“ควิกแสบ” จุดไฟฝันคนรุ่นใหม่ เปิดเวที “Quick Zabb Idol Contest 2025 Season 2” เฟ้าหาไอดอลรุ่นใหม่ ปลดปล่อยความแซ่บในแบบของตัวเอง

นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ “ควิกแสบ” แถลงข่าวการประกวด Quick Zabb Idol Contest 2025 Season 2 การประกวดที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก และเต็มเปี่ยมด้วยความสามารถ ได้โชว์ศักยภาพก้าวสู่การเป็นไอดอล โดยมี นายธีรเมธ เลาวานันท์พันธุ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย นางสาวณิชรัตน์ ชำนาญกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาด (ฝ่ายการตลาด) และ นายอิสสระ ณะเสน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริหารผลิตภัณฑ์ เข้าร่วมงานแถลงข่าวด้วย ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

“รู้สิทธิ รู้เท่าทันข้อมูล” สคส. เปิดตัวรายการ “PDPC EXECUTIVE Talk” ยกระดับการสื่อสาร คุ้มครองคนไทยจากภัยไซเบอร์

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เปิดตัวรายการ “PDPC EXECUTIVE Talk” รายการเสวนาเชิงสาระรูปแบบใหม่ ถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live  ที่เพจ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล – สคสพื่อสื่อสารและให้ความรู้ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแก่ประชาชน ได้รู้สิทธิของตน รู้เท่าทันข้อมูล ช่วยปกปกป้องคุ้มครองคนไทยจากภัยไซเบอร์

นางสาววีรินทร์ อรวัฒนพันธุ์ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC กล่าวว่าในยุคที่ข้อมูลส่วนบุคคลคือสมบัติส่วนตัวที่มีค่า” และภัยไซเบอร์เป็นความเสี่ยงใกล้ตัว “PDPC EXECUTIVE Talk จึงไม่ใช่แค่รายการให้ความรู้ แต่คือ ความพยายามที่ตั้งใจ จะทำให้กฎหมาย PDPA ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือเป็นภาระทางธุรกิจอีกต่อไป โดยทางรายการจะนำ”เหตุการณ์จริง” และ “ข่าวร้อน” ที่กำลังเป็นกระแสในสังคม มาเป็นจุดเริ่มต้นในการสนทนา เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจเห็นภาพอย่างเป็นรูปธรรมว่า สิทธิและหน้าที่ ภายใต้กฎหมายนี้คืออะไร และจะนำไป “ป้องกันตัว และ ปรับใช้” ในชีวิตประจำวันและองค์กรได้อย่างไร”

PDPC EXECUTIVE Talk”  ด้วยคอนเสปท์รายการเสวนาเชิงสาระ ที่ใช้ ข่าวหรือประเด็นร้อนด้าน PDPA และ Cybersecurity จุดประเด็นในการพูดคุย โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล และผู้บริหารจาก สคส. มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วิเคราะห์แนวทางการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงยกกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมาย โดยจะช่วยลดช่องว่างความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายดิจิทัล เพราะการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คือสิทธิพื้นฐานที่หน่วยงานรัฐต้องใส่ใจและทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด

เนื้อหาหลักของรายการ แบ่งออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่

  1. เปิดประเด็นร้อน : หยิบข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลมานำเสนอ
  2. เจาะลึกโดยผู้เชี่ยวชาญ : วิเคราะห์ข้อกฎหมาย แนวทางปฏิบัติ และผลกระทบ
  3. ถาม–ตอบสด : เปิดโอกาสให้ผู้ชมส่งคำถามแบบ Real-time ผ่านคอมเมนต์ Facebook Live
  4. สรุปเนื้อหา : ประเด็นสำคัญที่นำไปใช้ได้จริงทั้งในชีวิตประจำวันและในองค์กร

ซึ่ง EP.1 ได้เผยแพร่สู่สายตาประชาชนแล้ว ในตอน “ไขข้อข้องใจเรื่องกล้องทั้งหลาย กับกฎหมาย PDPA” โดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ กรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนที่รับชม และตั้งคำถามมายังรายการจำนวนมาก

สำหรับ EP.2 “Biometric Data ไขรหัสข้อมูลชีวภาพและสิทธิที่คุณต้องรู้” พบกับ นายเธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 13.00 น. และ EP.3  “ภัยเงียบ จากการสวมรอยข้อมูลส่วนบุคคล” โดย พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 11.00 น. สำหรับช่องทางการรับชมและติดตามได้ที่ Facebook Live ที่เพจ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล – สคส และชมย้อนหลังได้ที่ YouTube : PDPC Thailand

และนี่คือความมุ่งมั่นของสำนักงานฯ ผ่านรายการ PDPC EXECUTIVE Talk รายการที่จะทำให้คนไทยทุกคนเป็น “พลเมืองดิจิทัล” ที่ฉลาดรอบรู้ และสามารถปกป้อง “สิทธิ” ของตนเองได้อย่างเท่าทัน

3 วันสุดท้าย! โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป รวมดีลแรงเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่อน 0% แจกหนักเครดิตคืน จบในฮอลล์เดียวที่อิมแพค ถึง 13 ต.ค.นี้

โค้งสุดท้ายของงานเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ปลายปีมาถึงแล้ว! ใครกำลังเล็งอัปเกรดบ้านก่อนเข้าช่วงเทศกาล ต้องรีบมา! 11–13 ต.ค. 2568 นี้ 3 วันสุดท้าย! “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” ที่ อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 9 – งานเดียวที่รวมดีลแรง-นวัตกรรมบ้านยุคใหม่บริการงานจากช่างโฮมโปร ไว้ครบครัน เปิด 10.30-20.30 น. เต็มอิ่ม 10 ชั่วโมงเต็มของจังหวะ “เก็บดีลที่ดีที่สุดแห่งปี” อย่าพลาด!

ดีลแรงครบ จบในฮอลล์เดียว

  • ช้อปจัดเต็ม รับคืนจัดหนัก: สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโฮมการ์ด รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 160,000 บาท เข้าโฮมโปร วอลเล็ต ผ่าน Home Card แอปพลิเคชัน เมื่อชำระด้วยบัตรโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ตามเงื่อนไขที่กำหนด
  • จังหวะช้อปดี มีคุ้ม ด้วยคอมโบลด + รับเพิ่ม: รวมสูงสุด 7,200 บาท สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ
  • ช้อปผ่อนสบายทั้งงาน: 0% สูงสุด 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท/ใบเสร็จ เฉพาะบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
  • ช้อปรักษ์โลก กับโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” : เพียงนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ไม่ใช้แล้ว มาส่งต่อในงาน รับส่วนลดพิเศษสำหรับช้อปเครื่องใหม่ สูงสุด 10,000 บาท ได้คุ้มค่า ได้ช่วยจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี
  • ช้อปแล้วลุ้น: ยิ่งช้อป ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นทองคำ รวม 5 บาท จาก VISA: ช้อปทุก 3,000 บาท/ใบเสร็จสมาชิก
  • Home Card Regular ได้ลุ้น 1 สิทธิ์
  • Home Card Prime/Prestige รับสิทธิ์ลุ้นเพิ่มอีก 2 สิทธิ์
  • พิเศษ! เมื่อจ่ายด้วยบัตร Visa รับสิทธิ์ลุ้นเพิ่มทันที อีก 5 สิทธิ์!

อัปเลเวลการอยู่อาศัยแบบ Better Living ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่แรกในไทย

โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป ปีนี้ ไม่ได้มีแค่ราคาดี แต่ยังยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยการอัปเลเวลการอยู่อาศัยแบบ Better Living ด้วยหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าใช้งานง่าย ประหยัดพลังงาน ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม พร้อมนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด! เปิดตัวที่แรก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้า AI อัจฉริยะ, โซลูชันซัก-อบปลอดภัยเพื่อสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัว, แอลอีดีทีวี ขนาด 116 นิ้ว รุ่นเรือธง ที่เปิดตัวครั้งแรกในไทย มาพร้อมเทคโนโลยีจอภาพใหม่ล่าสุดของโลก และนวัตกรรมอัตโนมัติอีกมากมาย ที่มาเปิดตัวให้ชมและช้อป ที่งานนี้เท่านั้น!

แวะมาช้อปให้สุดก่อนสิ้นปีที่ โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป วันนี้ – 13 ตุลาคม 2568 อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 9 ย้ำอีกครั้ง 3 วันสุดท้าย ใครเล็งของใหญ่–ของจำเป็น–โปรพิเศษ รีบเก็บให้ทัน! สอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center 1284

#โฮมโปรอิเล็คทริคเอ็กซ์โป #HomeProElectricExpo #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #homepropr

สคส. จัดโรดโชว์ “PDPC SCHOOL TOUR” ปลูกฝังเยาวชนรู้เท่าทันข้อมูลส่วนบุคคล เดินหน้าสู่สังคมปลอดข้อมูลรั่วไหล

ในยุคที่โลกออนไลน์กลายเป็นห้องเรียนและพื้นที่สื่อสารของเยาวชน สถิติการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล โดยเฉพาะปี 2567 พบคดีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเยาวชนออนไลน์กว่า 346 คดีทั่วประเทศ โดยเด็กหญิงอายุ 8–14 ปีเป็นกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อมากที่สุดกว่า 118 ราย รูปแบบการหลอกลวงส่วนใหญ่เริ่มจาก การล่อลวงออนไลน์เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ, หลอกถ่ายคลิปลามกเพื่อแบล็กเมล์, การกลั่นแกล้งทางออนไลน์, ไปจนถึง การเข้าถึงเนื้อหาไม่เหมาะสมโดยไม่ตั้งใจ เช่น การคลิกโฆษณาลวง

พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์เหล่านี้สะท้อนถึง “ช่องว่างความรู้” ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกลุ่มเยาวชน ที่จำเป็นต้องเร่งปลูกฝังความเข้าใจและภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลอย่างจริงจัง โดย สคส. จึงได้จัดกิจกรรมโรดโชว์เชิงรุก “PDPC SCHOOL TOUR” ลงพื้นที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นแห่งแรก ต่อยอดจากโครงการ PDPC สร้างความรู้สู่ชุมชน” เพื่อให้เยาวชนเรียนรู้สิทธิของตนเองภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) และรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน

“เด็กและเยาวชนคือกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่ต้องได้รับความรู้เรื่องข้อมูลส่วนบุคคล เพราะพวกเขาเติบโตในโลกที่ทุกการคลิกคือข้อมูล กิจกรรม PDPC SCHOOL TOUR จึงเป็นเครื่องมือเชิงรุกที่ สคส. ตั้งใจนำความรู้เรื่อง PDPA ไปสู่ห้องเรียนจริง”

กิจกรรมโรดโชว์ PDPC SCHOOL TOUR ครั้งนี้จัดขึ้นในรูปแบบเชิงสร้างสรรค์และเข้าใจง่าย เรียนรู้ปลูกฝังตั้งแต่ห้องเรียนโดยมีทั้งเกมจำลองสถานการณ์ “ข้อมูลรั่วไหล”และ การบรรยาย “รู้สิทธิ เข้าใจ PDPA ในชีวิตประจำวัน” โดยทีมวิทยากรจาก สคส. และผู้เชี่ยวชาญด้าน Cyber Security ร่วมให้ความรู้ เพื่อให้เยาวชนเห็นภาพจริงของความเสี่ยง และสามารถนำหลักการ PDPA ไปใช้ในการใช้สื่อดิจิทัลอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่บริเวณชุมชนใกล้เคียงเพื่อเผยแพร่ความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในทุก ๆ อาชีพ พร้อมเปิดตัวแมสคอต “น้องซีโร่” ที่มาร่วมสร้างสีสันในงานเป็นครั้งแรก

พ.ต.อ. สุรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นการคุ้มครองข้อมูลเด็กและเยาวชนเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ
เช่นกรณี หน่วยงาน ICO ของสหราชอาณาจักรสั่งปรับ TikTok 12.7 ล้านปอนด์ (ราว 540 ล้านบาท) จากการอนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี กว่า 1.4 ล้านคน ใช้งานแพลตฟอร์มโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง

“ในประเทศไทย มาตรา 20 ของกฎหมาย PDPA กำหนดชัดว่า การประมวลผลข้อมูลของผู้เยาว์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง โดยเฉพาะกรณีเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี ต้องได้รับความยินยอมในทุกกรณี ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของเด็กยุคดิจิทัล” พ.ต.อ. สุรพงศ์ กล่าว

กิจกรรม PDPC SCHOOL TOUR เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบาย “Zero Data Breach – ข้อมูลรั่วไหลต้องเป็นศูนย์” ของ สคส. ที่ต้องการสร้างวัฒนธรรมคุ้มครองข้อมูลตั้งแต่ระดับเยาวชน เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบและปลอดภัย โดยมีแผนขยายกิจกรรมโรดโชว์ “PDPC SCHOOL TOUR” เดินหน้าสู่สถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง วางแนวทางทำงานเชิงรุกทั้งการจัดกิจกรรมในโรงเรียน การอบรม การจัดทำชุดสื่อเรียนรู้ที่นำไปใช้ได้จริง มีเป้าหมายคือสร้างเครือข่ายความรู้ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับเยาวชนให้แข็งแรงและยั่งยืน สำหรับกิจกรรมครั้งต่อไป จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 29 ตุลาคมนี้ ณ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล กรุงเทพฯ

Crystal Home เปิดตัว “THG Paris” และ “Composit”แบรนด์หรูจากฝรั่งเศสและอิตาลี สะท้อนนิยามใหม่แห่งศิลปะการใช้ชีวิต

นางสุทธิภา สวัสดิ์-ชูโต กรรมการบริหาร Crystal Home ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายสินค้าตกแต่งห้องน้ำหรู จัดงานเปิดตัวสองแบรนด์ระดับโลก THG Paris และ Composit ที่ Crystal Home เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทย ภายใต้คอนเซปต์ “นำความชอบและความหลงใหลในศิลปะมาอยู่ในทุก ๆ วันของชีวิต” มอบประสบการณ์ครบทุกมิติทั้งการมองเห็น สัมผัส ได้ยิน และลิ้มลอง พร้อมสะท้อนแนวคิดว่าห้องครัว ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำ ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ใช้งาน แต่คือการถ่ายทอดรสนิยมและวิถีชีวิตในแบบที่เป็นตัวคุณ THG Paris
แบรนด์ไอคอนิกจากฝรั่งเศส รังสรรค์อุปกรณ์ห้องน้ำให้เป็นศิลปะที่ปรับแต่งได้ตามรสนิยมเฉพาะตัว Composit
แบรนด์ชั้นนำจากอิตาลี ถ่ายทอดความหรูหราผ่านงานฝีมือ ผลิต 100% ในอิตาลี มอบอิสระไร้ขีดจำกัดในการออกแบบห้องครัวและตู้เสื้อผ้า ตอกย้ำความหมายใหม่ของความหรูหรา ที่ไม่ใช่แค่ของตกแต่ง แต่คือศิลปะเพื่อชีวิตประจำวันอย่างแท้จริงการเปิดตัวครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย, ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และนางณินทิรา โสภณพนิช กรรมการ บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ร่วมเป็นสักขีพยานและเปิดงานอย่างเป็นทางการ ณ คริสตัลโฮม ลักซ์เซอรีแอทลีฟวิง CDC เมื่อเร็วๆนี้

เรียงจากซ้ายไปขวา

  1. นาย อิริค บูลอน ผู้บริหารแบรนด์ทีเอชจี 
  2. นาย เฌโรม เดส์กิย็องส์    ผู้อำนวยการหน่วยงานบิสเนส ฟรานซ์ ประเทศไทย
  3. ฯพณฯ ฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
  4. นาง สุทธิภา สวัสดิ์-ชูโต   กรรมการบริหารคริสตัลโฮม
  5. นาง ณินทิรา โสภณพนิช  กรรมการ บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
  6. ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย
  7. นาย อันเดร ซอเจนเต้     ผู้บริหารแบรนด์คอมโพสิต

ควิกแสบ เดินเกม “Idol + Entertainment Marketing” พร้อมปูทางสู่แผนธุรกิจปี 2026

“บะหมี่ที่ไม่หยุดอยู่แค่ซองอาหาร แต่กลายเป็นเวทีสร้างฝันให้คนรุ่นใหม่” นี่คือทิศทางใหม่ของ “ควิกแสบ (Quick Zabb)” ที่เดินหน้าแคมเปญ “Quick Zabb Idol Contest 2025” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ด้วยแนวคิด “ต่อยอดความแสบ สู่ความสนุกที่มากกว่ารสชาติ” ใช้พลังของ Music Marketing และ Idol Culture เป็นเครื่องมือสร้าง Brand Experience ที่เข้าถึงหัวใจคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials

  • สร้าง Brand Relevance ให้ ควิกแสบ กลายเป็น “แบรนด์ที่อยู่ในวงสนทนาของคนรุ่นใหม่”
  • ยกระดับ Brand Experience จากสินค้ารสจัดจ้าน สู่แบรนด์ที่สื่อถึง “ความสนุกและความฝัน”
  • ขยายฐานผู้บริโภคใหม่ (New User Acquisition) เพิ่ม penetration ในกลุ่ม Gen Z และวัยทำงานตอนต้น

จาก “บะหมี่รสจัดจ้าน” สู่ “แบรนด์ที่แซ่บในทุกมิติ” ควิกแสบ เดินเกมต่อเนื่องด้วยการนำเวที Quick Zabb Idol Contest มาเป็น “เวทีของคนรุ่นใหม่” ที่เปิดโอกาสให้วัยรุ่นทั่วประเทศได้แสดงความสามารถทั้งการร้อง เต้น และการแสดง เพื่อค้นหา “Quick Zabb Idol” ที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของแบรนด์ “แสบ สนุก อินเทรนด์ และเป็นตัวของตัวเอง” โดย นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ควิกแสบ เผยว่า “ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถือเป็นตลาด Red Ocean ทุกแบรนด์งัดกลยุทธ์มาสู้และแข่งขันอย่างหนักหน่วง คู่แข่งส่วนใหญ่ใช้ศิลปินดังหรือพรีเซนเตอร์มาเป็นจุดขาย แต่ ควิกแสบ เลือกสร้างไอดอลของเราเอง เพื่อเติบโตไปพร้อมกัน เราไม่ได้แค่โปรโมตสินค้า แต่สร้าง Community ของคนรุ่นใหม่ที่มี Passion เหมือนกัน

“การจัดการประกวด Quick Zabb Idol Contest 2025 Season 2” ถือว่าประสบความสำเร็จมากจาก Season 1 เนื่องจากปีนี้ ได้รับการตอบรับที่ดี แบรนด์ ควิกแสบ เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่มีความสามารถอยู่เยอะ แต่อาจจะยังไม่มีเวทีที่เปิดกว้างมากพอ ซึ่งเวทีของ ควิกแสบ เปิดกว้าง รับทั้งผู้หญิง และ LGBTQ+ รวมทั้งสาวพลัสไซซ์ด้วย ควิกแสบ อยากเป็นโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ได้ทำตามความฝัน เราให้เขา เขาให้เรา เราให้พื้นที่ในการโชว์ความสามารถและโอกาสในการทำงาน ในระยะยาว ควิกแสบ หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาและครอบครัว”

กลุ่มเป้าหมายหลักของ ควิกแสบ อยู่ที่วัย 16-30 ปี ทั้งนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานตอนต้น ที่ชื่นชอบความจัดจ้าน สนุกกับการแสดงออก และใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ไอดอลที่ผ่านการประกวดจึงกลายเป็น “Brand Ambassador” รุ่นใหม่ ที่สามารถสื่อสารถึงกลุ่มผู้บริโภคในภาษาเดียวกัน ผ่านโซเชียลมีเดีย เพลง และกิจกรรมบนโลกจริง

ควิกแสบ หวังเพิ่ม Brand Engagement ด้วย Idol-driven Marketing ซึ่งในปีที่ผ่านมา Quick Zabb Idol Season 1 สร้างเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภค ทั้งในเชิง Awareness และ Engagement โดยผู้เข้าประกวดที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 30 คนได้กลายเป็น “ไมโครอินฟลูเอนเซอร์” ที่ช่วยขยายการรับรู้แบรนด์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ปีนี้แบรนด์เตรียมต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการผลักดันผู้ชนะและผู้เข้ารอบสุดท้ายให้มีผลงานเพลงและซิงเกิลของตนเอง รวมถึงกิจกรรม Mini Concert, Roadshow และ Collaboration กับค่ายเพลง เพื่อเชื่อมโยงกลับมาที่แบรนด์โดยตรง

นายยศสรัล แต้มคงคา กล่าวอีกว่า “ปีแรกเราปูรากฐาน ปีสองคือการต่อยอดให้ไอดอลของเราได้มีเวทีจริง ได้เติบโตพร้อมแบรนด์ และกลายเป็นพลังร่วมที่สร้างคอนเทนต์ให้กับ ควิกแสบ อย่างต่อเนื่อง สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ควิกแสบ จะใช้พลัง “Idol + Entertainment Marketing” เป็นหัวหอกหลักในการกระตุ้นยอดขาย พร้อมเชื่อมโยงสู่แผนธุรกิจปี 2026 โดยเตรียมเปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่ในเซกเมนต์พรีเมียม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาทั้งรสชาติและประสบการณ์ที่แตกต่าง กลยุทธ์นี้จะทำให้แบรนด์มีทั้ง “ยอดขาย–ยอด Awareness–ยอด Engagement” เติบโตไปพร้อมกัน

ควิกแสบ ไม่ได้มองตัวเองเป็นเพียง “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” แต่เป็นแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจและโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ผ่านเวทีที่ผสานระหว่างอาหาร ดนตรี และความฝัน และเราคือบะหมี่แบรนด์เดียวในตลาดที่สร้างเวทีไอดอลของตัวเอง และทำอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อว่าความแสบคือพลังสร้างสรรค์ที่ผลักดันให้ทุกคนกล้าเป็นตัวเอง”

ซึ่ง Brand Message 2025 “Quick Zabb ไม่หยุดที่ความแสบ แต่แซ่บกว่าด้วยพลังดนตรีและคนรุ่นใหม่” การเดินเกม Idol Contest 2025 คือก้าวสำคัญสู่โรดแมปปี 2026 ที่ Quick Zabb มุ่งสร้าง “Brand Experience” ให้แข็งแรงกว่าการเป็นสินค้า-แต่คือแบรนด์ที่ “อยู่ในใจ” ของคนรุ่นใหม่ทุกครั้งที่คิดถึงคำว่า สนุก–จัดจ้าน–มีสไตล์ “เพราะ ควิกแสบ ไม่ได้แค่ขายบะหมี่ แต่ขายแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ ที่กล้าแสบ และกล้าเป็นตัวเอง” นายยศสรัล แต้มคงคา กล่าวสรุปในตอนท้าย

โฮมโปร ยืนหนึ่งทุกสมรภูมิบ้าน ตอกย้ำผู้นำ Home & Living ครบทุกมิติ ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการบริการและโซลูชันเรื่องบ้าน เดินหน้าพันธกิจ “We Make a Better Living”

โฮมโปร (HMPRO) ผู้นำธุรกิจ Home Solution & Living Experience ภายใต้พันธกิจ “We Make a Better Living” ที่ไม่ใช่เพียงแค่คำพูด แต่เป็นแนวทางดำเนินธุรกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าให้ดีขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยสินค้าและบริการเรื่องบ้านที่ครบวงจร ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นบริการจากทีม CHANG HomePro มือโปรประจำบ้านคุณ ทีมช่างมืออาชีพที่ผ่านการฝึกอบรมด้วยมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เสริมด้วยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทันสมัย ผสานเทคโนโลยี AI, AR, Picture Search และ Voice Search ควบคู่กับการขยายสาขากว่า 130 แห่ง เพื่อรองรับกำลังซื้อที่เติบโตในอนาคต และช่องทาง Omni Channel ที่ไร้รอยต่อ ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ช้อปที่ สะดวก รวดเร็ว และครบทุกมิติของการใช้ชีวิต

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า “ผู้ประกอบการค้าปลีกเรื่องบ้านทั่วประเทศต้องเผชิญแรงกดดันหลายด้าน ทั้งกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากภาวะเศรษฐกิจและภาระหนี้ครัวเรือน, พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อนขึ้น รวมถึงความต้องการที่มากกว่าแค่ความคุ้มค่า แต่คือความสะดวกสบาย รวดเร็ว เชื่อถือได้ และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตจริง ขณะเดียวกัน ลูกค้าก็คาดหวังให้แบรนด์มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขณะที่เทคโนโลยีและ AI ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัว”

“โฮมโปร” ไม่ได้ยืนอยู่บนความแข็งแกร่งของแค่จำนวนสินค้า บริการ หรือสาขาที่ครอบคลุม แต่เราสร้างความแตกต่างด้วยการเป็น Total Home Solution & Living Experience ที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มลูกค้าบ้านเก่าและบ้านใหม่ รวมถึงผู้ที่ต้องการรีโนเวท พร้อมมี “เมกาโฮม” เข้ามาเสริมทัพ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มช่างและผู้รับเหมา รวมถึงโมเดลธุรกิจ “Hybrid Store” ที่รวมจุดแข็งทั้งสองแบรนด์ (โฮมโปร และเมกาโฮม) ไว้ในที่เดียว

ปัจจุบัน โฮมโปรมีสาขากว่า 130 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้ง HomePro, MegaHome และ Hybrid Store ที่เข้าใกล้ชุมชนมากยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงภูมิศาสตร์และประสบการณ์ช้อปปิ้ง หลังวิกฤตโควิด-19 ผู้บริโภคหันมาช้อปสินค้าออนไลน์มากขึ้น โฮมโปรจึงเร่งพัฒนาช่องทางอีคอมเมิร์ซ และ Omni-Channel เต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็นบริการ Chat Shop4You – ทักมา เราช้อปให้ ผ่าน LINE OA สาขา และ Facebook ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยช้อปส่วนตัว, บริการ Click & Collect – ช้อปออนไลน์ รับได้ที่สาขา หรือลูกค้าสามารถดูสินค้าที่หลากหลายเพิ่มเติมได้ ผ่านการสแกน QR Code สื่อในสาขา ตลอดจนยังมีช่องทางและบริการอื่นๆ ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ การทำให้ลูกค้าช้อปได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายออนไลน์เติบโตขึ้น เป็น 8% ของรายได้รวมทั้งหมด

นายวีรพันธ์ กล่าวต่อว่า อีกหนึ่ง Pain Point สำคัญของผู้บริโภควันนี้ คือ การหาช่างที่ไว้ใจได้ เพราะลูกค้าต้องการมากกว่าความสะดวก แต่คือความสบายใจว่าจะมีคนรับผิดชอบงานจนจบ และพร้อมแก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เพื่อตอบโจทย์นี้ “ช่างโฮมโปร (CHANG HomePro)” จึงถูกยกระดับให้เป็น

“มือโปรประจำบ้านคุณ” ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และครอบคลุมบริการทุกเรื่องบ้าน ตั้งแต่งานติดตั้ง ซ่อมบำรุง ไปจนถึงบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เช่น ไฟดับ ปั๊มน้ำเสีย อีกทั้งขยายบริการเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าสู่ยุค Lazy Economy ที่ต้องการความง่าย สะดวก รวดเร็ว ครบจบในครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นบริการแม่บ้านทำความสะอาด, งานซ่อมบำรุง, บริการ Same Day Delivery “ซื้อวันนี้ ส่งวันนี้” และ Express Delivery “ส่งด่วนทันที! ภายใน 1 ชั่วโมง ไม่มีขั้นต่ำ เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ” และอื่นๆ ทั้งหมดนี้ทีมช่างโฮมโปร พร้อมดูแลบ้านให้เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวของทุกครอบครัว “ความสะดวกสบายและรวดเร็ว” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการบริการ ที่ไม่ใช่แค่ตัวเลือก แต่คือสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับทันทีจากโฮมโปร

“โฮมโปร” ยังสร้าง Demand Generation เพื่อสร้างประสบการณ์เรื่องบ้าน ผ่านกิจกรรมและแคมเปญที่กระตุ้นความสนใจสู่การตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” ที่ช่วยเปลี่ยนของเก่าที่ไม่ใช้แล้ว ให้กลับมามีคุณค่าอีกครั้ง เป็นสินค้ารักษ์โลก นอกจากนี้มีกิจกรรม “ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่เปิดให้ลูกค้านำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาซ่อมฟรีทุกสาขา พร้อมส่วนลดค่าอะไหล่ ขณะเดียวกันเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพทั้งระบบซัพพลายเชนและระบบหลังบ้าน เพื่อส่งมอบบริการที่รวดเร็วกว่าเดิม และขยายตลาด B2B ด้วยการนำเสนอโซลูชันครบวงจรให้กับโครงการที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจ เพื่อตอกย้ำความเป็น Total Home Solution & Living Experience ที่ครบวงจรในทุกมิติของบ้านอย่างแท้จริง

สำหรับในปี 2569 โฮมโปรตั้งเป้าหมายสร้าง Customer Lifetime Value (CLV) เต็มรูปแบบ มุ่งให้โฮมโปรเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของลูกค้า ส่งมอบประสบการณ์เรื่องบ้านแบบครบวงจร และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น (Better Living) อีกทั้งยกระดับบริการให้เฉพาะบุคคลยิ่งขึ้นด้วย AI-Driven Personalization ผ่านระบบ Customer Data Platform (CDP) ที่วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์ เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่เหมาะกับความต้องการขณะนั้นจริงๆ อีกทั้งพัฒนา Application ต่อเนื่อง สร้าง HomePro Online App. เป็นศูนย์กลางทุกความต้องการเรื่องบ้าน, CHANG HomePro App. ทำให้การเรียกช่าง เป็นเรื่องง่ายขึ้น และ Home Card App. ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมายสำหรับสมาชิกoHom ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์ 3S เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทุกครอบครัว ภายใต้พันธกิจ “We Make a Better Living”

ด้าน นายธีรพล รอดเฉื่อย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานจัดส่งและติดตั้ง บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวเสริมว่า “เราตั้งใจให้บริการจากทีมช่างโฮมโปร (CHANG HomePro) มือโปรประจำบ้านคุณ ให้เข้ามาดูแลทุกช่วงชีวิตในบ้าน ตั้งแต่การเปลี่ยนหลอดไฟเล็กๆ ไปจนถึงการปรับปรุงห้องน้ำหรือครัวทั้งหลัง ด้วยทีมช่างมืออาชีพกว่า 2,500 ทีมที่ผ่านการฝึกอบรมมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และมีแผนขยายทีมช่างโฮมโปรเป็น 4,500 ทีม พร้อมวางแนวคิด “1 ช่าง 1 ตำบล” เพื่อให้บริการรวดเร็วครอบคลุมทุกมิติ พร้อมพัฒนาบริการให้หลากหลายตั้งแต่บริการจัดส่งด่วน ภายในวันถัดไป (Next Day Delivery), บริการจัดส่งด่วน ภายในวัน (Same Day Delivery) และบริการส่งด่วน ภายใน 1 ชม. (Express Delivery)ไปจนถึง Emergency Service ที่จะมีช่างโฮมโปรเข้าไปให้บริการ ดูแลปัญหาให้ลูกค้า ภายใน 2 ชั่วโมง การรีแบรนด์ Home Service เป็น CHANG HomePro

ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากกิจกรรม “ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ดึงดูดลูกค้าเกือบ 40,000 ราย ภายใน 3 วัน โดยลูกค้าสามารถจองบริการผ่านแอปพลิเคชัน “CHANG HomePro” ได้ง่าย เพียง 3 คลิก”

ด้าน นางอภิรดี ทวีลาภ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงาน Business & Merchandise Center บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า “อีคอมเมิร์ซยุคดิจิทัล เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญค้าปลีกไทยในปัจจุบัน ของ HomePro Online ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปี และได้ทำการปรับโฉมเต็มรูปแบบก่อนยุคโควิด-19 ทำให้รองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว HomePro Online นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น Picture Search, Voice Search, AR, Live Commerce รวมถึงระบบ Customer Data Platform (CDP) ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อแนะนำสินค้าและโปรโมชั่นเฉพาะบุคคล พร้อมบริการจัดส่งด่วนทันที! ภายใน 1 ชม. ไม่มีขั้นต่ำทุกออเดอร์ เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยกระดับประสบการณ์การซื้อของออนไลน์ให้สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม”

นายวีรพันธ์ กล่าวปิดท้ายว่า ด้วยความมุ่งมั่นของโฮมโปรที่ต้องการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับทุกคน และพร้อมที่จะเข้าใจทั้งบ้านและเข้าใจชีวิตของผู้คนจริงๆ ได้รับการตอกย้ำด้วยความสำเร็จจากการได้รับคัดเลือกจาก Marketeer ให้รับ 3 รางวัล ได้แก่ หมวดร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด, หมวดแพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ซึ่งโฮมโปรได้รับรางวัลฯ หมวดนี้ 2 ปีต่อเนื่อง) และหมวดแพลตฟอร์ม E-Commerce (Home & Living) ที่ได้รับความนิยมสูงสุด

เป็นปีแรกที่ Marketeer No.1 Brand Thailand ทำการสำรวจแบรนด์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของผู้บริโภคในหมวดร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ใส่ใจทั้งด้านการตกแต่งและฟังก์ชันการใช้งาน พร้อมความคาดหวังประสบการณ์เรื่องบ้านแบบครบวงจร ผลสำรวจพบว่า โฮมโปร
คือแบรนด์ร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคไทยนึกถึง

ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้ง โฮมโปรพร้อมเดินหน้าสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นมากกว่าผู้นำธุรกิจ แต่เป็นภาพของ “เพื่อนที่ดี” ที่พร้อมช่วยจัดการเรื่องบ้านให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ด้วยการบริหารจัดการที่ทันสมัย นวัตกรรมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และทีมงานมืออาชีพที่พร้อมเคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต โฮมโปรคือคำตอบของชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิติ ภายใต้พันธกิจ “We Make a Better Living” ที่ไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือการลงมือทำจริงเพื่อชีวิตที่ดีกว่าในทุกวัน

#MarketeerNo1BrandThailand2025 #No1BrandThailand2025 #FurnitureandHomeDecorStore

#แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่าง #CHANGHomePro #ช่างโฮมโปร #มือโปรประจำบ้านคุณ #HomeProOnline #HomeandLiving #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #homepropr

“ไดกิ้น” คว้ารางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 5 สร้างมาตรฐานโรงงานสีเขียว พร้อมปักหมุดแผน “Fusion30” สู่ Net Zero อย่างยั่งยืน

นายวัลลภ พ่วงไพโรจน์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ารับรางวัล “อุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 5” (Green Industry Level 5) ประจำปี 2568 ระดับสูงสุดของกระทรวงอุตสาหกรรม ตอกย้ำบทบาทองค์กรต้นแบบด้านโรงงานสีเขียว และการผสานความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินธุรกิจทุกมิติ ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็ง และวัฒนธรรมองค์กรที่มี “ความยั่งยืน” เป็น DNA ฝังในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงาน โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานมอบรางวัล ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก (วิภาวดี) กรุงเทพมหานคร

จากซ้ายไปขวา

1) นางสาวสุรัชมาศ คำภีระมี   วิศวกรอาวุโส บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

2) นายนัฐพงค์ หันแจ้ด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

3) นายพรยศ กลั่นกรอง   อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม  กรมโรงงานอุตสาหกรรม

4) นายณัฐพล รังสิตพล  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

5) นายวัลลภ พ่วงไพโรจน์  กรรมการบริษัทฯ & ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส  บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

6) นางสาวกันยกร วรรณศรี ผู้จัดการ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

เมื่อแรงขับชีวิตถูกดูด !!! “Burnout” ภาวะหมดไฟที่วัยทำงานและ Gen Z ต้องระวัง

ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่คุกคามคนไทยยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่เป็นสิ่งที่ค่อย ๆ บั่นทอนคุณภาพชีวิตและจิตใจอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการดูแลทันที อาจนำไปสู่โรคซึมเศร้า โรคเครียดเรื้อรัง โรคนอนไม่หลับ หรือแม้แต่การสูญเสียแรงขับเคลื่อนชีวิต ทำให้คนที่เคยสดใสและร่าเริง กลายเป็นคนเก็บตัว กลัวสังคม สูญเสียความมั่นใจ และถลำลึกสู่ความมืดมิดทางอารมณ์

นพ.ธนานันต์ นุ่มแสง จิตแพทย์ โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า “ภาวะหมดไฟ” เกิดจาก ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์สะสม ทำให้หมดแรง สูญเสียพลัง และขาดแรงจูงใจ มีทัศนคติแง่ลบต่อการงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง สะสมกลายเป็นความเครียด กดดัน ส่งผลต่อสุขภาพจิตในระยะยาว หลายคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังหมดไฟ เพียงแค่รู้สึกเบื่อหน่าย ขาดความสุขกับสิ่งที่ทำ และเมื่อไม่ได้รับการยอมรับหรือโอกาสที่สอดคล้องกับคุณค่าในใจ แรงผลักดันก็จะค่อย ๆ สูญไป จนอาจทำให้ชีวิตตกอยู่ในวงจรความทุกข์ที่ยากจะถอนตัว

องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรองว่า “ภาวะหมดไฟ” เป็น โรคใหม่ของยุคสมัย โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เร่งรีบและกดดัน จนทำให้รู้สึกไร้พลังและตกอยู่ในความมืดมิดทางอารมณ์ แนวโน้มผู้ประสบ “ภาวะหมดไฟ” เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2566 โดยเฉพาะช่วงที่สังคมกลับมาทำงานที่ออฟฟิศหลัง โควิด-19 กลุ่มที่น่าจับตาคือ วัยหนุ่มสาวอายุ 22–28 ปี หรือ Gen Z ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นชีวิตการทำงาน จากสถิติพบว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะหมดไฟมากกว่า 50% เป็นวัยทำงาน และที่น่าตกใจคือ ประชากรวัย Gen Z ราว 65% เคยรู้สึกเบื่อหน่ายและขาดแรงขับเคลื่อนในชีวิต ขณะที่คนไทยราว 15% มีความเครียดสูง ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มหมดไฟ ซึ่งในความเป็นจริงจำนวนผู้ป่วยจะสูงกว่านี้มาก แต่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเปิดเผยปัญหาทางจิตใจ และไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังถูก “ภาวะหมดไฟ” กลืนกิน

นพ.ธนานันต์ ระบุว่า สาเหตุภาวะหมดไฟไม่ได้เกิดจากงานเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากปัจจัยหลายมิติ ทั้งภาระงานที่เพิ่มขึ้นหลังองค์กรปรับลดคน ทำให้ความกดดันในที่ทำงาน ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย คนดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เลือกงานไม่ตรงกับความสามารถ หรือความกดดันจากเพื่อนร่วมงาน ทำให้ไม่สามารถแสดงศักยภาพตัวเองได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงการเดินทางที่กินเวลาชีวิต ความคาดหวังจากครอบครัวและสังคม และความไม่เข้าใจกันระหว่างเจเนอเรชั่นในครอบครัว ทำให้บ้านไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป

อาการของคนที่อยู่ใน “ภาวะหมดไฟ” สังเกตได้คือ ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ รู้สึกแปลกแยกจากบุคคลอื่น และความนับถือตนเองต่ำ ทำให้รู้สึกไร้ค่า หมดแรงจูงใจ และประสิทธิภาพการทำงานลดลง

สำหรับแนวทางการแก้ไขและรับมือกับ “ภาวะหมดไฟ” ได้แก่

  • ประเมินทางเลือกและปรับเปลี่ยนงาน พูดคุยกับหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงาน
  • ขอความช่วยเหลือและสนับสนุนจากคนใกล้ชิด
  • ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น สมาธิ โยคะ ดูหนัง ฟังเพลง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และฝึกสมาธิ
  • ปรับ mindset มองโลกในแง่บวก

นพ.ธนานันต์ กล่าวปิดท้ายว่า การพัฒนาตนเองและแรงบันดาลใจคือกุญแจสำคัญ การตั้งเป้าหมายชีวิต การค้นหาแรงจูงใจใหม่ และการจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม จะช่วยให้กลับมามีพลังชีวิตและอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข “การยอมรับปัญหา พักใจ และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้เรากลับมามองเห็นคุณค่าและเป้าหมายชีวิตอีกครั้ง”

ภาวะหมดไฟไม่ได้เป็นปัญหาของ วัยทำงานหรือ Gen Z เพียงอย่างเดียว แต่เป็น ภัยเงียบที่สังคมไทยทุกคนต้องตระหนัก เพราะแรงขับชีวิตที่มอดดับ ย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งตัวเรา ครอบครัว และสังคม หากปล่อยไว้โดยไม่จัดการ อาจนำไปสู่การสูญเสียพลังชีวิตและความสุขในชีวิตประจำวันอย่างถาวร

สำหรับผู้ที่สงสัยว่า ตัวเองกำลังอยู่ใน ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1270 หรือ Website: www.praram9.com / Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และ Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital อย่าลืมชวนคนที่คุณรัก มาร่วม “โอบกอดสุขภาพดีไปด้วยกัน” เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน

 “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” กลับมาอีกครั้งที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี! ขนทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังส่งท้ายปี เปิดตัว “5 นวัตกรรมใหม่ที่แรก!” พร้อมโปรแรงที่สุดแห่งปี 4-13 ต.ค. นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี

โฮมโปร จัดใหญ่มหกรรม “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” งานที่ทุกคนรอคอย ขนทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังระดับโลกมาจัดเต็ม ครบครันด้วยสินค้าคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทลีฟวิ่ง อุปกรณ์เพื่อสุขภาพในบ้านอย่างเครื่องฟอกอากาศและเครื่องอบผ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวและอุปกรณ์บันเทิง
ในราคาคุ้มค่า พร้อมโปรโมชันจัดหนักแห่งปี ช้อปสะดวก มาที่เดียวได้ครบทั้งสินค้าและบริการเรื่องบ้าน ระหว่างวันที่
4 ต.ค.-13 ต.ค.2568 (ตลอด 10 วันเต็ม) ที่อิมแพค เมืองทองธานี พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่จากแบรนด์ดัง ที่แรกของประเทศไทยภายในงาน

นางอุไรวรรณ ตันติพิริยะกิจ ผู้อำนวยการกลุ่มปฏิบัติการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า ปีนี้ โฮมโปรได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เปิดตัว “5 นวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าล่าสุด” ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ เน้นความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย เชื่อมโยงทุกจังหวะการใช้ชีวิตในบ้านให้ราบรื่น พร้อมตอบสนองความต้องการด้านการประหยัดพลังงาน ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ และมอบความคุ้มค่าในระยะยาวด้วยอายุการใช้งานที่ทนทาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด Better Living โดยทั้งหมดจะเผยโฉมครั้งแรกภายในงาน โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” เท่านั้น

ภายในงานยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรมล่าสุดจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิอาทิ Haier – เครื่องซักผ้า AI อัจฉริยะรุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ไฮเอนด์ เหมาะสำหรับเสื้อผ้าไฮเอนด์และดีไซน์ที่รองรับสรีระผู้ใช้งานชาวเอเชีย,
TCL – SUPER DRUM เครื่องซักอบรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมถังซักใหญ่พิเศษ 540 มม. ซักกองใหญ่ได้จบในครั้งเดียว
พร้อม Super Healthy Care ด้วยเทคโนโลยี EBS & ABS ป้องกันแบคทีเรียได้ถึง 99.99% มั่นใจได้ ทุกการซัก สะอาดหมดจด และปลอดภัยต่อสุขภาพของคนในครอบครัว, Samsung – Bespoke AI Laundry เครื่องซักและอบผ้ารุ่นใหม่ที่ผสานระบบ Heatpump และเทคโนโลยี AI เพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพสูงสุด, HISENSE – ตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยรุ่น UX Series-RGB-Mini LED TV’ ขนาด 116 นิ้ว รุ่นเรือธงที่เปิดตัวครั้งแรกในไทย มาพร้อมเทคโนโลยีจอภาพใหม่ล่าสุดของโลก เข้ากับระบบประมวลผลอัจฉริยะ และเทคโนโลยีภาพ TriChroma RGB-MiniLED, ชิปประมวลผล AI Engine X, ระบบเสียง 6.2.2 แชนเนลจาก Devialet และฟีเจอร์ Game Mode Ultra ที่อัตราการรีเฟรช 165Hz มอบประสบการณ์ภาพและเสียงที่เหนือระดับอย่างแท้จริง และ Bosch – ที่นำเสนอเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านนวัตกรรมใหม่ อาทิ ระบบซักผ้าและอบผ้า ด้วยเทคโนโลยี Active Oxygen ที่ฆ่าเชื้อโรคได้ 99.99% และระบบ i-DOS เติมน้ำยาอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและสุขอนามัยที่ดียิ่งขึ้น

นอกจากนวัตกรรมใหม่แล้ว “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” ยังจัดเต็มความคุ้มค่าด้วยโปรโมชันแรงแห่งปี อาทิ

  • สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกโฮมการ์ด รับเครดิตเงินคืน รวมสูงสุด 160,000 บาท เข้าโฮมโปร วอลเล็ต ผ่าน โฮมการ์ด แอปพลิเคชัน เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ครบตามเงื่อนไข 
  • ลด+รับเพิ่ม รวมสูงสุด 7,200 บาท เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการครบตามเงื่อนไข  
  • ผ่อนทั้งงาน 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ เฉพาะบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 
  • ร่วมรักษ์โลก ผ่านโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” (Trade-In) เพียงนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ไม่ใช่แล้วมาส่งต่อภายในงาน เพื่อให้โฮมโปรช่วยนำไปจัดการอย่างถูกวิธี ช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมได้รับความคุ้มค่า ทันทีกับส่วนลดพิเศษสำหรับช้อปสินค้าใหม่ มูลค่า 10,000 บาท !!
  • ร่วมลุ้นรับทองคำรวม 5 บาท จาก VISA ในงาน “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” เพียงช้อปครบทุก 3,000 บาท/ใบเสร็จ สมาชิกโฮมการ์ด Regular รับ 1 สิทธิ์ลุ้นชิงโชค, สมาชิกโฮมการ์ด Prime Prestige รับเพิ่มอีก 2 สิทธิ์ และพิเศษ! เมื่อชำระด้วยบัตร Visa รับเพิ่มทันทีอีก 5 สิทธิ์
  • เปิดประสบการณ์จากทีมช่างโฮมโปร มือโปรประจำบ้าน ที่ยกขบวนความสุขและความสบายใจในงานนี้ กับโปรโมชันสุดคุ้มมากมาย

นางอุไรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ช่วงปลายปีคือจังหวะที่ผู้บริโภคมองถึงการรีเฟรชบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่เทศกาลและวันหยุดยาว รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรับมือกับฤดูกาลฝุ่น และสร้างสุขภาพดีไปพร้อมกัน โฮมโปรจึงเล็งเห็นเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้านวัตกรรมที่ชาญฉลาดมากขึ้น ประหยัดพลังงาน และสะดวกสบาย รวมถึงมองหาสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนในบ้านอีกด้วย
งาน ‘โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป’ ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รวมสินค้าและโปรโมชันในราคาสุดคุ้ม แต่เป็นงานที่สะท้อนเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ และเป็นการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ของเครื่องใช้ไฟฟ้าจากหลายหลายแบรนด์ดัง ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ใช้งานง่าย เครื่องฟอกอากาศที่กรอง PM 2.5 ได้อย่างดี ไปจนถึงเครื่องครัวและความบันเทิงที่พร้อมให้อัปเกรดในงบที่คุ้มค่า เรียกได้ว่ามางานนี้ ได้ครบทั้งสินค้าและบริการเรื่องบ้าน และช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย”

ทั้งนี้ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับสินค้าและบริการเรื่องบ้าน ครบทุกไลฟ์สไตล์ในงานเดียว ที่เติมเต็มทุกการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทลีฟวิ่ง ที่ทำให้การใช้ชีวิตในบ้านง่ายขึ้นและปลอดภัย, เครื่องฟอกอากาศ หลากหลายขนาด รองรับการจัดการฝุ่น PM 2.5 ได้ทุกพื้นที่, เครื่องอบผ้า ที่เหมาะกับผู้แพ้ฝุ่นและฤดูฝน, เครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน, รวมถึง ตู้เย็น เตาอบ ทีวี ระบบเสียง และเครื่องใช้ในครัว ที่มาพร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

สัมผัสมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งปี เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างคุ้มค่าเพื่อชีวิตที่ดีกว่า Better Living
ที่ โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2568 – 13 ตุลาคม 2568 นี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี
ฮอลล์ 9
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Call Center 1284

#โฮมโปรอิเล็คทริคเอ็กซ์โป #HomeProElectricExpo #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #homepropr