“แบรนด์” เปิดตัวแคมเปญวันสงกรานต์ 2025 “ให้แบรนด์แทนใจ ให้ใจใกล้กัน”ตอกย้ำความผูกพันและความห่วงใยในสุขภาพของคนในครอบครัว

บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) ผู้นำตลาดอาหารเสริมสุขภาพภายใต้ตราผลิตภัณฑ์แบรนด์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เปิดตัวแคมเปญต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ 2025 ภายใต้แนวคิด    “ให้แบรนด์แทนใจ ให้ใจใกล้กัน” สื่อถึงความรัก ความห่วงใย และสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของคนในครอบครัว เพราะส่วนใหญ่มักไม่ค่อยบอกความรู้สึกกันตรง ๆ หรือ “เจอหน้ากันแต่ไม่พูดอย่างใจคิด” โดยปีนี้ “แบรนด์” มุ่งเน้นการส่งต่อความปรารถนาดีผ่านชุดของขวัญเพื่อสุขภาพที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า ให้สงกรานต์ปีนี้เป็นมากกว่าการสังสรรค์ร่วมกัน แต่เป็นการมอบการดูแล รวมถึงแสดงความห่วงใย และความใกล้ชิดกันอย่างแท้จริง

นายนภิส ศศิวิมลกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์รังนกแท้และของขวัญแบรนด์ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “สงกรานต์เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกครอบครัวได้กลับมาพบกัน เราจึงต้องการให้ ‘แบรนด์’ เป็นตัวแทนของความห่วงใย ที่ช่วยส่งต่อสุขภาพดีให้กับคนที่เรารัก ภายใต้แนวคิด ‘ให้แบรนด์แทนใจ ให้ใจใกล้กัน’ ซึ่งเราตั้งใจออกแบบแคมเปญนี้ให้ครอบคลุมทั้งผู้ที่ต้องการมอบของขวัญให้คนในครอบครัว และผู้ที่ต้องการทำบุญอย่างใส่ใจ เพื่อให้สงกรานต์ปีนี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยความหมาย”

เพื่อให้การส่งต่อความรักและความปรารถนาดีเป็นเรื่องง่ายขึ้น BRAND’S จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลดสูงสุด 15% สำหรับกระเช้าและชุดของขวัญเพื่อสุขภาพหลากหลายรูปแบบ พร้อมมอบกระเป๋าเก็บความเย็น รุ่น Wiggle Cooler Bag ฟรี! เมื่อซื้อครบ 1,499 บาท โดยสามารถเลือกซื้อได้ที่ Lotus’s, Big C, The Mall และ Tops ทุกสาขา ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 23 เมษายน 2568 ตามช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถมอบของขวัญที่มีคุณค่าและมีความหมายให้กับคนที่รักแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำความตั้งใจของ “แบรนด์” ในการสนับสนุนสุขภาพที่ดีของทุกคน

นายนภิส กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของแคมเปญปีนี้คือการเปิดตัว แพ็กทำบุญที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพของพระสงฆ์ โดยจำหน่ายครั้งแรกที่ 7-Eleven ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2568 ในราคา 155 บาท พร้อมโปรโมชั่นลดพิเศษ สำหรับแพ็กทำบุญแบบ Empty Box ที่สามารถเลือกผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด หรือแบรนด์รังนกแท้ เพื่อส่งเสริมการถวายอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่ง “แบรนด์” เชื่อว่าแนวคิดนี้จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมการทำบุญในรูปแบบที่คำนึงถึงสุขภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ แบรนด์ร่วมกับธนาคารยูโอบี มอบสิทธิพิเศษให้ผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบีอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถใช้คะแนนสะสมแลกรับชุดของขวัญเพื่อสุขภาพ เริ่มต้นเพียง 1,950 คะแนน ที่ฟีเจอร์ Rewards+ บนแอป UOB TMRW     ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์วีต้า วิตามินเอ เบอร์รี่ช็อต (42 มล. x 6 ขวด) ใช้ 1,950 คะแนน มูลค่า 209 บาท, แบรนด์ซุปไก่สกัด (42 มล. x 6 ขวด) ใช้ 2,200 คะแนน มูลค่า 229 บาท, แบรนด์รังนกแท้ สูตรไซลิทอล (42 มล. x 9 ขวด) ใช้ 8,700 คะแนน มูลค่า 944 บาท รวมถึงกระเช้าของขวัญสุดพิเศษ HAMPER A แบรนด์รังนกแท้ สูตรไซลิทอล (42 มล. x 10 ขวด) ใช้ 10,200 คะแนน มูลค่า 1,099 บาท, HAMPER B แบรนด์ซุปไก่สกัดและรังนกแท้คลาสสิก (42 มล. x 10 ขวด) ใช้ 7,800 คะแนน มูลค่า 839 บาท, และ HAMPER C แบรนด์ซุปไก่สกัด (42 มล. x 10 ขวด) ใช้ 3,800 คะแนน มูลค่า 409 บาท ให้คุณแลกสุขภาพดีเป็นของขวัญให้ตัวเองและคนที่คุณรักได้แล้ววันนี้ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด และใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี)

นายนภิส กล่าวปิดท้ายว่า “แบรนด์” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ของขวัญ แต่เป็นตัวแทนของความรักและความห่วงใยที่ส่งต่อถึงกันได้อย่างแท้จริง เราหวังว่าสงกรานต์ปีนี้ ทุกคนจะได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว พร้อมส่งต่อสุขภาพดีผ่านผลิตภัณฑ์ของ BRAND’S ไม่ว่าจะเป็นชุดของขวัญเพื่อคนที่คุณรัก หรือแพ็กทำบุญ เพื่อให้เทศกาลนี้เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมาย และมีคุณค่ามากกว่าที่เคย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Brand’s World Thailand หรือคลิก www.facebook.com/BRANDSWorldThailand หรือ Line Official Account @brandsworld

“เรมี่ (REMY)” บุกตลาด Exotic! จับมือหมออ้อย เปิดตัวขนมสุขภาพสัตว์ฟันแทะ 3 สูตร แบรนด์แรกในไทย ภายใต้ คอนเซปท์ Healthy Berry Plus Vit C

นางสาวสุดาทิพ เกียรติศรีชาติ (ลำดับ 4 จากซ้าย) กรรมการ กลุ่มบริษัท PFG – พัทยาฟู้ด พร้อมด้วย น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล (ลำดับ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ ร่วมกันเปิดตัว “เรมี่ (REMY)” ขนมสุขภาพสัตว์ฟันแทะ Exotic มาในรูปแบบ Puree Jelly ที่ทำจากผลเบอร์รี่และสมุนไพรแท้หลากชนิด ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินจากธรรมชาติ มีรสชาติอร่อย กลิ่นหอม เนื้อสัมผัสนุ่มและชุ่มฉ่ำ บรรจุในซองขนาด 6 กรัม ทำให้สะดวกในการพกพาและป้อนให้เหล่าน้องๆ ฟันแทะ ซึ่ง “เรมี่ (REMY)” เป็นแบรนด์ที่ร่วมพัฒนากับ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ โดยมี คุณพิมพิกา ทองเจริญพูลพร (ลำดับ 1 จากขวา) ผู้จัดการเขต โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ, สพ.ญ.ณัฐจิรา อุปนิสัย (ลำดับ 2 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ, นสพ.ณฐกรณ์  ดวงหัสดี (ลำดับ 2 จากซ้าย)  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวทไวทัลลิสท์  จำกัด ตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่ม Pet shop ในต่างจังหวัดทั่วประเทศและ คุณอนงค์ มิเล (ลำดับ 1 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปสายงานการตลาดและการขาย ร่วมงานเปิดตัวด้วย ณ ไบเทคบางนา เมื่อวันก่อน

REMY มีช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ ดังนี้ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อทุกสาขา กลุ่มโรงพยาบาลสัตว์ และ คลินิก รวมทั้งร้าน Pet Shop กว่า 300 ร้านค้าทั่วประเทศ และร้านค้าออนไลน์ หรือสนใจสั่งผลิตภัณฑ์ติดต่อ 098-6194461

ติดตามโฆษณา REMY ได้ที่

Youtube  https://www.youtube.com/watch?v=Jqm-EDfZ4uY

TIKTOK: https://www.tiktok.com/@remypetfoods

FACEBOOK: https://www.facebook.com/remypetfoods

LINE OA : https://lin.ee/5W8xCkI

โฮมโปร จับมือ มาซูม่า เปิดตัว “เครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลกจากพลาสติกหมุนเวียน”

นายแสงศักดิ์ สรกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดซื้อ Water Solution & Electric Merchandising  บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย  นายศรัล ดุรงค์เดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวเครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลก (Circular Products)มาพร้อมกับเทคโนโลยีจากมาซูม่า ที่ทำจากวัสดุหมุนเวียน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์การหมุนเวียนทรัพยากรให้ไม่เสียเปล่าและเกิดมูลค่าสูงสุด พร้อมแก้ปัญหาของผู้บริโภค ด้วยการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าไปจัดการอย่างถูกวิธี ช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ WEEE (Waste of Electrical and Electronic Equipment) ได้อย่างยั่งยืน

#สินค้ารักษ์โลกผลิตจากวัสดุหมุนเวียน #CircularProducts #CircularEconomy #โฮมโปร #HomePro #BetterLiving #Homepropr #มาซูม่า #mazuma #เครื่องทำน้ำอุ่นรักษ์โลก

ไวไว สนับสนุนมื้ออาหารทีมช่วยเหลือแผ่นดินไหว พร้อมยืนเคียงข้างคนไทยในทุกช่วงเวลาวิกฤต

บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ร่วมมือ มูลนิธิองค์ทำดี ส่งมอบมื้ออาหารสนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ ในการช่วยเหลือค้นหาผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและตึกถล่ม

จากสถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อผู้คนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ที่เกิดการพังถล่มของอาคารขนาดใหญ่ ทำให้หลายภาคส่วนได้ระดมความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ที่ได้ทำภารกิจช่วยเหลือค้นหาผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เหตุการณ์เกิดขึ้น

บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นกำลังใจเคียงข้างเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับ “มูลนิธิองค์ทำดี” รวมถึงทีมพนักงานจิตอาสาของบริษัทฯ ในการจัดส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวชาม จำนวน 720 ชาม และเมนูก๋วยเตี๋ยวน้ำเส้นหมี่อบแห้งไวไว จำนวน 500 ชาม ส่งมอบแก่เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ประสบภัย เพื่อเพิ่มพลังกายและบรรเทาความเหนื่อยล้า สนับสนุนให้ภารกิจการช่วยเหลือลุล่วงไปได้ด้วยดี

ด้าน นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว และเส้นหมี่อบแห้งไวไว กล่าวว่า ไวไว เป็นมื้ออาหารที่อยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนานในทุกช่วงเวลา ซึ่งในช่วงเวลายากลำบากที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่เช่นนี้ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ

ทั้งนี้ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ขอส่งกำลังใจถึงผู้ประสบภัยทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกฝ่ายที่เสียสละแรงกายแรงใจเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และขอให้สถานการณ์ครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้โดยเร็ว

GAC สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ กวาดยอดจอง 7,018 คัน คว้าอันดับ 2 แบรนด์รถไฟฟ้า ในงาน Motor Show 2025

GAC ผู้นำด้านยานยนต์จากประเทศจีน สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ด้วยยอดจองรถยนต์ภายในงานสูงถึง 7,018 คัน ก้าวขึ้นครองตำแหน่งยอดจองสูงสุดอันดับที่ 2 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และมียอดจองสูงสุดอันดับที่ 3 ในกลุ่มแบรนด์รถยนต์ทั้งหมดที่เข้าร่วมงาน ยืนยันความนิยมและความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคชาวไทยมีต่อยนตรกรรมอัจฉริยะจาก GAC

การตอบรับอย่างล้นหลามในงานครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ GAC ในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะตลาดประเทศไทยซึ่งมีการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในรถยนต์พลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ GAC ได้ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงานได้อย่างโดดเด่น ผ่านการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ AION UT รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์แฮทช์แบคที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และ M8 PHEV รถยนต์ MPV ระดับพรีเมียมที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ให้ความสะดวกสบายและความหรูหราที่เหนือระดับและตอบโจทย์การใช้งานจริงอย่างครอบคลุม

AION UT เป็นยนตรกรรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์แฮทช์แบคทันสมัยที่ให้ความคล่องตัว พร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิด 210 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟตขนาด 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยยังคงจุดเด่นด้านความปลอดภัยและฟังก์ชันอัจฉริยะ พร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อและควบคุมได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับดีไซน์ภายในที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเกินคลาส ทำให้ AION UT เป็นทางเลือกที่น่าจับตามองในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก

นอกจากนี้ AION UT ยังสามารถคว้ารางวัล “THE MOST VALUABLE EV AWARD” หรือรางวัลรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุด ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 โดยรางวัลนี้นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญถึงความสำเร็จของ GAC ในการพัฒนาและนำเสนอยานยนต์พลังงานสะอาดที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างครบถ้วน และด้วยคุณสมบัติที่เหนือชั้นของ AION UT ทำให้สามารถกวาดยอดจองภายในงานไปได้สูงถึง 4,568 คัน

ในขณะที่ M8 PHEV ได้รับการออกแบบเพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวและผู้บริหาร ด้วยตัวถัง MPV ขนาดใหญ่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า มีระยะทางรวมในการขับขี่มากกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จและเติมน้ำมันเต็ม ช่วยลดความกังวลในการใช้งานทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งอย่างประณีต ใช้วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม เบาะนั่ง VIP แบบ Captain Seat ปรับด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พร้อมฟังก์ชันนวดและระบายอากาศ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริหารยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความสะดวกสบายและภาพลักษณ์ที่เหนือระดับ

นอกจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่แล้ว GAC ยังได้ประกาศกลยุทธ์ ONE GAC 2.0 ซึ่งเป็นการยกระดับวิสัยทัศน์ของบริษัทสู่การเป็นองค์กรยานยนต์พลังงานใหม่ระดับโลก โดยเน้นการผนึกกำลังทุกหน่วยธุรกิจภายใต้กลุ่ม GAC เพื่อสร้างระบบนิเวศยานยนต์แห่งอนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์ บริการหลังการขาย และประสบการณ์ของลูกค้า กลยุทธ์ดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ GAC ได้ลงทุนในด้านเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย การสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ที่จังหวัดระยอง จัดตั้งคลังอะไหล่กลาง และศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศ เพื่อมอบความมั่นใจในบริการหลังการขายและการดูแลระยะยาวอย่างแท้จริง

การคว้าส่วนแบ่งตลาดในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในเชิงพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่า GAC ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและนวัตกรรมจากผู้บริโภคชาวไทยในวงกว้าง โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดยานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความนิยมของ GAC ในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด และมองหายานยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการรักษาสิ่งแวดล้อม

ความสำเร็จของ GAC ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 จึงไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขยอดจองที่น่าประทับใจ แต่เป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของ GAC รวมถึงเป็นการตอบรับที่ดี ทั้งนี้ทาง GAC ยังยึดมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด GAC พร้อมเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณค่า ทั้งในด้านนวัตกรรม การออกแบบ ประสบการณ์การใช้งาน และการบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อส่งมอบอนาคตแห่งการเดินทางที่ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนอย่างแท้จริงให้กับผู้บริโภคชาวไทย

UNFPA-สสส. ผนึกกำลังภาครัฐ ภาคี 8 หน่วยงาน ปลดล็อกแพลตฟอร์ม SoSafe เดินหน้ายกระดับสุขภาพและความปลอดภัย ผ่านการพัฒนาชีวิตทุกช่วงวัย สำหรับทุกกลุ่ม ทุกเพศและทุกวัย

ดร. จูลิตตา โอนาบันโจ ผู้อำนวยการ UNFPA ประจำประเทศไทยและผู้แทนประจำประเทศมาเลเซีย พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ดร. นายแพทย์บุญฤทธิ์ สุขรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กระทรวงสาธารณสุข, นายไพศาล วุทฒิลานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ, ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาตินางสาวภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และนายสว่าง แก้วกันทา ผู้อำนวยการมูลนิธิพัฒนาผู้สูงอายุ  ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม SoSafe ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ ความปลอดภัย และการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทย โดยแพลตฟอร์ม SoSafe เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลในแอปพลิเคชัน Line ที่มุ่งช่วยเหลือประชากรทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ให้เข้าถึงข้อมูลสิทธิประโยชน์ และความช่วยเหลือด้านปัญหาสังคม ซึ่งเริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ใน 15 จังหวัดทั่วประเทศ ณ โรงแรมพริ้น พาเลซ กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็ว ๆ นี้

GEMS MILLION พร้อมรุกตลาดปี 68 หลังปี 67 ธุรกิจอัญมณีค่อนข้างซบเซาพร้อมส่งแบรนด์ใหม่ร่วมงาน JGAB หวังขยายฐานลูกค้า จ่อรับออเดอร์ใหม่ๆ

GEMS MILLION กล่าวว่า ปี 2567 เศรษฐกิจกระทบภาพรวมธุรกิจในรอบ 20 ปี กางแผนปี 2568 พยายามรุกตลาด จับเทรนด์ตลาดพร้อมนำสินค้ารับดีมานด์ลูกค้า ชี้เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากตลาดโลก พร้อมส่งแบรนด์น้องใหม่ร่วมงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok (JGAB) 2025 หวังขยายฐานลูกค้า ดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง

            นายธีรวัจน์ วุฒิปัญญาคม รองผู้อำนวยการ บริษัท เจมส์ มิลเลียน จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจ
อัญมณี
เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2567 ถือเป็นช่วงที่ท้าทาย โดยภาพรวมอุตสาหกรรมและยอดขายของบริษัท ค่อนข้างชะลอตัวในรอบหลายปี โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่ตลาดค่อนข้างเงียบ
ซึ่งผลกระทบดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงประเทศไทย แต่ยังมีปัจจัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ยังชะลอตัว ทำให้ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศปรับตัวลดลง

            สำหรับในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 ภาพรวมการดำเนินธุรกิจค่อนข้างปรับตัวดีขึ้น หากเทียบกับปลายปี 2567 เริ่มมีคำสั่งซื้อจากคู่ค้าเข้ามาบ้าง เป็นไปตามตลาดโลกที่เริ่มฟื้นตัว แต่ก็ยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์ต่างๆ ในหลายประเทศ ทั้งสภาพเศรษฐกิจและเรื่องสงครามการค้า ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทจะอยู่ทางแถบยุโรป รัสเซีย ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งตลาดจีนค่อนข้างเติบโตดีมากในช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ต้องยอมรับว่าด้วยสภาพเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าว ทำให้คู่ค้าชะลอการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท
เพราะบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ B2B หรือจำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์เป็นหลัก ยังไม่มีการขายปลีก ส่งออกเป็นหลักคิดเป็น 90% ของยอดขายบริษัท

แม้ว่าในช่วงหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 จะเป็นช่วงที่ธุรกิจค่อยๆกลับมา แต่ในปี 2567 ค่อนข้างท้าทายเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการหลายรายก็ได้รับผลกระทบ เห็นได้จากการออกงานของแบรนด์ต่างๆ ลดน้อยลง และในปี 2568 นี้ ก็ค่อนข้างห่วงเรื่องเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่จะส่งผลกระทบหมด แต่มองว่าการปรับตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ดีขึ้นจะมีผลทำให้สถานการณ์ทั่วโลกดีขึ้น แม้จะมีความไม่แน่นอนเรื่องการขึ้นภาษีของประเทศต่างๆ ก็พยายามมองบวก เพราะสัญญาณของยอดขายบริษัทเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่ถ้าไม่ดีก็ต้องมีการปรับตัวกันไป ต้องคอยจับตาดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่องนายธีรวัจน์ กล่าว ส่วนแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 เรามี 2 บริษัทที่เป็นเครือเดียวกัน ซึ่งมี บริษัท World Gemstone จำหน่ายพลอยในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงง่าย จับต้องได้ และ บริษัท เจมส์ มิลเลียน จำกัด ที่จำหน่ายพลอยในรูปแบบที่แตกต่างจากอีกบริษัท โดยบริษัทมีความตั้งใจที่จะเน้นหาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของคู่ค้าให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจ ที่บริษัทควรจะพัฒนาและขยายตลาด รวมไปถึงเพิ่มฐานลูกค้าใหม่

ไดกิ้นเดินหน้าพัฒนา “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ต้นแบบศูนย์การเรียนรู้คุณภาพอากาศภายในอาคาร ระดับภาคเหนือ ยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพของเด็กเล็ก

ไดกิ้นจับมือกรมอนามัย กรมการปกครอง สมาคมส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคาร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพอากาศภายในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ส่งมอบ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ซึ่งเป็นต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ด้านการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร ระดับภาคเหนือ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กเล็กและบุคลากรภายในศูนย์ โดยมีนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานรับมอบเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

โครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ได้มาตรฐาน พร้อมสร้างต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและอาคารสถานศึกษาอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการส่งเสริมมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับสถานศึกษา เพื่อให้เด็กและบุคลากรได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศที่สะอาดและปลอดภัยมากขึ้น ในโอกาสนี้ นายเจตณรงค์ อินกัน ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายฤทธิเดช จรรยาพงษ์ ปลัดอำเภอเชียงของ นายสุรินทร์ วงค์อิ่นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลห้วยซ้อ นายอำนวย หลวงไชย กำนันตำบลห้วยซ้อ นายชาญ ตาไคล้ ประธานสภาเทศบาลตำบลห้วยซ้อ และคณะผู้บริหาร รวมถึงสมาชิกสภาและประชาชนในพื้นที่ ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบห้องเรียนปลอดฝุ่นต้นแบบในครั้งนี้

ภายในโครงการได้ติดตั้งระบบระบายอากาศแบบประหยัดพลังงานจาก Daikin ซึ่งช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศ ลดการสะสมของฝุ่นและมลภาวะภายในห้องเรียน รวมถึงใช้เครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ควบคู่ไปกับระบบกรองอากาศ HRV (Heat Reclaim Ventilation) ที่สามารถกรองอากาศจากภายนอกก่อนนำเข้าสู่ภายในอาคาร เพื่อลดปริมาณฝุ่น PM2.5 และช่วยควบคุมระดับออกซิเจนและก๊าซ CO2 ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของห้องเรียน นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อให้สามารถติดตามและบริหารจัดการคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์

จากการดำเนินโครงการ คาดว่าจะช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 และก๊าซ CO2 ภายในอาคารได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของเด็กและบุคลากร สนับสนุนมาตรฐานคุณภาพอากาศภายในอาคารของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโซลูชันด้านคุณภาพอากาศที่สามารถขยายผลไปยังอาคารสถานศึกษาทั่วประเทศ

การส่งมอบ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการนำเทคโนโลยีและมาตรฐานการจัดการคุณภาพอากาศมาปรับใช้กับสถานศึกษา ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเด็กเล็ก อันเป็นอนาคตของประเทศต่อไป

โรงพยาบาลพระรามเก้า ชวนร่วมกิจกรรม “วันพาร์กินสันโลก” รู้เร็ว ป้องกันได้

โรงพยาบาลพระรามเก้า ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม “วันพาร์กินสันโลก” ในวันที่ 9 เมษายน 2568       ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคาร A โรงพยาบาลพระรามเก้า งานนี้จัดขึ้นเพื่อส่งต่อความรู้เกี่ยวกับ               โรคพาร์กินสัน โรคทางสมองที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและคนรอบข้าง โดยภายในงานจะมีกิจกรรมให้ความรู้ที่หลากหลาย อาทิ บูทกิจกรรมให้ความรู้ เกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน อาการ สาเหตุ และแนวทางดูแล บูทโภชนาการ แนะนำอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน

นอกจานี้ยังมีสัมมนาพิเศษ PARKINSAN TALK ในหัวข้อ “พาร์กินสัน รู้เร็วป้องกันได้”                     โดย นพ.สิทธิ เพชรรัชตะชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและโรคพาร์กินสันและการเคลื่อนไหวผิดปกติ ที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแนวทางการรักษา

กิจกรรมดี ๆ แบบนี้นี้เปิดให้เข้าร่วม ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการดูแลสุขภาพสมองของตนเองและคนที่รัก สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1270 หรือ Website: www.praram9.com /  Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และ Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital อย่าลืมชวนคนที่คุณรัก มาร่วม “โอบกอดสุขภาพดีไปด้วยกัน” เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน

COSMAX ทุ่มงบ 1,500 ล้านบาท สร้างโรงงานใหม่ขยายกำลังการผลิต 3 เท่า ยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยสู่ระดับโลก

นายเบียงแมน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COSMAX Korea พร้อมด้วย นายมินกู คัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอเอสเอ็มเอเอ็กซ์ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ COSMAX ผู้นำด้านการผลิตสินค้าความงามระดับโลกมากกว่า 600 แบรนด์ จากประเทศเกาหลี ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดหน้าดินเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ด้วยงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอาง OEM/ODM ระดับโลกในประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 35,995 ตารางเมตร สามารถเพิ่มกำลังการผลิตถึง 3 เท่า มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีการผลิตเครื่องสำอางที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดเครื่องสำอางทั้งในประเทศและทั่วโลก โดยมี นายยงมิน ปาร์ค เอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย, นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, นายประทีป นทีทวีวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมในพิธีเปิดด้วย ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันก่อน