CEA ประกาศความสำเร็จ “Content Project Market” ดึง 79 บริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วม – จับคู่ธุรกิจมากกว่า 409 คู่ ยกระดับคอนเทนต์ไทยสู่เวทีสากล

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ประกาศความสำเร็จการจัดงาน Content Project Market (CPM) 2025 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ระหว่างวันที่ 10 – 12 กันยายน 2568 ณ True Digital Park (East) ชั้น 6 – 7 โดยปีนี้มีผู้ผลิต นักลงทุน และแพลตฟอร์มสตรีมมิงเข้าร่วมงานและเจรจาธุรกิจรวม 79 บริษัท จากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสร้างโอกาสให้นักสร้างสรรค์สายภาพยนตร์ ซีรีส์ และแอนิเมชันของไทยได้นำเสนอผลงานรวม 54 โปรเจ็กต์ และก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) รวม 409 คู่ สะท้อนบทบาทของ CPM ในฐานะแพลตฟอร์มตลาดซื้อขายคอนเทนต์แห่งแรกของไทย ที่สามารถขยายผลสู่ระดับนานาชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า “การจัดงาน Content Project Market ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แสดงให้เห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้จริง CEA มุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาทักษะและการบ่มเพาะนักสร้างสรรค์ ไปจนถึงการเปิดพื้นที่เจรจาธุรกิจและขยายเครือข่ายในระดับโลก เพราะคอนเทนต์ไทยไม่เพียงเป็นสื่อบันเทิง แต่คือซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถสร้างรายได้ กระตุ้นการจ้างงาน และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศได้จริง สำหรับปี 2569 CEA ตั้งเป้ายกระดับ Content Project Market ให้เป็นเวทีระดับนานาชาติ (International Platform) เพื่อตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางคอนเทนต์แห่งเอเชียในอนาคต”

Content Project Market เป็นโปรแกรมสำคัญภายใต้โครงการ Content Lab 2025 ที่เชื่อมโยงนักสร้างสรรค์ไทยกับนักลงทุนและพันธมิตรเชิงพาณิชย์ ด้วยการจัดกิจกรรมครบวงจร ตั้งแต่การนำเสนอผลงาน (Pitching) การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) และการสร้างเครือข่ายธุรกิจ (Networking Reception) โดยมีผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมระดับโลกเข้าร่วม เช่น Netflix, Viu, GDH, GMMTV, The One Enterprise, True CJ Creations, Kantana Group PCL., White Light Studio, Base Entertainment (Indonesia), Studio76 (Taiwan), Skyline Media (Vietnam) และพันธมิตรจากสิงคโปร์และฟิลิปปินส์

งานในปีนี้ได้เกิดการเจรจาธุรกิจรวม 409 คู่ จาก 79 บริษัทที่เข้าร่วม แบ่งเป็นผู้ซื้อ – นักลงทุน จำนวน 79 บริษัท และผู้นำเสนอผลงานทั้งหมด 54 โปรเจ็กต์ โดยผู้เข้าร่วมหลายรายให้ความเห็นตรงกันว่า Content Project Market ไม่เพียงสร้างโอกาสด้านการลงทุนและจับคู่โปรเจ็กต์ใหม่ ๆ แต่ยังช่วยเปิดมุมมองสู่ตลาดต่างประเทศ สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการต่อยอดสู่การผลิตจริง ทางด้านตัวแทนจากสตูดิโอและแพลตฟอร์มสากลต่างยืนยันว่าการเข้าร่วมในปีนี้ ทำให้ได้เห็นศักยภาพของคอนเทนต์ไทยที่มีคุณภาพและสามารถแข่งขันในตลาดเอเชียได้ โดยคาดว่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาว และยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในภูมิภาค 

นอกจากกิจกรรมจับคู่ธุรกิจแล้ว งาน Content Project Market 2025 ยังเสริมความเข้มข้นด้วยเวทีเสวนาเชิงลึก (Forum) จำนวน 5 หัวข้อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 16 รายจากทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมแบ่งปันมุมมอง ครอบคลุมตั้งแต่การเข้าถึงกองทุนภาพยนตร์ในเอเชีย กลยุทธ์การร่วมผลิตในภูมิภาค ไปจนถึงอนาคตของการผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ไทยในเวทีโลก เช่น ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล อดีตประธานคณะอนุกรรมการภาพยนตร์และซีรีส์ ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, Mr. Ruben Hattari Director, Public Policy Netflix in South East Asia, Ms. Elisabeth Shackleton Founder & Editor, Streamlined/Contributing Editor, Asia, Deadline, Ms. Le Minh Hang Trinh Filmmaker, Producer & Entrepreneur, Skyline Media, คุณวรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์  โปรดิวเซอร์ GDH559, คุณพุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับภาพยนตร์ 4 KINGS และ 4 KINGS 2, คุณอารักษ์ อมรศุภศิริ  ผู้กำกับและผู้เขียนบทภาพยนตร์ เดอะสโตน พระแท้ คนเก๊ และ คุณณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับซีรีส์ สงครามส่งด่วน ที่สร้างกระแสจากเรื่องจริงของสตาร์ทอัปยูนิคอร์นธุรกิจไทย ทั้งหมดนี้ช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และชี้ทิศทางใหม่ให้แก่วงการคอนเทนต์ไทยอย่างรอบด้าน

“CEA ยังคงเดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกับนักสร้างสรรค์ ผู้ผลิตนักลงทุน แพลตฟอร์มสตรีมมิง และผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วน เพื่อทำให้งาน Content Project Market ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ สร้างโอกาสทางธุรกิจเชิงพานิชย์ได้จริง กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับคอนเทนต์ไทยสู่มาตรฐานสากล และสร้างพลังให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน”

ดร. ชาคริต กล่าวสรุป

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Content Lab 2025 และงาน Content Project Market ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Content Lab

เอเซอร์ เปิดตัวศูนย์บริการ “HSNT พระราม 3” โฉมใหม่ ยกระดับอาฟเตอร์เซอร์วิส สู่มาตรฐานใหม่ของบริการหลังการขาย

นายเจฟ ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย นายสมบัติ ต่อศักดิ์สิริ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไฮพอยท์ เซอร์วิส เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด และผู้บริหาร ร่วมเปิดตัวศูนย์บริการ “Highpoint Service Network” (HSNT) พระราม 3 โฉมใหม่ เพื่อยกระดับประสบการณ์บริการหลังการขายให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ มาพร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือทันสมัย และอะไหล่มาตรฐานสากลครบครัน ลูกค้าจะมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน ทั่วถึง และรวดเร็ว โดยการเปิดตัวครั้งนี้ตั้งเป้าให้ HSNT พระราม 3 เป็น มาตรฐานใหม่ของการให้บริการด้านไอทีในประเทศไทย และเป็นต้นแบบในการพัฒนาศูนย์บริการสาขาอื่น ๆ ต่อไป โดยมี นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด  และนายสุพงศ์ ตั้งตรงเบญจศีล รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ร่วมพิธีเปิด

“กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด” มอบอาหารสุนัขสูตรพรีเมียม ให้กับ “สุนัขทหาร” หน่วยนาวิกโยธิน กองทัพเรือ สนับสนุนภารกิจของชาติ สานต่อเจตนารมณ์ “ดูแลคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพที่ดี”

นายปริติ เกียรติศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอติลุสฟู้ด “กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด (Pataya Food Group, PFG) ผู้นำธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทย พร้อมตัวแทนผู้บริหาร PFG เดินหน้าสานต่อพันธกิจ “เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้บริโภคอย่างองค์รวม” ผ่านการสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและขนมสุนัขคุณภาพสูงให้กับ “สุนัขทหาร” ในสังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน” จึงได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารสุนัข และ ขนมสุนัขเลีย จากแบรนด์ รีกาลอส และ เรมี่ โดยมี นาวาโท เมฆินทร์ พลโคตร ผู้บังคับกองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นผู้รับมอบ ณ กองบัญชาการ กองทัพเรือ วังนันทอุทยาน เมื่อเร็วๆ นี้

กลับมาอีกครั้ง! ตามคำเรียกร้อง “ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า” ภารกิจช่วยคนไทยลดค่าครองชีพ #ซ่อมได้ก็ซ่อม #ซ่อมไม่ได้ก็แลก 3 วันเท่านั้น 19-21 ก.ย.68 ที่ โฮมโปรและเมกาโฮมทุกสาขา

อีเว้นต์ที่หลายคนรอคอย การกลับมาตามกระแสเรียกร้อง! #โฮมโปร รวมทีม #เมกาโฮม จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า” ภายใต้ภารกิจช่วยคนไทยลดค่าครองชีพ โดยทีมช่างโฮมโปร – มือโปรประจำบ้านคุณ ให้บริการต่อเนื่องตลอด 3 วันเต็ม ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 19–21 กันยายน 2568 นี้ เพียงนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาลงทะเบียน รับสิทธิ์ซ่อมฟรี! ไม่เสียค่าแรง 2 ชิ้นแรก !! และได้อีกต่อกับชิ้นที่ 3 …ลดค่าแรง 50%! พร้อมเปิดประสบการณ์ “เรียกช่างง่าย บริการไว” เหมือนมีผู้ช่วยมือโปรประจำบ้านคุณ ผ่านแอปพลิเคชัน “CHANG HomePro – แอปเดียวครบ จบบริการเรื่องบ้าน” … พร้อมยกขบวนความสุข และความสบายใจมาที่งาน ด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มมากมาย!!

  • รับส่วนลดรวมสูงสุด 1,000 บาท !! เมื่อซื้อบริการเรื่องบ้านจากช่างโฮมโปร
  • ซื้อ 2 แถม 1 !! เมื่อซื้อบริการล้างแอร์ หรือ บริการแม่บ้าน
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ซ่อมไม่ได้ ไม่ต้องห่วง! สามารถนำมาร่วมโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” สำหรับช้อปสินค้าใหม่กลุ่ม “สินค้ารักษ์โลก” ในราคาพิเศษ! ร่วมส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับโลกของเรา
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ “ไม่ต้องยกมา บริการซ่อมถึงบ้าน” เพียงแค่มาลงทะเบียนหน้างาน!

ปักหมุด…รวมตัวกันที่งาน “ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า” พร้อมกันเริ่ม 19–21 กันยายน 2568 ที่โฮมโปร และเมกาโฮม ทุกสาขา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.homepro.co.th / FB: HomePro Thailand / Call Center หมายเลข 1284

#ซ่อมฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้ากับโฮมโปร #CHANGHomePro #ช่างโฮมโปร #มือโปรประจำบ้านคุณ #ช่างโฮมโปรมือโปรประจำบ้านคุณ #เรียกช่างง่ายบริการเร็ว #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #เมกาโฮม #MegaHome #ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและงานช่าง #Homepropr

PDPC คว้ารางวัล “เลิศรัฐ” ปี 2568 ยืนหนึ่งบริการประชาชนยุคดิจิทัล

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC คว้ารางวัล “เลิศรัฐ” สาขาบริการภาครัฐ ประเภท “ขับเคลื่อนเห็นผล” ระดับดี จากสำนักงาน ก.พ.ร. ประจำปี 2568 สะท้อนความสำเร็จในการยกระดับการบริการประชาชนที่ทันสมัย โปร่งใส และมีมาตรฐาน

เบื้องหลังความสำเร็จนี้ มาจากผลงานของ ศูนย์บริการประชาชน (PDPA Center) ที่ถูกยกเป็น “หัวใจ” ของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพราะทำหน้าที่รอบด้าน ทั้งรับเรื่องร้องเรียน ให้คำปรึกษา เผยแพร่ความรู้ และพัฒนาระบบบริการ ให้เข้าถึงง่ายในทุกช่องทาง ถือเป็นโมเดลที่ช่วยเชื่อมโยงประชาชนกับการใช้กฎหมาย PDPA อย่างจับต้องได้จริง

ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล “พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ” กล่าวถึงรางวัลนี้ว่า “นี่คือความสำเร็จของทั้งองค์กร ไม่ใช่เพียงใครคนใดคนหนึ่ง เราพยายามขับเคลื่อนการบังคับใช้กฎหมายโดยมุ่งให้ประชาชนมั่นใจว่าหากข้อมูลส่วนบุคคลถูกละเมิด จะมีที่พึ่งที่เข้าถึงได้และได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม”

การได้รับรางวัลเลิศรัฐ เป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนว่า PDPC กำลังเดินหน้าในเส้นทางที่ถูกต้อง โดย PDPA Center เป็น 1 ใน 33 ผลงานจากทั่วประเทศที่ได้รับการยอมรับในปีนี้ และยังสะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ได้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนยุคดิจิทัล ว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิทธิที่ทุกคนจะได้รับการคุ้มครองอย่างแท้จริง

ข้อมูลรั่วไหลเป็น “ศูนย์”

CEA Launches the 2nd “Content Project Market”Transforming Ideas into Opportunities – Elevating Thai Content to the World Stage and Fueling the Creative Economy with Soft Power

The Creative Economy Agency (Public Organization), or CEA, officially launched the Content Project Market (CPM) for its second year, held from 10 – 12 September 2025, at True Digital Park (East), Fl.  6 – 7. The event brings together over 70 leading producers, investors, and streaming platforms, reaffirming Thailand’s potential to leverage content as a soft power driver for economic growth and international recognition.

This year’s CPM features 54 selected projects:

  • 34 projects developed through CEA’s Content Lab 2025 programs, and
  • 20 projects submitted through an open call for professionals.

All projects are showcased through business matching sessions with more than 70 local and international investors and industry players, with CPM expected to generate over 300 business negotiations. As Thailand’s first dedicated content marketplace under Content Lab 2025, the platform connects Thai creators with buyers, investors, and leading platforms worldwide.

Mr. Chaiyong Ratana-Angkura, Chairperson of the Creative Economy Agency, highlighted CPM’s strategic role in advancing the Thai content industry: “Now in its second year, CPM has become a strategic tool for driving the growth of Thailand’s creative economy. More than a content marketplace platform, it is a business ecosystem — connecting Thai creators with film, series, and animation studios, investors, distributors, and global streaming platforms through pitching sessions, business matching, and networking.”

This year’s participants include over 70 prominent companies from Thailand and abroad, such as GDH, Netflix (Thailand), PCCW OTT Thailand (Viu), GMM TV, WeTV, True CJ Creations, The One Enterprise, Base Entertainment (Indonesia), Little Green White (Singapore), Mocha Chai Laboratories (Singapore), Mokster Films (Singapore), Skyline Media (Vietnam), Volos Films (Taiwan), Studio76 Original Productions (Taiwan), and Quezon City Film Commission / QCinema Project Market / Fire and Ice Media and Production (Philippines), etc.

In addition to project pitching, CPM hosts five industry forums featuring insights from 16 international and Thai experts. The talk sessions cover critical topics such as:

  • “Navigating the Landscape of Asian Film Funds: Opportunities and Challenges for Filmmakers”
  • “Co-production and Collaboration in the Asia-Pacific Film Industry: Moving Towards the Global Stage”
  • “Beyond Borders: Strategies for ASEAN Films and Series to Travel and Thrive Across the Region”
  • “Beyond the Budget: How Producers Shape Creative Vision”
  • “The Future of Thai Narrative: Trends Shaping Film and Series Production”

These sessions equip Thai creators and entrepreneurs with practical knowledge, funding access, and strategies to position their films and series effectively on the global stage.

A major highlight of CPM is its role in advancing projects from various programs under the Content Lab 2025 project: Mid-Career: Project, Mid-Career: Story, and Mid-Career: Animation — alongside open-call works, totaling 54 teams. Each team gains opportunities to pitch directly to investors and commercial partners, fostering both business potential and skill development towards international standards.

Mr. Chaiyong concluded: “CEA is dedicated to building a comprehensive creative economy ecosystem for the content industry — ranging from talent development and creator incubation to platforms for business negotiation and global networking. We recognize that Thai content is more than entertainment; it is a powerful form of soft power capable of generating revenue, creating jobs, and elevating the nation’s international image.

According to the 2020 Input-Output Table, investment in the content industry — particularly in film and series as well as broadcasting — delivers economic returns greater than the investment value. For every 1 baht invested in these sectors, an average of 1.8 baht is generated in overall economic value. This clearly demonstrates that investment in the content industry is a critical driver of Thailand’s broader economic growth.

Looking ahead to 2026, CEA aims to expand the Content Project Market onto the international stage, focusing on Asia as a key target market while fostering collaboration with partners across the region. The goal is to create a more connected and thriving creative ecosystem for both Thailand and Asia, elevating Thai content to global standards and positioning the country as a regional marketplace for content trading. The Content Project Market thus serves as a vital mechanism in driving Thailand toward becoming a future hub of the regional content industry.”

For more information about Content Lab 2025 and Content Project Market, visit the  Content Lab Facebook page.

CEA เปิดเวที “Content Project Market” ต่อเนื่องปีที่ 2 จากไอเดียสู่โอกาสจริง! ดันคอนเทนต์ไทยสู่เวทีโลก ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ยั่งยืน

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิดงาน Content Project Market (CPM) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 10 – 12 กันยายน 2568 ณ True Digital Park (East) ชั้น 6 – 7 พร้อมดึงผู้ผลิต–นักลงทุน–แพลตฟอร์มสตรีมมิงกว่า 70 บริษัทเข้าร่วม โดยคาดว่าจะเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจมากกว่า 300 คู่ ตอกย้ำศักยภาพคอนเทนต์ไทยในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ที่ยกระดับเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ประเทศ สำหรับงานในปีนี้ได้นำเสนอผลงานจำนวน 54 ผลงานจากโปรแกรมที่ผ่านการคัดเลือกของโครงการ Content Lab 2025 จำนวน 34 ผลงาน และจากการเปิดรับผลงานจากมืออาชีพในวงการ (Open Call) อีก 20 ผลงาน โดยผลงานทั้งหมดนี้เข้าร่วมกิจกรรมBusiness Matching กับภาคธุรกิจและนักลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ

นายไชยยง รัตนอังกูร ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เผยว่างาน Content Project Market ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นับเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยผลักดันขีดความสามารถทางการแข่งขัน ของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทย รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน งานนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเวทีนำเสนอผลงาน แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างนักสร้างสรรค์ คอนเทนต์ไทย กับค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ แอนิเมชัน นักลงทุน ผู้จัดจำหน่าย และแพลตฟอร์มสตรีมมิง ระดับสากล ผ่านกิจกรรมการนำเสนอโครงการ (Pitching), กิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) และกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจ (Networking Reception) อย่างครบวงจร สำหรับปีนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 70 บริษัทชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น GDH, Netflix (Thailand), PCCW OTT Thailand (Viu), GMM TV, WeTV, True CJ Creations, The One Enterprise, Base Entertainment (Indonesia), Little Green White (Singapore), Mocha Chai Laboratories (Singapore), Mokster Films (Singapore), Skyline Media (Vietnam), Volos Films (Taiwan), Studio76 Original Productions (Taiwan), Quezon City Film Commission / QCinema Project Market / Fire and Ice Media and Production (Philippines) ฯลฯ 

Content Project Market ในปีนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมเสวนา (Forum) จำนวน 5 หัวข้อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญ ในอุตสาหกรรมจากทั้งในและต่างประเทศกว่า 16 ท่าน มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริง และกลยุทธ์สร้างคอนเทนต์ให้โดดเด่นในตลาดโลก ซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับนักสร้างสรรค์และ ผู้ประกอบการไทย พร้อมมอบโอกาสในพัฒนาทักษะ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการมองเห็นทิศทางใน การต่อยอดผลงานภาพยนตร์และซีรีส์สู่ตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ เสวนา “Navigating the Landscape of Asian Film Funds: Opportunities and Challenges for Filmmakers” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในภาพยนตร์เอเชีย, เสวนา “Co-production and Collaboration in the Asia-Pacific Film Industry: Moving Towards the Global Stage” ที่เจาะลึกการร่วมทุนสร้างในเอเชียแปซิฟิก – ความร่วมมือในภูมิภาคสู่ตลาดโลก และ “Beyond Borders: Strategies for ASEAN Films and Series to Travel and Thrive Across the Region” กลยุทธ์ข้ามแดนภาพยนตร์และซีรีส์อาเซียนสู่การเดินทางไกล ไปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีเสวนาเรื่อง “Beyond the Budget: How Producers Shape Creative Vision” และ “The Future of Thai Narrative: Trends Shaping Film and Series Production” ให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้ กระบวนการสร้างสรรค์งานตั้งแต่ต้นจนจบ และเข้าใจเทรนด์ คอนเทนต์ไทย รวมถึงการจุดกระแสความนิยม ในภาพยนตร์และซีรีส์ในยุคปัจจุบัน

สำหรับไฮไลต์สำคัญของงาน Content Project Market คือการเป็นเวทีต่อยอดผลงานของนักสร้างสรรค์ จากโครงการ Content Lab 2025 ภายใต้ 3 โปรแกรมหลัก ได้แก่ Mid-Career: Project, Mid-Career: Story และ Mid-Career: Animation รวมทั้งผลงานจากผู้ผลิตคอนเทนต์มืออาชีพที่ผ่านการคัดเลือก (Open Call) รวมทั้งสิ้น 54 ทีม โดยทุกทีมจะได้รับโอกาสในการนำเสนอผลงานและเจรจาธุรกิจกับนักลงทุนและ พันธมิตรเชิงพาณิชย์โดยตรง ถือเป็นการสร้างโอกาสเชิงพาณิชย์ พร้อมพัฒนาทักษะของบุคลากรไทยให้ยกระดับ สู่มาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน

“CEA มุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ที่ครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาทักษะ การบ่มเพาะนักสร้างสรรค์ ตลอดจนการเปิดพื้นที่เจรจาธุรกิจและขยายเครือข่ายในระดับโลก ด้วยเล็งเห็นว่า คอนเทนต์ไทยไม่ใช่แค่สื่อบันเทิง แต่คือพลังซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถสร้างรายได้ สร้างงาน และยกระดับ ภาพลักษณ์ของประเทศได้อย่างมหาศาล ข้อมูลจากตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิต (Input-Output Table) ในปี 2563 แสดงให้เห็นว่าการลงทุนด้านกลุ่มอุตสาหกรรมคอนเทนต์ โดยเฉพาะสาขาภาพยนตร์และซีรีส์ (Film & Series) รวมถึงการแพร่ภาพและกระจายเสียง (Broadcasting) สามารถสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ รวมที่สูงกว่ามูลค่าการลงทุน โดยทุก 1 บาทที่ลงทุนในอุตสาหกรรมเหล่านี้ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ย 1.8 บาท ข้อมูลนี้สะท้อนว่าการลงทุนด้านอุตสาหกรรมคอนเทนต์จะเป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนการเติบโต ของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม โดยในปี 2569 CEA ตั้งเป้าผลักดัน Content Project Market ให้เติบโตสู่ ระดับนานาชาติ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายตลาดในเอเชีย พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตร จากทั่วภูมิภาค เพื่อให้ระบบนิเวศสร้างสรรค์อุตสาหกรรมคอนเทนต์ของไทยและเอเชีย มีความเชื่อมโยง และเติบโตไปพร้อม ๆ กัน ยกระดับคอนเทนต์ไทยให้ทัดเทียมกับนานาชาติ และปักหมุดไทยให้เป็นตลาดซื้อ ขายคอนเทนต์ของภูมิภาค งาน Content Project Market จึงเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางด้านคอนเทนต์ของภูมิภาคในอนาคต” นายไชยยง กล่าวสรุป

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Content Lab 2025 และงาน Content Project Market ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Content Lab

เอเซอร์ เปิดตัวศูนย์บริการ “HSNT พระราม 3” โฉมใหม่ ยกระดับอาฟเตอร์เซอร์วิส สู่มาตรฐานใหม่ของบริการหลังการขาย

  • เปิดตัวศูนย์บริการ “HSNT พระราม 3” โฉมใหม่ ดีไซน์ทันสมัย กว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายสำหรับลูกค้า
  • ครบทุกด้านของบริการหลังการขาย ด้วยโครงสร้างการจัดการ รับประกันความรวดเร็วและมาตรฐานระดับมืออาชีพ
  • ตอกย้ำแนวคิด “Global Brand, Local Touch” ยกระดับบริการด้วยมาตรฐานระดับโลกที่เข้าถึงง่าย พร้อมต่อยอดโมเดล B2B สู่ B2C เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง

Acer  เปิดตัวศูนย์บริการ “Highpoint Service Network” (HSNT) พระราม 3 โฉมใหม่ หลังการปรับโฉมครั้งใหญ่เพื่อยกระดับประสบการณ์ด้านบริการหลังการขายให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ศูนย์บริการแห่งนี้มาพร้อมดีไซน์พื้นที่ที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และระบบสนับสนุนที่ทันสมัย รองรับลูกค้าได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมตั้งเป้าเป็นมาตรฐานใหม่ของการให้บริการด้านไอทีในประเทศไทย

นายเจฟ ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การรีโนเวทศูนย์บริการ HSNT พระราม 3 ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการปรับโฉมอาคาร แต่เป็นการลงทุนครั้งสำคัญที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของเอเซอร์ ในการยกระดับบริการหลังการขายให้ครบวงจร เรามุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า เพราะเราเชื่อว่าบริการที่ดีคือหัวใจในการสร้างความไว้วางใจ และเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

ด้าน นายสมบัติ ต่อศักดิ์สิริ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไฮพอยท์ เซอร์วิส เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า “ในการปรับโฉมครั้งนี้ เราตั้งใจออกแบบให้ศูนย์บริการให้มีความทันสมัยและกว้างขวาง พร้อมยกระดับการดูแลด้วยเครื่องมือและอะไหล่ที่ได้มาตรฐานสากล รวมถึงมีทีมวิศวกรที่ผ่านการฝึกอบรมจากแบรนด์ระดับโลกพร้อมให้บริการแบบรวดเร็วและมีคุณภาพ เพื่อช่วยแก้ปัญหาและตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างคุ้มค่ามากที่สุด”

HSNT ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 ในฐานะสตาร์ทอัพภายใต้ Acer Group โดยเริ่มจากการให้บริการตรวจสอบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายประเภท ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์สำนักงาน ภายใต้ปรัชญา “Global Brand, Local Touch” ที่ผสานมาตรฐานชั้นนำระดับโลกเข้ากับการบริการที่เข้าถึงง่ายสำหรับลูกค้าทุกคน

ศูนย์บริการ HSNT ไม่เพียงรองรับลูกค้าแบบ Walk-in เท่านั้น แต่ยังมีบริการ One Stop Service ครอบคลุมทั้งทีม On-site, ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า, ฝ่ายช่วยเหลือ, ระบบคลังสินค้าและโลจิสติกส์ รวมถึงการจัดการอะไหล่แท้เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพ โดยมีจุดแข็งที่เน้นจุดติดต่อเพียงจุดเดียว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและการสื่อสารกับลูกค้าทำได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้มั่นใจว่าทุกเคสจะได้รับการดูแลอย่างครบถ้วนทั่วถึง

ปัจจุบัน HSNT ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศูนย์บริการอย่างเป็นทางการจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ตอกย้ำความเชื่อมั่นในมาตรฐานการให้บริการที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ บริษัทยังต่อยอดจากฐานลูกค้า B2B ที่แข็งแกร่ง ขยายสู่ตลาด B2C เพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้มากยิ่งขึ้น

การรีโนเวทศูนย์บริการ HSNT สาขาพระราม 3 ถือเป็นก้าวสำคัญที่เอเซอร์และ HSNT จะต่อยอดไปยังสาขาอื่นทั่วประเทศ เพื่อสร้างมาตรฐานการบริการที่สม่ำเสมอในทุก Touchpoint พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นในการเติบโตในฐานะ “ผู้ให้บริการไอทีมืออาชีพ” ที่ไม่เพียงแก้ไขปัญหา แต่ยังมอบประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีที่มีคุณค่าและตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง ปัจจุบัน HSNT มีศูนย์บริการทั้งหมด 10 สาขา เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้รับการดูแลที่ใกล้และสะดวกที่สุด

วงการเกมสะเทือน! พลอยชมพูแท็กทีมโปรดิวเซอร์ตัวแม่ แอ้ม อัจฉริยา ปล่อย “The Biggest Dream Revision 2025” เวอร์ชันอินเตอร์สุดปัง!

ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับสุดยอดงานเกมระดับโลกที่ไม่ควรพลาด gamescom asia x Thailand Game Show  เตรียมสร้างความประทับใจอีกครั้งด้วยเพลงธีมของที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นและเป็นที่พูดถึงในทุกๆ ปี  และในปีนี้ก็ไม่ธรรมดาเลยตามเคย  คว้า “แอ้ม- อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์” Queen of T-POP โปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงแถวหน้าของไทย ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงดังมากมาย อาทิ พิง – นนท์ ธนนท์ , ชอบตัวเองตอนอยู่กับเธอ – บิวกิ้น , ภาพจำ – ป๊อป ปองกูล และอีก 200 กว่าเพลง มารับหน้าที่สร้างสรรค์ และโปรดิวซ์เพลงธีมในปีนี้อีกครั้ง หลังจากที่เธอเคยเสกให้เพลง The Bigger Dream เพลงธีมของงานในปี 2018  ติดหูกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองมาแล้ว

และในปีนี้เพลงนี้ได้ถูกหยิบกลับขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง  ในสไตล์แนวเพลงที่เป็น J- Rock ทันสมัยและมีความสากลมากขึ้นแถมยังได้ “โฟ วง 25Hours” มาทำดนตรีเพิ่มมิติทางดนตรีให้เข้ากับงานเกมระดับนานาชาติ และเปลี่ยนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษตลอดทั้งเพลง และได้ “พลอยชมพู” นักร้องสาวลูกครึ่งไทย – เยอรมัน กลับมาร่วมสร้างสีสันถ่ายทอดเสียงทรงพลังในเวอร์ชันใหม่นี้อีกครั้ง พร้อมโชว์ฝีมือแต่งท่อนแร๊ปในภาษาเยอรมันเพื่อสะท้อนต้นกำเนิดของ งาน gamescom ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี  และย้ำภาพลักษณ์ของงานที่ก้าวสู่การเป็นงานเกมระดับโลก  เราไปฟัง แอ้ม และ พลอยชมพู พูดถึงการทำงานและการได้กลับมาร่วมสร้างความประทับใจในเพลงนี้กันอักครั้ง

แอ้ม- อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ กล่าวว่า“สำหรับแอ้มดีใจมากที่เพลงนี้ถูกนำมาร้องอีกครั้งค่ะ จากที่ปีที่แล้วแค่เป็นการรีมาสเตอร์แต่ปีนี้เราขยับขึ้นไปอีกขั้นกับเวอร์ชันภาษาอังกฤษเต็มรูปแบบ ความท้าทายคือการเขียนเนื้อใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงต้องรักษาความหมายดั้งเดิม เช่น คีย์เวิร์ดอย่าง Top Rank ที่แฟนๆ คุ้นเคยก็พยายามเก็บไว้ให้ใกล้เคียงที่สุด และเป็นน้องพลอยชมพูที่มาร้องก็สบายใจพลอยเป็นนักร้องที่เก่งและตั้งใจมาก ทุกครั้งที่ทำงานด้วยจะรู้เลยว่าเขาทำการบ้านมาเต็มที่ พอรู้ว่าเป็นพลอยก็ไม่ห่วงเลยคิดว่าต้องออกมาดีแน่นอน”

ด้าน พลอยชมพู เล่าว่า “สำหรับหนูเป็นเกียรติมากๆ ค่ะ ขนาดปีที่แล้วการได้ร้องเพลงธีมให้กับงาน ก็เหมือนฝันที่เป็นจริงเพราะหนูก็โตมากับงานนี้ ติดตามมานาน ปีนี้ได้กลับมาอีกครั้งในฐานะนักร้องหลักคนเดียว รู้สึกเหมือนใช้แต้มบุญคุ้มสุดๆ ความท้าทายคือเนื้อเพลงที่แทบทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ และมีท่อนแร็ปภาษาเยอรมันที่หนูแต่งเองด้วย ยากมากแต่ก็เข้ากับธีม World of Gaming ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะมันแสดงถึงความเป็นสากล และตัวตนของหนูเองที่เป็นลูกครึ่งเยอรมัน ได้ทำงานกับพี่แอ้มก็สนุกมาก พี่เขาคอยเชียร์อัพและปล่อยให้ร้องในสไตล์ของหนูเอง ปีนี้ร้องคนเดียวทั้งหมด เลยต้องใส่พลังเต็มที่เพื่อส่งต่อความยิ่งใหญ่ของงานนี้ไปถึงผู้ฟัง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ”

ติดตามการกลับมาของ The Bigger Dream ในเวอร์ชันใหม่ The Biggest Dream Revision 2025  นี้ นอกจากจะเป็นการเชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันแล้ว ยังตอกย้ำภาพลักษณ์ของงานในปีนี้ ในฐานะงานเกมที่เติบโตสู่เวทีโลก ทั้งในแง่ของ เกม คอนเทนต์ ดนตรี และวัฒนธรรมอีกด้วย แฟนๆ สามารถฟังเพลงธีมใหม่ได้แล้ววันนี้ทุกแพลตฟอร์ม และร่วมสัมผัสความยิ่งใหญ่ไปพร้อมกันที่งาน gamescom asia x Thailand Game Show วันที่ 16 – 19 ตุลาคม 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และซื้อบัตรได้แล้วที่ https://www.zipeventapp.com/e/GCAxTGS2025

รับฟังและชมมิวสิควีดีโอ เพลง The Biggest Dream Revision 2025

Streaming : https://mcn.solutiononeholding.com/OLS/?p=blg1tvLn

MV : https://youtu.be/wsQvKTBg4uU

Servier (Thailand) Opens New Office “New Office, Moved by You”Lighting Inspiration, Driving Healthcare Innovation for the Future

BANGKOK, September 9, 2025 – Servier (Thailand) Co., Ltd., a leading French pharmaceutical company with over 50 years of operations in Thailand, has officially inaugurated its new office in central Bangkok under the concept “New Office, Moved by You”

The concept captures Servier’s core values “Moved by You”—inspired by patients who drive research breakthroughs, trusted by healthcare professionals who use the company’s portfolio, and relied upon by patients needing accessible, quality healthcare solutions.

This new office goes beyond a traditional workspace, serving as a center of inspiration and promoting sustainable healthcare innovations to improve patients’ lives and benefit Thai society.

“For us, ‘Innovation’ means more than just technology; it represents truly transforming patients’ lives,” stated: Mr. Bradley Lloyd, Regional Managing Director – APAC. “At Servier, we are deeply committed to continuously developing medical innovations. One of our key areas of focus is the research and development of Single Pill Combinations (SPCs). These treatments are important because they help improve medication effectiveness and patient adherence, particularly in managing chronic diseases such as high blood pressure and diabetes.”

“For us, innovation is not just about technology — “it’s about truly improving patients’ lives. We believe the future of healthcare lies in a system that combines precision, personalized care, and sustainability. Our new office is more than just a workplace — it represents our strong commitment to creating accessible and sustainable healthcare solutions.”

Mr. Yanick Girard, Thailand Managing Director, stated: “Our ‘Moved by You’ philosophy guides everything we do—from the medicines we create to the partnerships we establish. Over the past five decades, Servier has built a strong foundation in Thailand through comprehensive patient care, strategic collaborations with healthcare providers, and innovations tailored to local patient needs. Today, our new office represents more than just a workspace—it marks the beginning of our next chapter in driving innovation that truly transforms patients’ lives. We are committed to continuing our investments in research, drug development, and social impact initiatives to ensure all Thai people have access to high-quality care and a healthier, sustainable future.”

His Excellency Mr. Jean-Claude Poimboeuf, Ambassador of France to Thailand, addressed: “As the representative of the French Republic, I would like to emphasize the importance of innovation in the healthcare and pharmaceutical sectors. Innovation plays a vital role in improving people’s quality of life, while also helping to build a more sustainable and efficient healthcare system. It is not only a key driver of economic growth, but also a foundation for international cooperation in addressing global health challenges.”

“I would also like to highlight the significance of the ongoing EU–Thailand Free Trade Agreement negotiations. The goal of this agreement is to promote sustainable trade and investment between both parties. As a member of the European Union, France strongly believes that this partnership will strengthen economic ties and create new opportunities for businesses in both Europe and Thailand.”

The opening of this new office is a significant milestone for Servier Thailand, reflecting the company’s “Moved by You” commitment to global excellence, international collaboration, and patient-focused innovation. This facility serves as a symbol of inspiration for healthcare advancement in Thailand and the Asia-Pacific region.