“เรียล สมาร์ท” เปิดตัว 2 แพลตฟอร์ม เอไอ ปฏิวัติ วงการสื่อสารองค์กร

“เรียล สมาร์ท” เปิดตัว 2 แพลตฟอร์ม เอไอ “เรียล มีเดีย” และ “เรียล พีอาร์ อิมแพ็ค” ปฏิวัติวงการสื่อสารองค์กร เน้นเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล ประมวลมูลค่าข่าว พร้อมช่วยในการบริหารประเด็น และการจัดการวิกฤตภาพลักษณ์องค์กรและแบรนด์

นาย ภูกิจ ดิศธรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) บริษัทด้าน เอไอ ดาต้า เทคโนโลยี เปิดตัว 2 แพลตฟอร์ม เอไอ  เรียล มีเดีย (Real Media) และ เรียล พีอาร์ อิมแพ็ค (Real PR Impact) ปฏิวัติวงการสื่อสารองค์กร และการประชาสัมพันธ์ เน้นเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล ประมวลมูลค่าข่าว และช่วยเป็นเครื่องมือในการบริหารประเด็น และจัดการวิกฤตภาพลักษณ์องค์กรและแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในงานสัมมนา “ปฏิวัติวงการประชาสัมพันธ์ด้วยเทคโนโลยีเอไอ (AI:PR Revolution)” วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568

“เรียล มีเดีย เป็นการนำเอไอ เข้ามาใช้ในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวขององค์กร และ คู่แข่ง รวมไปถึงข่าวสารที่ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจ ที่ปรากฏในสื่อทุกประเภททั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ทีวี รวมไปถึง โซเชียลมีเดีย อินฟลูเอ็นเซอร์ บล็อกเกอร์ ฯลฯ จากนั้นจะนำมาประมวลผลวิเคราะห์ผลกระทบเชิงบวก เชิงลบ หรือเป็นกลางของข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏในรูปของแดชบอร์ด (Dashboard) และ มีการสรุปข้อมูล เพื่อให้ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือสื่อสารองค์กร สามารถนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธการสื่อสารองค์กร รวมทั้งบริหารจัดการประเด็นเพื่อป้องกันองค์กรหรือแบรนด์จากการเกิดภาวะวิกฤต

ในขณะที่ เรียล พีอาร์ อิมแพ็ค เป็นการประมวลภาพรวมของข่าวสารที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ว่าสร้างมูลค่าให้กับองค์กรและแบรนด์อย่างไร โดยมีการนำเอไอ มาใช้ในการประมวลผลข้อมูล การรับรู้ข่าวสาร การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Engagement) ต่างๆ ของสื่อแต่ละประเภท เพื่อให้ทางทีมสื่อสารองค์กรสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการคัดเลือกสื่อ รวมไปถึงการบริหารประเด็นและการวางแผนในด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์กรได้ทันกับสถานการณ์” นายภูกิจ กล่าว

นายภูกิจ กล่าวต่อว่า การสัมมนาครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารองค์กร การประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการประเด็นและวิกฤต ที่มีประสบการณ์การทำงานมานานกว่า 30 ปีคือนางพงษ์ทิพย์ เทศะภู  ประธานสายงานสื่อสาร และ ศูนย์จัดการภาวะวิกฤตออนไลน์ บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) นายอุกฤษ ตั้งสืบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานด้านการตลาด บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอ และ การใช้โซเชียลมีเดีย ในทุกแพลตฟอร์มมาร่วมเป็นวิทยากร

“การสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักสื่อสารองค์กรและนักประชาสัมพันธ์เข้าร่วมงานมากกว่า 250 คน จากองค์กรทั้งภาครัฐ และ เอกชน ถือว่าเป็นการนำเอไอ มาใช้ในการปฏิวัติวงการสื่อสารองค์กร และ การประชาสัมพันธ์ ให้สะดวก รวดเร็ว และ ทันกับเหตุการณ์ เมื่อโลกของดิจิทัล และเอไอได้เปลี่ยนภูมิทัศน์ของการสื่อสาร จากการสื่อสารผ่านสื่อสารมวลชน เป็นการสื่อสารกับประชาชนและผู้บริโภคโดยตรง การสื่อสารจากเดิมที่เป็นการสื่อสารทางเดียว สู่การสื่อสารแบบสองทาง มีการโต้ตอบกันได้โดยตรงจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ไปถึงผู้บริโภค วงการสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ จำเป็นต้องปฏิวัติตัวเองโดยใช้เอไอ เป็นเครื่องมือในการทำงานให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น” นายภูกิจ กล่าวสรุป

“เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์” เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 โชว์ศักยภาพสุดแกร่ง ท่ามกลางความดุเดือดของอุตสาหกรรมบันเทิง โกยรายได้รวม 2,007.08 ล้านบาท กำไร 203.80 ล้านบาท

บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ผู้นำ Content Creator & Lifestyle Entertainment  ครบวงจรชั้นนำของประเทศไทยที่เป็นมากกกว่าช่องทีวี มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง และยังมีจุดแข็งสำคัญที่โดดเด่น คือ ความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้านของเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากประสบการณ์ในเครือบริษัทที่สร้างสรรค์ Content ได้ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ได้สรุปรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ดังนี้

  • เพิ่มขึ้น 9.83%  เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12.17% จากไตรมาสก่อน
  • กำไรสุทธิ 203.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.34%  จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 135.30% จากไตรมาสก่อน 

ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลกับตัวเลขผลประกอบการ ในแต่ละกลุ่มธุรกิจต่างๆ มีดังต่อไปนี้

กลุ่มธุรกิจ Idol Marketing

เติบโตโดดเด่น ทำรายได้ทะยาน 996.62 ล้านบาท โดยเติบโต 66.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23.68% จากไตรมาสก่อน  ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากการบริหารจัดการศิลปินและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง  สะท้อนแนวโน้มของอุตสาหกรรมฯ ที่เติบโตจากเทรนด์ Influencer Marketing  โดยรายได้กลุ่มนี้เติบโตในทุกสายธุรกิจย่อย และสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีขึ้นกว่าในอดีต

ซึ่งกลุ่มบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครอบคลุมด้วยศิลปินในสังกัดทุกระดับ มีทั้งศิลปินรูปแบบ Boy-Love , Girl-Love , Boy- Girl และศิลปินหน้าใหม่  รวมทั้งยังมีศิลปินในรูปแบบ Mascot Idol  ชื่อว่า “POLCASAN” และยังมีผองเพื่อน Mascot อีกหลายตัว ที่รับงานพรีเซนเตอร์ต่างๆ เสมือนเป็นศิลปินคนหนึ่งของบริษัท  ถือเป็น Trend ใหม่ที่น่าติดตาม และสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ  สำหรับ Concert & Event ในไตรมาส 3 นี้ มีการจัดงานคอนเสิร์ต และกิจกรรมแฟนมีต รวมจำนวนทั้งสิ้น 84 งาน  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  เป็นปัจจัยหนึ่งในการผลักดันวัฒนธรรมไทย (Soft Power) สู่เวทีสากล และสำหรับ Merchandising สามารถต่อยอดรายได้จากการขายสินค้าที่ระลึกของศิลปิน ที่มีหลากหลายรูปแบบ จนไปถึงลักษณะ Limited  Edition ที่มีจำนวนจำกัด  เพื่อให้เกิดความต้องการและมีคุณค่าในการสะสม  ผ่านการจำหน่ายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ โดยมีทั้งสินค้าที่ระลึกจากศิลปินรูปแบบปกติ และมีสินค้าจากศิลปินในรูปแบบ Mascot เช่นเดียวกัน และเป็นกลุ่มสินค้าที่สร้างอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง

กลุ่มธุรกิจ Content Marketing

ในไตรมาส 3 ปี 2568 นี้  ทำรายได้อยู่ที่ 959.82 ล้านบาท  ลดลง 225.25 ล้านบาท  หรือ 19.01%  เมื่อเทียบจากปีก่อนจากการปรับตัวลงทุกหมวดย่อย  แต่ยังคงสามารถเติบโตขึ้น 1.74 % จากไตรมาสก่อน 

การลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนสะท้อนทิศทางภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ ที่อยู่ในภาวะหดตัว  สอดคล้องกับแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มีการรับชมโทรทัศน์ลดลง อย่างไรก็ตาม  กลุ่มบริษัทได้ปรับตัวเชิงกลยุทธ์ต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมารับชมคอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ Online Content ซึ่งเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากความสำเร็จของช่อง Youtube “One Playground”  ที่มียอดรับชมและติดตามในระดับสูง กลุ่มบริษัทยังคงมุ่นเน้นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ชมบน OTT Platform ต่างๆ  พร้อมทั้งยังมีการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังตลาดทั่วโลก ซึ่งกลยุทธ์นี้ไม่เพียงสร้างรายได้  แต่ยังช่วยสร้างการรับรู้ในระดับสากลให้กับศิลปินและนักแสดงในสังกัด  อันเป็นการส่งเสริมและสร้างกระแสต่อเนื่องไปยังธุรกิจ Idol Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้การลดลงในรายได้จากการขายลิขสิทธ์ ยังเกิดจากการปรับกลยุทธ์เพื่อเน้นการพัฒนา Application “oneD” ซึ่งเป็น OTT Platform ของบริษัท  ให้มี Content ที่ Exclusive มากขึ้น เพื่อดึงดูดผู้ชมให้มารับชม Content ต่างๆ ของกลุ่มบริษัทผ่านช่องทางนี้มากขึ้น อันถือว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของกลุ่มบริษัท

กลุ่มธุรกิจ Production Business

ซึ่งประกอบด้วย Production Services และ Studio Rental  สำหรับรับจ้างผลิต  โดยกลุ่มบริษัทมีการผลิตคอนเทนต์ต่างๆ ชั้นนำมากมาย  และมุ่งเน้นในการทำ Original Content เป็นของตัวเองมากขึ้น  ซึ่งใน          ไตรมาสนี้ ทำรายได้อยู่ที่ 35.42 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเพียง 0.78% จากปีที่แล้ว  แต่เพิ่มขึ้น 15.42% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

กำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิ ทิศทางดีกว่าไตรมาสก่อนหน้าอย่างชัดเจน

กำไรขั้นต้น ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 37.58% เมื่อเทียบกับรายได้จากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นผลมาจากแผนการควบคุมต้นทุนและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ที่ได้แจ้งใน Opportunity Day ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568 แล้วสามารถดำเนินการได้จริง ดังนี้

1) บริหารต้นทุนการผลิตละครอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ยังคงคุณภาพใกล้เคียงเดิม และกำหนด   กลยุทธ์ช่วงระยะเวลาการ ON-AIR ให้ได้ผลตอบแทนในระดับสูง

2) บริหารจัดการคิวศิลปิน ทำให้จัด Concert / Fan meet ได้มากขึ้น และเกิด Economy of Scale ในต้นทุนบางประเภท

3) เริ่มโมเดลหารายได้งาน Presenter รวมทั้ง Event จาก Mascot Idol (POLCASAN และเพื่อนๆ จาก GMMTV) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าการใช้ศิลปินรูปแบบปกติ

4) ควบคุมต้นทุนการจัด Event และ Concert อย่างเหมาะสม โดยที่ยังคงให้ประสบการณ์กับผู้ร่วมงานได้ดีในระดับเดิม

5) เพิ่มรายได้จากธุรกิจ Merchandising ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ สามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับสูง โดยการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ Mascot ตัวอื่นๆ เพิ่มเติมจาก POLCASAN เช่น SMYLE, NEONA, BABII, KINGMAN

ทำให้ผลสรุปในไตรมาส 3 ปี 2568 ONEE มีกำไรสุทธิ 203.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.34% YoY เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 135.30% QoQ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลมาจาก การสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญของกลุ่มธุรกิจ Idol Marketing ประกอบกับบริหารจัดการอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจ Idol Marketing ได้ดีขึ้น การนำเสนอสินค้า Merchandising ที่ตรงใจแฟนคลับและมีอัตรากำไรสูง พร้อมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนของศิลปินอย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นยังมีสาเหตุมาจาก การควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด ทำให้ SG&A ลดลงในแง่ของอัตราส่วนต่อรายได้รวม

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ท่ามกลางปัจจัยที่ท้าทาย ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม        แต่การดำเนินงานของกลุ่ม บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE  กลับสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารงานที่โดดเด่นในทุกมิติ  ซึ่งเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่น ความเชี่ยวชาญ การวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และความพร้อมปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายรอบด้าน ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง  นับเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จ และความน่าเชื่อถือของกลุ่ม “เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์”  ที่มุ่งมั่นพัฒนาการบริหารจัดการธุรกิจให้มั่นคงต่อไป

 “นิตยาไก่ย่าง” ประกาศ “เราไม่ใช่ร้านอาหารครอบครัว” แต่เป็น “ร้านอาหารไทยอีสาน COMFORT FOOD รสชาติมหาชน” ถอดรหัส 4 กลยุทธ์การปั้นแบรนด์ตลอด 25 ปี มุ่งเป้าสู่พันล้าน พร้อมเปิดแคมเปญ “พื้นที่อิ่มใจ You Are My Comfort Zone”

  • “นิตยาไก่ย่าง” แบรนด์ร้านอาหารไทยอีสาน เผยกลยุทธ์ความสำเร็จตลอด 25 ปี ด้วย WINNIGN ZONE อาหารไทยอีสาน COMFORT FOOD รสชาติมหาชนที่มีความกลมกล่อม ทานแล้วเหงื่อไม่แตก ลิ้นไม่พอง กินได้ทุกคนอย่างสบายใจในโต๊ะเดียวกัน จนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • จากรายได้ 628 ล้านบาทในปี 2021 สู่ 986 ล้านบาทในปี 2024 หรือเติบโตมากกว่า 56.9% ภายในเวลาเพียง 4 ปี
  • เปิดแคมเปญ “นิตยาไก่ย่าง 25 ปี พื้นที่อิ่มใจ You Are My Comfort Zone” พิเศษ! อร่อยกับ 25 เมนู
    ขวัญใจมหาชนจากนิตยาไก่ย่าง ในราคาเพียง 25 บาท
  • ตั้งเป้าวางรากฐานให้แบรนด์เป็นที่รักและแข็งแกร่งเพื่อเตรียมขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ และตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้าน ภายในปี 2025
             

            บริษัท นิตยาไก่ย่าง กรุ๊ป จำกัด หรือ “นิตยาไก่ย่าง” ร้านอาหารไทย-อีสานขวัญใจคนไทย ตอกย้ำจุดยืน
“อาหารไทยอีสาน COMFORT FOOD รสชาติมหาชน” เผย 4 กลยุทธ์เบื้องหลังการสร้างแบรนด์ให้เติบโตอย่างมั่นคง และตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะหลักพันล้านบาท พร้อมส่งต่อความตั้งใจตลอด 25 ปีผ่านแคมเปญ “พื้นที่อิ่มใจ You Are My Comfort Zone” เพื่อตอกย้ำบทบาทของนิตยาไก่ย่างในฐานะพื้นที่อิ่มใจสำหรับทุกคน    
          คุณรวีรัตน์ ลักษณวิสิษฐ์
ผู้ก่อตั้ง ร้านนิตยาไก่ย่าง กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของนิตยาไก่ย่าง
มาจากความรักการทานอาหารไทยอีสานซึ่งเป็นอาหารที่ใครๆ ก็รัก เราจึงพัฒนารสชาติที่ถึงเครื่องกลมกล่อม เข้าถึงง่าย ทานได้ทุกคน แล้วพบว่ามีคนจำนวนมากชอบรสชาติแบบนี้เหมือนกัน จนกลายเป็น Comfort Food ที่ทุกคนสามารถทานร่วมกันได้ภายในโต๊ะเดียวกัน ภายใต้แนวคิดว่า ‘วัตถุดิบที่ใหม่ สด สะอาด ผ่านกระบวนการปรุง โดยผู้ชำนาญอย่างพิถีพิถัน คือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เรามั่นใจในรสชาติของอาหารที่เป็นหนึ่ง และมาตรฐานเดียวกัน’ ซึ่งเราติดไว้บนฝาผนังของร้านนิตยาไก่ย่าง เพื่อเตือนใจถึงความตั้งใจที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกจนมาถึงปีที่ 25”

         คุณภเดช กันตจินดา กรรมการบริหารร้านนิตยาไก่ย่าง กล่าวว่า  “ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รายได้ของนิตยาไก่ย่างเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก 628 ล้านบาท ในปี 2021เป็น 986 ล้านบาท ในปี 2024 หรือเติบโต 56.9% ภายใน 4 ปี โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 31 สาขา ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล อีกทั้งยังมี 5 เมนูขายดีตลอด 25 ปี
ที่ผ่านมา คือ 1.ส้มตำไทยไข่เค็ม 2.ไก่ย่างต้นตำรับ 3.ต้มโย้งไก่ย่าง 4.ปลากระพงพริกขี้หนูหอม 5.ลอดช่องไทยน้ำกะทิ และมีเมนูที่นิตยาไก่ย่างคิดค้นเป็นเจ้าแรก อย่าง ต้มโย้งไก่ย่าง หมูข้าวเม่า ส้มตำเส้นไก่ย่าง  ที่สร้างฐานแฟน
เหนียวแน่น จนมีลูกค้ากลุ่มที่ชื่นชอบ กลับมาทานสูงสุดถึง 130 ครั้งต่อปี (ข้อมูลจากระบบฐานลูกค้าสมาชิก ปี 2024) ความสำเร็จนี้ ไม่ได้เกิดจากความอร่อยเพียงอย่างเดียว แต่มาจาก 4 กลยุทธ์สำคัญคือ

1.อาหารไทยอีสานรสชาติมหาชน (Winning Zone)


            1.1 อาหารที่ทานได้ทุกวันได้อย่างสบายใจ อาหารไทยอีสานเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคนไทย และเป็นอาหารที่ทานได้ทุกวันโดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ ดังนั้นจึงได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สอดคล้องกับข้อมูลครึ่งปีแรกของแกร็บ (Grab) ปี 2024 ที่ชี้ว่า “ส้มตำ” คือ Top3 เมนูที่คนนิยมค้นหา เช่นเดียวกับข้อมูลจาก LINE MAN WONGNAI  ปี 2024 ชี้เมนูขายดีมาแรงบนเดลิเวอรีปี 2024 ของหมวดอาหาร อันดับ 1 คือ “ส้มตำ”

            1.2 รสชาติมหาชน นิตยาไก่ย่างออกแบบรสชาติอาหารทุกจานให้ “ถึงเครื่องแต่กลมกล่อม” เป็นรสชาติมหาชนที่ทานแล้วสบายกาย สบายใจ ไม่เผ็ดร้อนจนลิ้นพอง แสบท้อง เหงื่อแตก จนรู้สึกไม่สบายตัว เป็นรสชาติที่สมดุลจนทุกคนทานได้หมด ไม่ว่าจะวัยไหน เพศไหน หรือมีความชอบเรื่องรสชาติที่แตกต่างกัน ก็สามารถร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันได้อย่างมีความสุข

2.ความพิถีพิถัน (Craftsmanship)


          2.1 อาหารที่อร่อย = วัตถุดิบที่ดีที่สุด
นิตยาไก่ย่างเชื่อว่ารสชาติที่ดีมาจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพยอมเยี่ยม จึงเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดมาปรุงอาหารเช่น เห็ดเผาะ ต้องเป็นพันธุ์ฝ้ายจากภาคเหนือที่ไม่เหนียว เคี้ยวแล้วมีความกรุบเป๊าะในปาก, หน่อไม้ มาตรฐานส่งออก, ข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากเชียงราย, ข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีที่สุด และกุ้งแห้งจาก ประมงเรือเล็ก นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนชุมชนผู้ผลิตโดยตรง ซื้อวัตถุดิบในท้องถิ่น เพื่อช่วยสร้างรายได้เพิ่ม และส่งเสริมผู้ผลิตในพื้นที่อย่างยั่งยืน

2.2 ระบบครัวกลาง ที่พัฒนาเพื่อรองรับการขยายสาขา และทำให้ รสชาติอาหารมีคุณภาพและได้มาตรฐาน     

2.3 ควบคุมรสชาติให้เหมือนกันทุกสาขา (SOP) พัฒนา SOP หรือ Standard Operation Procedure เฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของนิตยาไก่ย่าง ซึ่งเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เอื้อต่อพนักงานใหม่ได้อย่างรวดเร็วและได้มาตรฐาน ดังนั้น ทุกขั้นตอนของแต่ละสาขาของนิตยาไก่ย่างจึงมีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน

3.ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นสู่ธุรกิจที่มั่นคง (Bonding Business)

นิตยาไก่ย่างส่งต่อความเชื่อในการทำธุรกิจที่ดีจากครอบครัวของผู้ก่อตั้งไปสู่ครอบครัวนิตยาไก่ย่างที่เป็นพนักงานทุกคน ผ่านการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง และการปลูกฝังให้ลองทำจริง ผู้บริหารจะต้องทำงานเป็นตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ไม่ว่าจะเสิร์ฟอาหาร ไปจนถึงงานในครัว เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาและเข้าใจหัวอกของพนักงานคำว่า “ครอบครัว” สำหรับนิตยาไก่ย่างจึงไม่ได้จำกัดแค่ลูกหลานผู้ก่อตั้ง แต่รวมไปถึงพนักงานของนิตยาไก่ย่างด้วย ดังนั้น ผู้บริหารจะดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัว และปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งเพศสภาพ สังคม ฐานะ ความผูกพันนี้ทำให้พนักงานตั้งแต่รุ่นแรกยังคงทำงานที่นิตยาไก่ย่างอย่างมีความสุขมาจนถึงทุกวันนี้

4.การขยายสาขาที่เข้าใจลูกค้า (Location)
         

เพื่อให้ลูกค้าได้มีเวลาคุณภาพในการทานอาหารแบบไม่ต้องเร่งรีบ  นิตยาไก่ย่างมีกลยุทธ์ในการเลือก
ตำแหน่งที่ตั้งสาขา ดังนี้

4.1 มีที่จอดรถกว้างขวางและเส้นทางเข้า-ออกชัดเจน เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่ม และใช้เวลารับประทานอาหารนาน ดังนั้น ต้องมีที่จอดรถสะดวกสบายต่อการเดินทาง และรองรับลูกค้า
จำนวนมากได้ตลอดทั้งวัน

4.2 ตำแหน่งที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นขาออกเมืองเป็นหลัก เพราะเชื่อว่า ขาเข้าเมืองคนจะเร่งรีบ โอกาสการแวะทานข้าวน้อยกว่า ในขณะที่ขาออกเป็นเส้นทางที่ผู้คนไม่เร่งรีบ และ มีโอกาสแวะทานได้ตลอดวัน ทำให้สามารถใช้เวลาคุณภาพในการรับประทานอาหารได้

4.3 แหล่งชุมชน เลือกทำเลที่มีคนอยู่อาศัยหนาแน่น แทนการเปิดในย่านออฟฟิศ เพราะย่านออฟฟิศ
มักเป็นมื้อเร่งด่วน กินคนเดียวในเวลาสั้นๆ ขณะที่ย่านชุมชนลักษณะของผู้อยู่อาศัยมีเวลายืดหยุ่นมากกว่า มักมากันเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ทำให้มูลค่าต่อโต๊ะสูงกว่า และทราฟฟิกร้านไม่กระจุกแค่บางช่วงเวลา ส่งผลให้อัตราหมุนเวียนโต๊ะเฉลี่ยสูงถึง 4 เทิร์นต่อวัน 

4.4 เสริมช่องทางออนไลน์-เดลิเวอรี่ นอกจากการขยายสาขา นิตยาไก่ย่างยังพัฒนา “ช่องทางออนไลน์” ควบคู่กัน เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่ โดยให้บริการครบทุกแพลตฟอร์มหลัก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตั้งแต่ช่วงโควิดและยังคงเติบโตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

แคมเปญ นิตยาไก่ย่าง 25 ปี พื้นที่อิ่มใจ… You Are My Comfort Zone

            จาก 4 กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนนิตยาไก่ย่างมาตลอด 25 ปี สิ่งที่เด่นชัดไม่ใช่แค่สูตรหรือยอดขาย แต่คือการสร้างช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน ผ่านอาหารไทย-อีสาน Comfort Food รสชาติมหาชน กินได้ทั้งโต๊ะและมั่นใจได้ในมาตรฐานเดียวกัน หัวใจความสำเร็จจึงอยู่ที่การเป็น “พื้นที่” ที่ทำให้ผู้คนอิ่มทั้งกายและใจ ไม่ใช่แค่ร้านอาหารของครอบครัว แต่เป็นพื้นที่สำหรับการพาคนที่มีความหมายมาใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งต่อยอดสู่แคมเปญ “นิตยาไก่ย่าง 25 ปี พื้นที่อิ่มใจ…You Are My Comfort Zone” ที่สื่อสารตัวตนของนิตยาไก่ย่างในฐานะ Comfort Food สำหรับคนที่เป็น Comfort Zone ของกันและกัน ทำให้การชวนใครสักคนมานิตยาไก่ย่างเป็นการบอกว่า “คุณคือคนสำคัญ” ผ่าน “เมนูพื้นที่อิ่มใจ” ซึ่งมีความหมายซ่อนอยู่ เช่น


            เธอคือ ‘ส้มตำไทย’ ของฉัน เพราะไทยอยู่ที่เจอ เธออยู่ที่ใจ
            เธอคือ ‘ลาบหมู’ ของฉัน เพราะการมีเธออยู่ในชีวิต คือ ลาภอันประเสริฐ
            เธอคือ ‘ส้มตำข้าวโพด’ ของฉัน เพราะ เธอน่ารักโพดโพดดดดดดดดด!

            ฯลฯ


เมนูอิ่มใจแทนคำขอบคุณตลอด 25 ปี พิเศษ! อร่อยกับ 25 เมนู ในราคา 25 บาท

            เพื่อขอบคุณลูกค้าที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด 25 ปี นิตยาไก่ย่างขอส่งต่อความอิ่มใจผ่านโปรโมชันพิเศษ
“อร่อยกับ 25 เมนู ราคา 25 บาท” ซึ่งเลือกมาจากเมนูยอดฮิตขวัญใจมหาชนของนิตยาไก่ย่าง
ที่ยกมาแบบจัดหนักจัดเต็ม ได้แก่ 1.แกงเขียวหวานเนื้อพริกขี้หนูหอม 2. ยำผักบุ้งกรอบ 3. ส้มตำปลาดุกฟู
4. แกงส้มชะอมกุ้ง 5. ต้มแซ่บหมูเด้ง 6. ยำหมูยอไข่แดง 7. สะโพกไก่ย่างเกลือ 8. ไข่ขยี้ไส้กรอกอีสาน,
9. ตำหลวงพระบาง, 10. ทอดมันปลากราย, 11. หมูทอดเชียงใหม่ 12. ตับหวาน 13. ผัดคะน้าปลาสลิด
14. ชะอมผัดวุ้นเส้น 15. ห่อหมกหน่อไม้ 16. ส้มตำผลไม้, 17. ส้มตำไข่เค็ม 18. ไส้กรอกอีสาน 19. กะหล่ำฉ่าน้ำปลา, 20. ยำตะไคร้กุ้งกรอบ 21. ลาบหมู, 22. ส้มตำข้าวโพด 23. ส้มตำไทย 24. ส้มตำปู 25. ตำลาว
            เพียงทานครบ 500 บาท/ใบเสร็จ รับสิทธิ์แลกซื้อ 1 เมนูอิ่มใจในราคา 25 บาท (1 สิทธิ์ต่อใบเสร็จ / เงื่อนไขเป็นไปตามที่ร้านกำหนด)

ร่วมส่งต่อ “เมนูแทนใจ” กับกิจกรรม #นิตยาไก่ย่างพื้นที่อิ่มใจ Challenge
         
นิตยาไก่ย่างชวนคุณบอกความรู้สึกดีๆ ให้คนที่เป็น “พื้นที่อิ่มใจ” ผ่านเมนูโปรดของคุณ ด้วยการร่วมตั้งชื่อ “เมนูแทนใจ” ในแบบของตัวเอง พร้อมลุ้นรางวัล “คูปองพิเศษ มูลค่า 1,000 บาท กว่า 25 รางวัล” ติดตามกติกาและวิธีร่วมสนุกได้ที่โซเชียลมีเดียของนิตยาไก่ย่าง

            “แคมเปญ “นิตยาไก่ย่าง 25 ปี พื้นที่อิ่มใจ You Are My Comfort Zone” ไม่ใช่เพียงการฉลองวาระครบรอบ 25 ปี แต่คือก้าวสำคัญของการวางรากฐานให้แบรนด์ “นิตยาไก่ย่าง” เป็นที่รักและแข็งแกร่ง เพื่อเตรียมขยายธุรกิจไปยังตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งคาดหวังยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2025”  ภเดช กันตจินดา กล่าว

            ติดตามข่าวสารและรายละเอียดและกิจกรรมสนุกๆ จากแคมเปญ นิตยาไก่ย่าง 25 ปี พื้นที่อิ่มใจ…You Are My Comfort Zone ได้ที่ www.nittayakaiyang.com , www.facebook.com/nittayakaiyangofficial


#นิตยาไก่ย่าง #นิตยาไก่ย่างพื้นที่อิ่มใจ #ใกล้ที่ไหนอร่อยที่นั่น #อร่อยครบจบที่นี่

“เบอร์ดี้” เปิดตัว “เบอร์ดี้ เอสเปรสโซ ซีโร่” ใหม่

  • ดึง “อาเล็ก ธีรเดช” เป็นพรีเซนเตอร์ตัวแทนคนรุ่นใหม่
  • เดินหน้าแคมเปญการตลาดแบบ O2O

กรุงเทพฯ – 11 พฤศจิกายน 2568 – เบอร์ดี้ แบรนด์กาแฟกระป๋องอันดับหนึ่งของไทย ภายใต้บริษัท
อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับแนวคิด “กินดี มีสุข” เพื่อสนับสนุนไลฟ์สไตล์คนไทยที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เบอร์ดี้ เอสเปรสโซ ซีโร่” กาแฟนมที่ไม่เติมน้ำตาล แต่ยังคงให้รสชาติหวานกลมกล่อม สำหรับคนรักสุขภาพ พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ “อาเล็ก ธีรเดช” ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยส่งแคมเปญการตลาดแบบ O2O ทั้งออนไลน์และออนกราวด์

ครบวงจรทั่วกรุงเทพฯ ในเดือน พ.ย. นี้

ตลาดกาแฟและเทรนด์กาแฟ ปี 2568

ตลาดกาแฟของประเทศไทย1 มีมูลค่ารวม 15,835 ล้านบาท โดยกลุ่มกาแฟพร้อมดื่ม (RTD) มีการเติบโตสูงถึง 107% ซึ่งตลาดกาแฟ RTD มีกลุ่มหลักคือ โรบัสต้า หรือกาแฟที่สกัดจากเมล็ดกาแฟโรบัสต้า รสชาติเข้ม รองลงมาคือ เอสเปรสโซ หรือกาแฟนม ที่หอมละมุน รสชาติกลมกล่อม ซึ่งรวมแล้วครองสัดส่วนใหญ่ของตลาดทั้งหมด นอกจากนี้ เทรนด์กาแฟทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเปลี่ยนแปลงจากความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มหันมาเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมากขึ้น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จึงเน้นตอบโจทย์ด้านสุขภาพเป็นหลัก โดยเฉพาะตัวเลือกแบบน้ำตาลต่ำ ไม่มีน้ำตาล หรือสูตรลดน้ำตาล เหมาะกับผู้บริโภคที่ควบคุมแคลอรี ทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้รับความสนใจและตอบโจทย์ความต้องการมากยิ่งขึ้น พบว่ากลุ่มกาแฟพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพ (น้อยกว่าหรือเท่ากับ 40 กิโลแคลอรี / 200 มล.) มีอัตราการเติบโตสูงถึง 138% สะท้อนความต้องการทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นางพนิดา เนื่องรักษา ผู้จัดการหน่วยงาน Household Business Division บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เบอร์ดี้เป็นแบรนด์กาแฟกระป๋องอันดับหนึ่งของประเทศไทย และปัจจุบันเราเป็นผู้นำในกลุ่มกาแฟพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพ (Health RTD Coffee Segment) เพื่อเป็นการตอบรับเทรนด์สุขภาพที่กำลังฮิตในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงการสนับสนุนให้ทุกคนใช้ชีวิตแบบ ‘กินดี มีสุข’ เบอร์ดี้จึงได้เสนอทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพบุกตลาดกาแฟพร้อมดื่มไทย โดยมุ่งมั่นพัฒนารสชาติและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับส่งเสริมโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ การเปิดตัวกาแฟ “เบอร์ดี้ เอสเปรสโซ ซีโร่” จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของเบอร์ดี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้วยสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคยุคใหม่และคอกาแฟทั่วไปได้อย่างลงตัว”

แคมเปญการตลาดแบบ O2O ครบวงจร

เบอร์ดี้ยังได้เปิดตัว “อาเล็ก ธีรเดช” เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่มาทดลองกาแฟกระป๋องใหม่ล่าสุดของเบอร์ดี้ จากกระแสความนิยมในตัวอาเล็กที่สร้างอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค และภาพลักษณ์เรื่องการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน ทำให้เขาเป็นตัวแทนที่ใช่โดนใจทุกตรงของคนรักกาแฟยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ แต่ยังคงต้องการดื่มกาแฟที่รสชาติอร่อย เพื่อเสริมการเปิดตัวครั้งนี้ เบอร์ดี้ได้เดินหน้าแคมเปญการตลาดแบบ Online to Offline (O2O) จัดกิจกรรมสนุก ๆ ใจกลางกรุงเทพฯ เชิญชวนทุกคนมาร่วมกิจกรรมที่บูธเบอร์ดี้เขียวแลกเขียว เบอร์ดี้ เอสเปรสโซ ซีโร่ เพียงนำสิ่งของสีเขียวอะไรก็ได้3  มาแลกรับผลิตภัณฑ์ฟรี!

และสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมเกมลุ้นรับของรางวัลพิเศษต่าง ๆ มากมาย อาทิ แก้วเชค / แก้วเก็บความเย็น
เบอร์ดี้ / ผ้าห่มเบอร์ดี้ ตั้งแต่เวลา 8.00 น. – 14.00 น. ตามโลเคชั่นใจกลางกรุงฯ

  • 5 พฤศจิกายน: ลิโด้ สยาม (Lido Siam)
  • 12 พฤศจิกายน: ปาร์ค สีลม (Park Silom)
  • 19 พฤศจิกายน: เอ็มไพร์ทาวเวอร์ (Empire Tower)

TikTok LIVE พิเศษกับอาเล็ก ธีรเดช และอินฟลูเอนเซอร์ดัง

แฟน ๆ ห้ามพลาด! เบอร์ดี้เตรียมจัดไลฟ์สุดพิเศษกับ อาเล็ก ธีรเดช และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ในวันที่
29 พฤศจิกายน 2568 ผ่าน TikTok: Birdy World ในรูปแบบไลฟ์ทอล์กโชว์สนุก ๆ ร่วมกับ รอเรน Powerpuff Gay อินฟลูเอนเซอร์สายฮาและพิธีกรสุดพิเศษ คุณสไปรท์ บาบาบิ มาร่วมสร้างสีสันในรายการ

“เบอร์ดี้ ในฐานะผู้นำตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้ดีขึ้น จับกลุ่มคอกาแฟหน้าใหม่ และสร้างความผูกพันระยะยาวกับผู้บริโภค ขณะที่เรายังคงให้ความสำคัญกับอินไซต์ของผู้บริโภค และ
เทรนด์สุขภาพ เพื่อพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง” นางพนิดากล่าวปิดท้าย

#เบอร์ดี้เอสเปรสโซซีโร่ #Birdy

รวมภาพความสุข กองประกวด “Miss Universe 2025”สัมผัสทะเลสวยที่ “โยนา บีช คลับ” ประทับใจ “อันดามันดา ภูเก็ต” ต้อนรับอบอุ่น

Amazing Thailand, Land of Smiles เปิดโลกจักรวาลแห่งความสุข สนุกทุกกิจกรรมเก็บตัวผู้เข้าประกวด Miss Universe 2025 โดยคณะเจ้าภาพจัดการประกวด Miss Universe ครั้งที่ 74 ประเทศไทย ไฟเขียวให้สาวงามทุกคนได้สัมผัสความเป็น “ไทยแท้” ทุกอณูแห่งเมืองไข่มุกอันดามัน จังหวัดภูเก็ต ส่งเสริมภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวไทยให้สมกับคำกล่าว Amazing Thailand, Land of Smiles นั่นเอง โดยช่วงเช้าคณะนางงาม 120 ประเทศ เดินทางออกจาก Kora Beach Resort Phuket (โครา บีช รีสอร์ต ภูเก็ต) พร้อมไปอาบลมห่มฟ้า สัมผัสทะเลสวย น้ำใสบนคลับหรูกลางทะเล ที่ YONA Beach Club Phuket (โยนา บีช คลับ ภูเก็ต) ผู้สนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ โดย Ms Janjira Banluesin Sales Director YONA Beach Club Phuket พร้อมต้อนรับเต็มที่ นางงามต่างดื่มด่ำกับธรรมชาติ 360 องศา โดดลงสระน้ำบนคลับ ร้อง เต้น ไปตามเสียงเพลง เก็บเกี่ยวทุกความสนุก และไม่พลาดโพสต์ภาพ-คลิปบอกชาวโลกด้วยรอยยิ้ม

ช่วงค่ำร่วมดินเนอร์อาหารนานาชาติที่สวนน้ำสุดอลังการ อันดามันดา ภูเก็ต (Andamanda Phuket : The Great Water Kingdom) จัดไว้ต้อนรับ โดยมี คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) รองประธานองค์กร Miss Universe Asiana และ ประธานคณะเจ้าภาพจัดการประกวด Miss Universe ครั้งที่ 74 ประเทศไทย , คุณธีระศักดิ์ ผลงาม คุณธนพัฒน์ นวลสกุล ผู้สนับสนุนหลักจังหวัดภูเก็ต , คุณนฐา ชมเสวี (Mr.Natha Jamasevi) ผู้จัดการทั่วไป อันดามันดา ภูเก็ต และ คุณมุจจรินทร์ น้ำคำภา (Ms.Mutjarin Namkhampa) ผู้อำนวยการฝ่ายขาย อันดามันดา ภูเก็ต คุณวัชรพงษ์ ขลังธรรมเนียม (Mr.Vatcharapong Klangtumnium) ผู้อำนวยการกลุ่มงานการตลาด อันดามันดา ภูเก็ต พร้อมมื้อพิเศษและมอบของที่ระลึก Turtle Wish Band โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านไม้ขาว และ ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ โดย Wanna Nature Dyed Studio นางงามตื่นตากับโชว์ Guardians Of Andamanda การแสดงสุดพิเศษที่หลอมรวมนาฏศิลป์โขน ผสานความแข็งแกร่งแห่งมวยคาดเชือก ตำนานนักสู้แห่งสยาม สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนได้ไม่รู้ลืม

แฟนนางงามและผู้สนใจร่วมชมการประกวด Miss Universe 2025 ครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทย ในรอบ ชุดประจำชาติ (National Costume) รอบ Preliminary Show และรอบตัดสิน (Final) ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ซื้อบัตรเข้าชมได้แล้ววันนี้ที่ https://grandticket.net

ภาพข่าวทั้งหมดอยู่ใน Link นี้นะคะ : https://drive.google.com/drive/folders/1cAI4XDC9ie3JZMcwXQMZHz4V5g2IbuPu?usp=sharing

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ Miss Universe ครั้งที่ 74 ได้ที่
📍 Facebook / Instagram / TikTok: The 74th Miss Universe – Thailand
YouTube Channel: Grand TV
แฮชแท็กอย่างเป็นทางการ: #The74thMissUniverse #MissUniverse #ThePowerOfThailand

“ไล้ท์ตี้ -มุก” คว้ารางวัลชนะเลิศ! “GMMTV POCKY IDOL” ในงาน “GMMTV POCKY IDOL FINAL STAGE” สานฝันคว้าสัญญาศิลปิน “GMMTV” พร้อมแจ้งเกิดเป็นไอดอลหน้าใหม่ของวงการ! ศิลปินรุ่นพี่สุดฮอตแท็คทีมต้อนรับสุดคึกคัก พร้อมเสียงกรี๊ดแฟนๆ สนั่นฮอลล์

เดินทางมาถึงบทสรุปสุดประทับใจ! หลังจากการแข่งขันที่เข้มข้นและเปี่ยมไปด้วยความสามารถจากผู้เข้าแข่งขันทั่วประเทศ สำหรับสำหรับ Project ใหม่แกะกล่องจากการร่วมมือกันของ “GMMTV” คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย และ “บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด” ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ป๊อกกี้แบรนด์ยอดขายอันดับ 1 ในตลาดบิสกิต กับงาน“GMMTV POCKY IDOL FINAL STAGE” เพื่อมอบโอกาสครั้งสำคัญให้คนรุ่นใหม่ที่มีความฝันและความสามารถได้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมบันเทิงอย่างเต็มตัว ซึ่งจะมีเพียง ชาย 1 คน หญิง 1 คนเท่านั้น ที่จะมีโอกาสได้เซ็นต์สัญญาเป็นศิลปินในสังกัด “GMMTV” พร้อมรับเงินรางวัลคนละ 50,000 บาท รวมมูลค่า 100,000 บาท พร้อมโอกาสในการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินใหม่ในสังกัด “GMMTV” นอกจากนี้ยังมีรางวัล Popular Vote มูลค่า 20,000 บาท อีก 1 รางวัลอีกด้วย โดยภายในงานยังมีทัพศิลปินสุดฮอตจาก “GMMTV” อย่าง วง JASP.ER (จุง อาเชน ไอย์ดึน, อู๋ ธนบูรณ์ เกียรตินิรันดร์, แซนต้า พงศภัค อุดมโภชน์, ปอนด์ ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์), วง FELIZZ (เชลซี ณปภัช สัทธาอธิคม, แซงต์ ศิลปินทร์ ศิลปชัย, พรีม ณัฐณิชา แสงมณี, เจ้าหญิง ครองขวัญ นาครทรรพ, เอแคร์ ชมพูพันธ์ทิพย์ เต็มธนมงคล, ชาริชาริสา โอแฮม), จูเนียร์ ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง, มาร์ค จิรันธนิน ตรัยรัตนยนต์, เพิร์ธ ธนพนธ์ สุขุมพันธนา, ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน, ดัง ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ, บูม ธราธร จันทรวรกาญจน์, เอมี่ ทสร กลิ่นเนียม, บอนนี่ ภัทราภัสร์ โบรัชตะสุวรรณ์, ธรรม ทัพทอง สุวรรณระกานนท์, สิงห์ เหลืองสุนทร, ข้าวกล้า วรรธน์ธนิน ส่งทวีทรัพย์, ต้อ ภควัต ตั้งฉัตรแก้ว, จูโน่ ตีระณัฐ กิตติสัทโธ” และ 2 พิธีกรมากความสามารถ “เลโอ โซสเซย์” กับ “ก๊อตจิ ทัชชกร บุญลัภยานันท์”  แท็คทีมมาร่วมต้อนรับน้องๆ อย่างคึกคัก เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.00 น. ณ ROYAL PARAGON HALL ที่ผ่านมา

เปิดงานโดย 2 พิธีกร “เลโอ-ก๊อตจิ” ได้เปิดตัวน้องๆ ทั้ง 20 คน ต้อนรับทุกคนเข้าสู่การแข่งขันรอบ FINALของ “GMMTV POCKY IDOL”  ได้แก่ GP01 เจมส์บอนด์ ทรงพล หิรัญเรือง, GP02 โมโน่ พัชรภณ บุตรเลียบ, GP03 วิน อนุชิต แสงฤทธิ์, GP04 วีเจ นพรุจ ตันธนวิกรัย, GP05 ไล้ท์ตี้ นมัสการ ตรังคสมบัติ, GP06 ปอป้อ ปรมัตถ์ ธนสิทธิ์สมบูรณ์, GP07 เจ๋ง ธนวัฒน์ ฟองตา, GP08 ฮีโร่ พงศ์พัศ ดีสุข, GP09 พู่กัน สมาวรรธน์ เพชรประสิทธิ์, GP010 เฟม ภูบดินทร์ จึงตระกูล, GP11 ไหมไท ธัญชนก ติณสูลานนท์, GP12 แพง พิชญาดา ชลไพรพิมลรัตน์, GP13 มุก ชญาดา อะกิยามะ, GP14 มิจิรุ รตาภิรมย์ บรรดาประณีต บุณยทรรพ, GP15 อาร์ติสท์ ศรีสิรินทร์ วิชยสุทธิ์, GP16 ชีส  ณิชาพร อิทธะรงค์, GP17 พีช เอนิกา ศรีพัฒนาสกุล, GP18 เอม จิดาภา ทัสฐาน, GP19 เดียร์ ทัชชกร จงสมนึก และ GP20 เพิร์ซ อมลณัฐ วนิชจักรวงศ์ ซึ่งพวกเขาได้ฝ่าฟันกันมาอย่างเข้มข้น จากผู้สมัครทั่วประเทศกว่า 3 พันคน จนได้เข้ารอบในรอบ Audition และมีการคัดเลือกเหลือเพียง 20 คนสุดท้าย ชาย 10 หญิง 10 จากนั้นน้องๆ ได้เข้าร่วม Workshop เพื่อเตรียมความพร้อม และเรียนรู้ทักษะด้านต่างๆ กับวิทยากรผู้มีประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น Personality Class / Vocal Class  และ Acting Class เรียกว่าได้ความรู้ครบทุกด้านในการช่วยเสริมสร้างศักยภาพของตัวเองให้โดดเด่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวและทัศนคติที่เป็นมืออาชีพ

ต่อด้วยแนะนำคณะกรรมการตัดสิน ได้แก่ “คุณสถาพร พานิชรักษาพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด, “คุณณัฐพงษ์ มงคลสวัสดิ์” รองกรรมการผู้อำนวยการ-ฝ่าย Content Production บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด, “คุณนพณัช ชัยวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ-ฝ่าย Content Production บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด, “คุณธนทัต ชัยอรรถ” ผู้จัดการฝ่ายบริหารธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด, “คุณกัณฑ์คุปต์ พงศ์อัครภาคิน” Choreographer / Dance Specialist และ “คุณเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ก่อนจะให้ผู้เข้าประกวดทั้ง 20 คน ได้แสดงความสามารถโกยคะแนนจากคณะกรรมการ สลับกับโชว์พิเศษจากรุ่นพี่ “GMMTV” ไม่ว่าจะเป็น  “อู๋-บูม” ที่ควงคู่มาโชว์เพลง “เรียกว่ารักได้ไหม” (Is This Love?) อวดโมเมนต์น่ารักๆ ต่อด้วย  “จุง-ดัง” ก็ขอเสิร์ฟความโรแมนติกผ่านเพลง “มากกว่าที่รัก” (More Than Words) รวมไปถึงโชว์ของ “เพิร์ธ-แซนต้า” ที่มาเติมเต็มพลังบวกส่งต่อพลังงานดีๆ ให้ทุกคนกับเพลง “อยู่ไม่ไหว” (Be With Me) แล้วไปจัดเต็มดนตรีปลุกพลังฝันส่งกำลังใจให้น้องๆ กับเพลง “You’re my star” จาก 2 หนุ่ม “ปอนด์-ภูวินทร์” ซึ่งทุกโชว์บอกเลยว่าเรียกเสียงกรี๊ดได้ดังสุดๆ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ เชื่อมั่นกับความสามารถของตัวเองอย่างมั่นใจ

หลังจากนั้นก็ถึงเวลาประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ได้แก่ GP15 อาร์ติสท์ ศรีสิรินทร์ วิชยสุทธิ์, GP09 พู่กัน สมาวรรธน์ เพชรประสิทธิ์, GP12 แพง พิชญาดา ชลไพรพิมลรัตน์, GP04 วีเจ นพรุจ ตันธนวิกรัย, GP11 ไหมไท ธัญชนก ติณสูลานนท์, GP08 ฮีโร่ พงศ์พัศ ดีสุข, GP14 มิจิรุ รตาภิรมย์ บรรดาประณีต บุณยทรรพ, GP05 ไล้ท์ตี้ นมัสการ ตรังคสมบัติ, GP13 มุก ชญาดา อะกิยามะ และ GP02 โมโน่ พัชรภณ บุตรเลียบ พร้อมทั้งสัมภาษณ์พูดคุย กับการตอบคำถามรอบ Keyword  โดยจะมี Keyword บนจอ จะวนไปเรื่อยๆ เมื่อต้องการหยุดให้พูดคำว่าหยุด Keyword จะปรากฏบนจอ 1 คำ เพื่อทำความรู้จักน้องๆ ได้เห็นถึงทักษะในการพูด รวมถึงเห็นบุคลิกภาพ และทัศนคติของผู้เข้ารอบในครั้งนี้  

ก่อนจะถึงช่วงประกาศผลผู้ชนะเลิศทุกคนก็ได้เต็มอิ่มกับโชว์สุดพิเศษจากเหล่ารุ่นพี่ “Thailand School Star 2024” อย่าง “สิงห์, ธรรม, ข้าวกล้า, ต้อ, จูโน่” ในเพลง “คั่นกู” และ “ไหล่เธอ” (You’ve Got Ma Back) รวมไปถึงรุ่นพี่ “GMMTV” สุดฮอต ไม่ว่าจะเป็น “เอมี่-บอนนี่” ที่ควงกันมาโชว์เพลง “ไม่อยากจูบเธอในฝัน” (Kissin’ Out of Dream) ต่อด้วย “จูเนียร์-มาร์ค” ก็ขอมาโปรยเสน่ห์ความน่ารัก ในเพลง “อย่าน่ารักเกิน” (Cutie Overload) ด้าน “FELIZZ” ต่างแท็คทีมจัดเต็มทั้งเต้นทั้งร้องสาดความสดใสแซ่บซ่า ในเพลง “See Through” และ “Abracadabra จงรัก จงหลง” และปิดท้ายด้วย “JASP.ER” ซึ่งบอกเลยว่าระเบิดความมันส์ สะเทือนฮอลล์ เรียกเสียงกรี๊ดลั่นกันสุดๆ กับเพลง “SADISTIC” และ “Take It Off” ที่ยกทัพความสนุกสนานต้อนรับน้องๆ เข้าสู่เส้นทางในวงการบันเทิงให้อย่างคึกคัก เล่นเอากองเชียร์และแฟนๆ ที่มาร่วมงานแฮปปี้มีความสุขส่งเสียงกรี๊ดเชียร์กันดังสนั่นลั่นฮอลล์

แล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยกับการประกาศรางวัลผู้ชนะเลิศ “GMMTV POCKY IDOL” ฝ่ายชาย ได้แก่ GP05 ไล้ท์ตี้ นมัสการ ตรังคสมบัติ  ฝ่ายหญิง ได้แก่GP13 มุก ชญาดา อะกิยามะ ซึ่งทั้งคู่จะได้เซ็นต์สัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด “GMMTV” พร้อมรับเงินรางวัลคนละ 50,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัล Popular Vote ได้แก่GP14 มิจิรุ รตาภิรมย์ บรรดาประณีต บุณยทรรพ พร้อมรับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท โดยมีเหล่ารุ่นพี่สุดฮอตของ “GMMTV” ต้อนรับอย่างอบอุ่น

ETC.โอบกอดทุกดวงใจใน “ชวนมาชิลล์ #CloudHug Concert” พาเพลงฮิตและมิตรสหายคลายลมหนาวเขาใหญ่สมการรอคอย!

เสิร์ฟความอบอุ่นตั้งแต่เริ่มฤดูหนาวกันเลยสำหรับ ETC. พี่ชายผู้เป็นดั่งไมโครเวฟของวงการเพลงไทย ผู้เติมความอบอุ่นให้กับคนฟังเสมอมา และก่อนจะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปี ETC. ได้มากับ ETC.ชวนมาชิลล์ EP:5 #CloudHug Concert คอนเสิร์ต ETC. ที่จะพาทุกคนไปสู่ไวบ์สบายๆ ของอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ ณ Chante Cafe KhaoYai ในวันที่ 1 พฤศจิกายน และขณะเดียวกันก็มากับผลงานเพลงเพราะๆ พร้อมแขกรับเชิญหลากหลายสไตล์ที่การันตีความประทับใจสุดๆ ทั้งสาวเสียงเก๋ อิมเมจ สุธิตา, พี่ชายเสียงหล่อ ต้าร์ Mr. Team รวมถึงการรียูเนี่ยนที่หลายคนรอคอยของ A Cappella 7

แม้ว่าบรรยากาศของ  Chante Cafe KhaoYai จะชุ่มฉ่ำด้วยฝน แต่ความสุขของงาน  ETC.ชวนมาชิลล์ EP:5 #CloudHug Concert ก็ไม่มีแผ่ว เริ่มต้นด้วยการแสดงเปิดของ Aun Jessada (อั๋น เจษฎา) ที่ต้อนรับทุกคนเข้าสู่พื้นที่งาน ก่อนจะเข้าสู่พิธีการ ทาง ETC. และผู้ชมร่วมยืนสงบนิ่งถวายอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเข้าสู่การแสดงเต็มรูปแบบของ ETC. ที่มากับเพลง “ใครนิยาม”, “เบลอ”, “เธอบนนั้น”, “ไม่อยากจะรับรู้”, “หมดเวลา”, “เธอคือของขวัญ”, “Enter” เรียกได้ว่าเปิดมาก็มีทั้งเพลงที่หาฟังยาก และเพลงในความทรงจำของหลายๆ คน ให้ฟังกันอิ่มไปเลย

พอให้คลายคิดถึงไปกับผลงานเพลงของ ETC. ก็เข้าสู่โมเมนต์การคลายความคิดถึงไปกับวงประสานเสียง A Cappella 7 ที่กลับมาโอบกอดคนฟังบนเวทีราวกับว่างานเลี้ยงรุ่น ผ่านผลงานที่ทุกคนคิดถึงก่อนปิดท้ายด้วยเพลง “ทั้งๆ ที่รู้” A Cappella 7 โดยแม็ค ศรัณย์ ตัวแทนสมาชิกได้เปิดใจหลังงานว่า “คอนเสิร์ต ETC. ชวนมาชิลล์ EP05 ในครั้งนี้ สำหรับพวกเรา A Cappella 7 แล้ว เปรียบเสมือนงานเลี้ยงรุ่น ที่ทำให้เพื่อนๆทุกคน ที่ห่างหายกันไปนานนับสิบปี ได้กลับมาเจอกัน พูดคุยกัน ผ่านเสียงดนตรี ที่พวกเราทั้งสองวง รักอย่างสุดหัวใจ

คอนเซ็ปต์ของ คอนเสิร์ต ETC. ในครั้งนี้ ใช้ Theme คอนเสิร์ตว่า CLOUD HUG โดยชื่อนี้ ราวกับเหมือนจัดเตรียมไว้ให้กับพวกเรา A Cappella 7 และ ผู้ชมทุกๆท่านจริงๆ  พวกเรา A Cappella 7 ได้กอด เพื่อนๆ ETC. ได้กอดผู้ชม ที่ไม่ได้เจอมานานราวนับสิบกว่าปี ด้วยความคิดถึง และ แม้ทุกคนจะต้องเปียกฝน แต่ก็เป็นการเปียกฝนที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม แห่งความสุข ตั้งแต่บทเพลงแรก จนถึงบทเพลงสุดท้าย ETC. ชวนมาชิลล์ EP05 “CLOUD HUG “คอนเสิร์ต จึงทำให้ทุกๆ คน ในค่ำคืนนี้ ได้กอดความทรงจำ ที่สวยงาม ร่วมกัน อย่างอิ่มใจ”

หลังจากที่ A Cappella 7 ลงจากเวทีก่อนส่งมอบเวทีคืนให้ ETC. ผู้กลับมากับเพลง “เข้าข้างตัวเอง”, “Lies” และ “เปลี่ยน” ก่อนส่งต่อให้น้องสาวสุดคูลอย่างอิมเมจมาเสริมไวบ์ความเท่ให้กับงานที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นกับเพลง “อยู่ดีๆ”, “Film” และ “รักแรกพบ” เวอร์ชั่นสุดคูล เป็นอีกมู้ดที่ได้ใจผู้ชมในงานสุดๆ

นอกจากความสุขจากเพลงเพราะๆ แล้ว เมื่อเข้าสู่ครึ่งทางก็เป็นโมเมนต์เล่นเกมแจกของขวัญที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และเข้าสู่เพลง “พร้อมรับความเสี่ยง”, “Etc. (Ecstasy)” และตามด้วยคัฟเวอร์เพลง “คืนนี้…ขอหอม”, และ “ติดเธอซะก่อน” ที่ทั้งเท่ ทั้งเซอร์ไพรส์  ก่อนจะกลับสู่มู้ด Acoustic ละมุนของ เยนนี่ ลูกสาวคุณพ่อ ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ที่มากับเพลง “เพราะเธอ”, “คิดถึงไม่หาย” และ “เวลาเธอยิ้ม” ก่อนตามด้วยเพลง “look at me” พร้อมส่งต่อให้ ETC. ที่กลับมาเวทีโชว์เพลงฮิตที่เพิ่งผ่านหลัก 20 ล้านวิวแบบสดๆ ร้อนๆ  “เมื่อไหร่จะบอก” และเมดเล่ย์เพลงฮิตในความทรงจำของทุกคนอย่างเพลง “ลืม” , “ผิดที่ฉันเอง”, “เจ็บและชินไปเอง”, “นาทีสุดท้าย”, “ใครเจ็บกว่า” และ “เธอคือใคร” ที่เปลี่ยนบรรยากาศเขาใหญ่ให้กลายเป็นห้องคาราโอเกะเอ้าท์ดอร์ทันที 

ที่เกาหลีมี “ซนเยจิน” ที่ไทยมี “เจี๊ยบ พิจิตตรา” สวยละมุนระดับนางเอกซีรีส์เกาหลี

ความละมุนอบอุ่นระดับ “นางเอกซีรีส์เกาหลี” ต้องยกให้ “เจี๊ยบ พิจิตตรา” ที่ล่าสุดทำโซเชียลใจฟู เมื่อภาพลุคเรียบหรูดูแพงของเธอถูกแชร์ไปทั่วจนแฟน ๆ พากันคอมเมนต์ว่า “ที่เกาหลีมีซนเยจิน ที่ไทยมีเจี๊ยบ พิจิตตรา” เปรียบเทียบความงามละไมในฟีลเดียวกันอย่างน่ารัก

 ด้วยเสน่ห์ความอ่อนโยนและบุคลิกอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ “เจี๊ยบ พิจิตตรา” กลายเป็นภาพจำของความสวยแบบ Soft Power ของผู้หญิงไทย สง่างาม เรียบง่าย แต่ทรงพลัง และยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าเลนส์ กล้องทุกตัวก็เหมือนหยุดนิ่งเพื่อเก็บทุกความละมุนไว้ในเฟรมเดียว

หลัง “แม่ชม” ขอลาออก!! เลยชวน “ยายหนิง-น้าพลอย” ฉลอง 1 วัน จัดเต็มเซ็ตใหญ่ “KAYAKI” ปิ้งย่างปลา-ซีฟู้ด ความอร่อยเพื่อสุขภาพเจ้าแรกในไทย

หลังจากที่คลิปล่าสุด แม่ชม – ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต ประกาศลั่นโซเชียล “แม่ขอลาออก” หลังเห็นลูก ๆ ทั้งสามคน พี่สายฟ้า พี่พายุ และ น้องแอบิเกล ดื้อตามประสาพี่น้องที่ไม่มีใครฟังแม่ชมเลยซักกกกคน! พอแม่ได้ลาออกมีเวลาว่างเลยพายายหนิง และน้าพลอย-ชวพร เพื่อนซี้ ไปฉลอง 1 วัน ที่ร้าน KAYAKI ร้านปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในไทย สาขาใหม่ล่าสุด ณ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี แบบจัดเต็ม
เห็นคลิปของแม่แล้วบอกเลยว่าน่าอีทสุด ๆ งานนี้ต้องขอไปสืบมาหน่อยว่ามีอะไรบ้าง? จนได้คำตอบว่าที่แม่สั่งเป็นเซ็ตใหม่ Tenkai” สุนทรียะแห่งการย่างที่มีทั้งหมด 7 คำ โดยเพิ่มความอร่อยมาใหม่ ได้แก่ Chutoro Leek ซึ่งเป็นเมนูซิกเนอเจอร์, ชุดเสียบไม้ Shade of Toro เมนูไฮไลต์ประจำเซ็ตและมีเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ซึ่งเป็นการรวมความอร่อยของปลาทูน่า (Maguro) ถึงสามส่วนสำคัญที่นำมาหั่นเต๋า เสียบไม้ และทาด้วยซอสสูตรพิเศษก่อนนำไปย่างอย่างพิถีพิถัน, ปลาไหลน้ำจืด (Unagi), ปลาแซลมอน, แซนวิชล็อบสเตอร์ (Lobster sando) ประกบด้วยขนมปังบริยอชโฮมเมดสูตรพิเศษจาก Kay’s Café และ ไข่หวาน ปิดท้าย บอกเลยว่างานนี้เป็นการฉลองที่แม่ชมดูฟินสุด ๆ ก่อนจะกลับไปยื่นใบสมัครทำหน้าที่คุณแม่ลูกสามเหมือนเดิม

 ถ้าอยากรู้ว่าที่ร้าน KAYAKI จะมีเมนูอะไรอีกบ้าง นอกจากเมนูของแม่ชม, ยายหนิง และ น้าพลอย ปักหมุดไปลองลิ้มชิมรสมาแล้ว ต้องไปลองชิมเทสระบบด้วยตัวเองที่สาขา เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ชั้น 5 หรือจะตามไปส่องก่อนที่ Facebook: Kayaki และ  IG: Kayaki.thailand ก็ได้นะจ้ะ

#KAYAKI  #YAKIZAKANA

Cr. @chomismaterialgirl

“โดม ปกรณ์ ลัม” เฮ! แท็คทีม “ยิหวา” ปะทะ “แคท – จอย” สุดเดือดพา “น้ำผึ้งขม” ทุบเรตติ้งนิวไฮยกแผง เตรียมขึ้นแท่นละครดังแห่งปี

นิวไฮแล้ว นิวไฮอีก เฮแล้วก็เฮอีก ฟาดเรตติ้งพุ่งแบบจุก ๆ เป็นปรากฎการณ์ สำหรับ “น้ำผึ้งขม” เวอร์ชั่น 2025 งานนี้ “แดง–สุรางค์ เปรมปรีดิ์” แห่งค่าย จันทร์ 25 จำกัด ผู้ผลิต จัดให้ขมต่อไม่รอแล้วนะ!! การันตีความดราม่าเข้มข้น โดย “วุธ–อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร” ผู้กำกับฝีมือเนี้ยบ จาก บริษัทเพ็ญพุธ จำกัด เป็นอีกหนึ่งละครที่รวมสุดยอดนักแสดงมากฝีมือมาประชันพลังกันสุดแรง! ไม่ว่าจะเป็นพระเอกหล่ออมตะ “โดม ปกรณ์” นางเอกน้ำตาสั่งได้ “ยิหวา ปรียากานต์” รวมถึง แคทรียา อิงลิช, จอย รินลณี และนักแสดงอีกมากมายที่เรียกว่าใส่เต็มทุกซีน หวาน ขม แซ่บ เดือด ครบทุกรสชาติเลยจริง ๆ

หลังจากปุริม-นุ้ย ได้ปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง เหตุเพราะจวงจันทร์สร้างเรื่อง แถมยังชอบวางอำนาจ จนปุริมทนไม่ไหว พยายามหาหนทางทำให้นุ้ยรู้สึกดีขึ้น ตัดสินใจสั่งให้สองแม่ลูกต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น งานนี้ได้ใจแฟนละครไปตาม ๆ กัน ในที่สุดปุริมก็จัดการสักที! ทำเอาเรตติ้งละครพุ่งนิวไฮฉลองกันยกใหญ่ โดยกลุ่มผู้ชมกรุงเทพฯ พุ่งถึง 4.41 ทางด้านกลุ่มผู้ชมอายุ 15 ปี ขึ้นไป หรือ กลุ่ม 15 BU+ (Bangkok and Urban) ได้ไป 4.01 และเรตติ้งทั่วประเทศนิวไฮ 3.37

มาลุ้นกันต่อว่าเมื่อทั้งคู่เริ่มหวานกันอีกครั้ง จะมีเหตุการณ์อะไรให้ผิดใจกันอีกหรือไม่ เพราะตัวแปรสำคัญอย่างโรส ที่โผล่มาทีไรมักจะสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน แฟนละครต้องห้ามพลาด!! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งช่วยกันดันเรตติ้ง ให้พุ่งทยานขึ้นไปอีก!! กับ “น้ำผึ้งขม” 2025 ออกอากาศ 4 วันต่อเนื่อง ตั้งแต่จันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 #ดูทีวีกด33ดูออนไลน์ที่3Plus