้งใจออกแบบทุกผลิตภัณฑ์ ภายใต้แนวคิด “Smart Simplicity × Functional Beauty” ผสาน “ความเรียบง่าย” เข้ากับ “ฟังก์ชันที่คิดครบ” เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงในทุกวัน ให้ง่ายขึ้น สบายขึ้น และคุ้มค่ามากกว่าเดิม โดยมุ่งให้ทุกดีไซน์ไม่เพียงดูดี แต่ต้อง “ใช้ดี” และ “ใช้ได้นาน” เพื่อให้ทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิตในห้องน้ำดีขึ้นจริงในทุกวัน

จากดีไซน์สู่โซลูชันห้องน้ำครบวงจร

บทบาทของ MOYA จึงไม่ได้หยุดอยู่แค่ “ผู้ผลิตสุขภัณฑ์” แต่เป็น “ผู้ดูแลประสบการณ์ในห้องน้ำอย่างครบวงจร” (Total Bathroom Solution) ที่คิดมาให้ครบทุกมิติ ทั้งเรื่องความสบาย ความปลอดภัย การดูแลรักษาง่าย และความทนทานในระยะยาว ครอบคลุมทั้งสุขภัณฑ์ เค้าท์เตอร์อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ ไปจนถึงอุปกรณ์ตกแต่งที่ออกแบบให้ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว พร้อมมี “บริการติดตั้งและรื้อถอน” โดยทีมช่างมืออาชีพจาก CHANG HomePro ที่ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ให้ทุกขั้นตอนการปรับปรุงห้องน้ำเป็นเรื่องง่าย มั่นใจได้ ได้รับทั้งสินค้าและบริการที่ครบ จบ ในที่เดียว

Inclusive Design For Every Lifestyle

MOYA ยึดหลัก “Inclusive Design” เพื่อให้ทุกผลิตภัณฑ์ใช้งานได้จริงกับทุกคน ทุกวัย และทุกพื้นที่ของบ้าน — ไม่ว่าห้องน้ำจะเล็กหรือใหญ่ ก็ยังคงความสวย เรียบง่าย และใช้งานสะดวกในทุกมุม พร้อมตอบโจทย์ทั้งความสบาย ความปลอดภัย และการดูแลรักษาที่ง่าย

ความคุ้มค่า ที่ดีไซน์มาเพื่อคุณ

MOYA เชื่อว่า ดีไซน์ที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องเข้าใจในชีวิตจริง – “ความคุ้มค่า” ที่แท้จริง จึงไม่ได้วัดจากราคาวันที่ซื้อ แต่คือความสุข ความสะดวก และความมั่นใจที่อยู่กับผู้ใช้ได้ในทุกวัน — ด้วยแนวคิด “Value Conscious” ที่ให้คุณค่ามากกว่าราคาที่จ่าย เพื่อทำให้ทุกวันในห้องน้ำ “ดีขึ้นจริง” ทั้งในแง่ของความสบายกายและความสบายใจ

ถ่ายทอดชีวิตจริง ผ่านภาพยนตร์โฆษณาใหม่

เหมือนภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุดของ MOYA ที่พาผู้ชมเข้าใกล้รายละเอียดที่เราอาจเคยมองข้าม ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านมุมมองของผู้ใช้งานจริง ความเรียบง่ายของชีวิตจริงในห้องน้ำ สุขภัณฑ์ที่ดีไซน์สวย รองรับทุกสรีระ ชำระล้างหมดจดคุณภาพที่คุณมั่นใจ เพื่อสะท้อนว่า “ทุกดีไซน์ของ MOYA ไม่ได้ดีไซน์แค่ตามเทรนด์ แต่เริ่มจากความเข้าใจจริงๆ” เพราะในชีวิตจริงของทุกคน ต่างมีพื้นที่เล็กๆ ในบ้านที่อยากให้ “ดีขึ้นเสมอ”

For Better Living

ภายใต้แนวคิดของโฮมโปร Better Living ที่อยากให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของทุกคนดียิ่งขึ้น MOYA ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ดูดีในแบบที่ใช้งานได้จริง กับทุกคน ทุกวัย และทุกพื้นที่ของบ้าน – ไม่ว่าห้องน้ำจะเล็กหรือใหญ่ ก็ยังคงความสวย เรียบง่าย และใช้งานได้ดีในทุกมุม เหมือนกับตัวอย่างการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่แทรกรายละเอียดเล็ก ๆ จนสร้างความรู้สึกดีได้โดยไม่ต้องพยายาม ไม่ว่าจะเป็น…

  • สุขภัณฑ์อัตโนมัติครบทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่น สะดวกสบาย ใช้งานง่ายทุกวัน  ด้วยดีไซน์โค้งมน รองรับทุกสรีระ

ควบคุมง่าย ปรับน้ำ ลม อุณหภูมิได้ตามต้องการ

  • ก๊อกอ่างล้างหน้า – ผลิตจากทองเหลืองแท้ 100% คุณภาพสูง เคลือบผิวด้วยโครเมียม เงางาม ดีไซน์มินิมอล ควบคุมการไหลลื่น ดูแลง่าย ใช้ได้นาน เป็นนิยามของ “คุ้มค่า” ในภาษาของ MOYA
  • อ่างเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าสำเร็จรูปที่มาพร้อมเคาน์เตอร์ด้านล่างให้คุณจัดเก็บของใช้ได้อย่างอเนกประสงค์ โดดเด่นด้วยลิ้นชักที่สามารถจัดเก็บของใช้ได้เป็นสัดส่วน วัสดุคุณภาพดีทนต่อความชื้นและแมลง
  • กระจก LED – ดีไซน์กระจกทรงรี สวยงาม โดดเด่นอย่างมีสไตล์  ด้วยฟังก์ชันไฟ LED เปิด-ปิดง่ายด้วยระบบสัมผัส

“MOYA ไม่ได้แค่ดีไซน์สุขภัณฑ์ แต่เราดีไซน์ชีวิตจริงของคนใช้ ทุกอย่างเริ่มจากคำถามง่าย ๆ ว่า ลูกค้าต้องการอะไรจริง ๆ ในทุกวัน? และเราตอบด้วยการสร้างดีไซน์ที่ทั้งสวย ใช้งานง่าย และอยู่กับชีวิตได้นาน เพื่อให้ทุกเช้า ทุกค่ำ หรือทุกช่วงเวลาดีขึ้นเสมอ ภายใต้แนวคิด MOYA ความคุ้มค่า ที่ดีไซน์มาเพื่อคุณ” คุณอุไรวรรณ กล่าวเสริม

เชิญสัมผัสประสบการณ์ห้องน้ำที่ “เข้าใจชีวิตจริง” กับผลิตภัณฑ์ MOYA ได้ที่ HomePro และ Mega Home ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ที่ www.homepro.co.th

#MOYA #MOYAความคุ้มค่าที่ดีไซน์มาเพื่อคุณ #โฮมโปร #HomePro #BetterLiving #homepropr

โรงพยาบาลพระรามเก้า  “ส่งต่อการให้” นำกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่สู่ รพ. ยะลา ยกระดับการรักษา ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ

นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมด้วย นพ. วิทยา วันเพ็ญ รองกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและสำนักงานแผนยุทธศาสตร์ และ นางสาวขมาภรณ์ ธัมพิพิธ     รองกรรมการผู้อำนวยการ กำกับดูแลฝ่ายบัญชีการเงิน มอบกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่ความละเอียดสูง ภายใต้โครงการ “ส่งต่อการให้” เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลคุณภาพโดยมี  พญ.กรชนก      ตั้งนภาดล แพทย์ผู้ชำนาญการศัลยกรรม โรงพยาบาลยะลา เป็นตัวแทนรับมอบ ณ ลาน LED Wall ชั้น 1 อาคารบี โรงพยาบาลพระรามเก้า  เมื่อเร็วๆนี้

รพ.พระรามเก้า ผนึกกำลัง รพ.พระมงกุฎเกล้า เปิดเวทีวิชาการยิ่งใหญ่ “Update in Common Neck Pain 2025”

นพ.วิทยา วันเพ็ญ รองกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและสำนักงานแผนยุทธศาสตร์ โรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมด้วย พล.ท.พญ.วิไล ชินสกุล ที่ปรึกษาศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ผนึกกำลังกับ       รพ.พระมงกุฎเกล้า เปิดเวทีประชุมวิชาการระดับประเทศ “Update in Common Neck Pain 2025”        เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การดูแล “อาการปวดคอ” อย่างรอบด้าน โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมงาน อาทิ พ.อ.พิเศษ นพ.ธง พงษ์หาญยุทธ หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า,          ผศ.นพ.วิษณุ กัมทรทิพย์ อดีตประธานราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทย และ  พ.อ.พิเศษ ศ.นพ.สุริยา ลือนามผู้อำนวยการกองออร์โธปิดิกส์ รพ.พระมงกุฎเกล้า เข้าร่วมงานด้วย  ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 5 อาคารเอ โรงพยาบาลพระรามเก้า เมื่อเร็ว ๆ นี้