นายกฯ พยักหน้ารับ เตรียมกำลังทหารพร้อมแล้ว เมิน ‘ภาษีทรัมป์’ บอก ไทยมีศักยภาพ พร้อมมองหาตลาดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ลั่น ”Do it My Way“ ไม่มีสัญญา 4 ข้อแล้ว

วันนี้ (12 พ.ย. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีระงับปฏิญญาร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทย – กัมพูชา จะต้องชี้แจงกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียหรือไม่ ว่า มันไม่มี 4 ข้อ นั้นแล้ว จะมีข้อที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินการ “Do it My Way” ไม่รู้จะพูดอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า บนเวทีที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมินมาตรการภาษีทรัมป์ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เราเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกเป็นหลัก ฉะนั้น ก็มีหน้าที่ที่จะแสวงหาโอกาส หาตลาดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ก็มีหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพสินค้าของประเทศไทย ให้เป็นที่ต้องการของทั่วโลกให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้ ซึ่งศักยภาพของประเทศไทยมีแล้ว เราจะไม่ให้สิ่งเหล่านี้ มาเป็นเป็นตัวฉุด หรือทำให้เราเสียเปรียบ หรือทำให้อธิปไตยของเรา ถูกก้าวล่วง

ส่วนจะมีการชี้แจงกับสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ลงนาม นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่

ส่วนที่มีประชาชนบางส่วน ต้องการให้มีการสู้รบให้จบโดยเด็ดขาด และอีกส่วนกังวลจะมีการสู่รบ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีแผนปฎิบัติอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องความมั่นคง การป้องกันประเทศ ไม่สามารถมาพูดในลักษณะการให้สัมภาษณ์ได้ แต่ในความรัฐมนตรีและหัวหน้ารัฐบาล เราได้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ กำหนดมาตรการและผู้ปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่ออธิปไตยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนต่อเกียรติภูมิศักดิ์ศรี ของทหาร และเจ้าหน้าที่ที่คอยปกป้องดูแลแผ่นดินของเราอยู่ พร้อมย้ำว่าทุกอย่างมีอยู่ในแผนการดำเนินการทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้มีการเตรียมกำลังทางทหารพร้อมแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน พยักหน้า รับ ก่อนกล่าวว่า “แน่นอนครับ”

ตัดสิทธิ์ 2.3 แสนคน ไม่ใช้จ่ายครั้งแรกตามเงื่อนไข “คนละครึ่งพลัส” พร้อมนำสิทธิ์ไปเปิดลงทะเบียน เฟส 2 รอบเก็บตก

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ “คนละครึ่ง พลัส”  โดยเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิรวมทั้งสิ้น 20 ล้านสิทธิ  ว่า มีประชาชนไม่ได้ทำรายการใช้จ่ายครั้งแรกกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ภายในเวลา 23.00 น. ของวันที่ 11 พ.ย. 2568  จึงถูกตัดสิทธิ์ 239,731 คน

โดยก่อนหน้านี้ นายลวรณ กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส ที่ไม่ใช้จ่ายภายในวันที่ 11 พ.ย. จะถูกตัดสิทธิ์ และนำสิทธิ์นั้นไปเปิดลงทะเบียนใหม่ และรัฐบาลจะไม่เปิดให้ลงทะเบียนใหม่ แต่จะเอาสิทธิ์ที่ถูกตัดไปนั้น ไปเปิดให้มีการลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ซึ่งผู้ที่ใช้สิทธิ์ไม่ทัน ก็สามารถมาลงทะเบียนใหม่ได้ 

“ในหลักการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 เราจะเปิดให้ผู้ที่ตกหล่นจากโครงการคนละครึ่งพลัสในเฟสแรกก่อน ซึ่งก็คาดว่า จะมีไม่มาก เพราะการเปิดลงทะเบียนในเฟสแรกถือว่า ค่อนข้างครอบคลุมกลุ่มผู้มีสิทธิ์ทั้งในส่วนของกลุ่มเปราะบางที่จัดอยู่ในกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มที่อยู่ในระบบภาษี ส่วนวงเงินการใช้จ่ายคาดว่า ไม่ต่างจากเดิม”

กรมควบคุมโรค แจงพรบ.น้ำเมาฉบับใหม่ ยังกำหนดเวลาขายเหล้าเบียร์

กรมควบคุมโรคแจงกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่เพียงยกเลิกกฎหมายที่ซ้ำซ้อนหรือใช้มานานแล้ว แต่ข้อห้ามยังคงเดิม ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

วันที่ 11 พ.ย. นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีการแชร์ข้อมูลที่เป็นกระแสข่าวบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับ เรื่อง การห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย ณ สถานที่ขาย ซึ่งตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มาตรา 32 ห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสถานที่หรือบริเวณที่จัดบริการเพื่อให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ในเวลาที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามมาตรา 28 ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมจะประกาศกำหนดเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นใด ๆ เท่าที่จำเป็นก็ได้

นพ.มณเฑียร กล่าวต่อว่า เดิมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ได้มีการกำหนดเวลาขายและเวลาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ณ สถานที่ขาย มีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2515 โดยมีการกำหนดโทษทางอาญาทั้งจำคุกและปรับสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน ต่อมาในปี 2565 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นควรให้มีการยกเลิกประกาศดังกล่าว และนำหลักการมากำหนดไว้ในกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 จึงเป็นที่มาของมาตรา 32

ดังนั้น กฎหมายใหม่เพียงยกเลิกกฎหมายเก่าที่ซ้ำซ้อนหรือใช้มานานแล้ว แต่ข้อห้ามยังคงเดิม

อย่างไรก็ตาม จากเดิมที่กำหนดเป็นโทษทางอาญาเปลี่ยนเป็นโทษปรับเป็นพินัย ซึ่งการกำหนดค่าปรับจะพิจารณาให้เหมาะสมกับข้อเท็จจริง เช่น อายุ ความประพฤติ อาชีพ เป็นต้น และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถกำหนดข้อยกเว้นเพิ่มเติมเท่าที่จำเป็นได้

นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องการใช้ตราสินค้าที่เหมือนหรือคล้ายกับตราเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน กระทำการที่อาจเข้าข่ายป็นความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามมาตรา 32/3 ห้ามผู้ใดโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้ชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นชื่อหรือเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งนั้น หรือโฆษณาโดยการนำเอาชื่อ เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตัด ต่อ เติม หรือดัดแปลงข้อความให้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อหรือเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งนั้นทั้งนี้ ในลักษณะที่อาจทำให้เข้าใจได้ว่าหมายความถึงการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการกระทำความผิดของผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้กระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ทั้งนี้ หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายสามารถร้องเรียนได้ที่ เว็บไซต์ TAS โดยสามารถเข้าใช้งานผ่านเว็บไซต์ http://tas.go.th หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

อนึ่ง ข้อกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังคงเหมือนเดิม โดยขายได้เฉพาะเวลา ดังนี้ ช่วงกลางวัน เวลา 11.00 – 14.00 น. และช่วงกลางคืน เวลา 17.00 – 24.00 น.  

โฮมโปร x เจบีพี  เดินหน้าต่อยอด โมเดล Circular Economy เปลี่ยนของเก่าสู่ “บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก”

นายธีระพงศ์ สัมพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานจัดซื้อ Construction  บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร  พร้อมด้วย นางสาวสรพรรณ รัชนกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.บี.พี. อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด เดินหน้าต่อยอด โมเดล Circular Economy เปลี่ยนของเก่าสู่ “บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก” ภายใต้สินค้ารักษ์โลก หรือ “Circular Products” โดยนำชิ้นส่วนพลาสติกจากของใช้แล้วกลับมารีไซเคิลใหม่เป็นบรรจุภัณฑ์ PCR (Post-Consumer Recycled) ภายใต้ชื่อรุ่น “JBP SMART SHIELD-X 2in1” (เจบีพี สมาร์ทชิลด์เอ็กซ์ ทูอินวัน) ซึ่งได้วัตถุดิบจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” นำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลกลับมาเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ ช่วยลดขยะพลาสติกและการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิต โดยยังคงคุณภาพและความทนทานที่ตอบโจทย์ทั้งช่างมืออาชีพและเจ้าของบ้านยุคใหม่ ณ โฮมโปร สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เมื่อเร็วๆ นี้

#สินค้ารักษ์โลก #CircularProducts #โฮมโปร #HomePro #BetterLiving #Homepropr #JBP #JBPPaintThailand

ยิ่งใหญ่สมการรอคอย! iQIYI (อ้ายฉีอี้) เสิร์ฟความบันเทิงระดับเอเชีย จัดงาน “iQIYI iJOY TH 2026” เปิดไลน์อัปคอนเทนต์ ได้รับเกียรติจากสองนักแสดงจีนจากซีรีส์ “Speed and Love” บินลัดฟ้าร่วมงานและเมกะโปรเจกต์สดเซอร์ไพรส์ iQIYI Original “Running Man Thailand” คว้า โอ๊ต ปราโมทย์, เจฟ ซาเตอร์, อิ้งค์ วรันธร, เต ตะวัน, นุนิว, ต้าห์อู๋ และดีเจเผือก นั่งแท่นพิธีกรเตรียมเรียกเสียงฮา

เมื่อวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568, iQIYI (อ้ายฉีอี้) ผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ บ้านของความบันเทิงยอดนิยมแห่งเอเชีย ได้ประกาศศักดาครั้งยิ่งใหญ่ จัดงาน “iQIYI iJOY TH 2026” กับงานประกาศเปิดตัวไลน์อัปคอนเทนต์ ที่พร้อมอัดแน่นด้วย ซีรีส์ไทย, ซีรีส์จีน, อนิเมะ รวมไปถึงรายการวาไรตี้คุณภาพระดับพรีเมียม ณ Sphere Hall ชั้น 5M ศูนย์การค้า Emsphere ภายในงานได้รับความสนใจจากแฟน ๆ จนสร้างกระแสฮือฮาให้กับแฟน ๆ โลก จนเกิดเป็นกระแสไวรัลส่งผลให้ #iQIYIiJOYTH2026 ถล่มโลกโซเชียล มียอดเทรนด์รวมกว่า 43M ครั้ง* และขึ้นเทรนด์ X กว่า 13 พื้นที่ทั่วโลก ได้แก่ อันดับ 1 Thailand, Singapore, Malaysia อันดับ 2 Worldwide, Peru อันดับ 3 Indonesia อันดับ 4 Vietnam อันดับ 6 Brazil อันดับ 8 Puerto Rico, United States อันดับ 9 Philippines, Mexico และอันดับ 16 France

เริ่มงาน “iQIYI iJOY TH 2026” ด้วยช่วงเดินพรมเขียวสุดอลังการ เปิดพรมด้วยสองนักแสดงชื่อดังแห่งยุค เก่ง หฤษฎ์ และ น้ำปิง นภัสกร นักแสดงนำจากซีรีส์ “เขมจิราต้องรอด (Khemjira)” ด้วยกระแสและความนิยมระดับปรากฏการณ์ ในนามของ iQIYI (อ้ายฉีอี้) จึงได้มอบรางวัล “Khemjira The Phenomenon” เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 ซีรีส์ที่ได้ทุบสถิติครบทุกด้าน กวาดทั้งยอดรับชม และผู้รับชมสูงสุดตั้งแต่ซีรีส์เริ่มออกอากาศสูงสุดตลอดกาลทั้งในไทยและทั่วโลกบนแอป iQIYI (อ้ายฉีอี้) นอกจากนี้ช่วงเดินพรมเขียวยังได้รับเกียรติจากเหล่าบรรดาศิลปิน ดารา นักแสดงชื่อดัง KOL รวมไปถึงผู้สร้างสรรค์ผลงานบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังกว่าร้อยชีวิตตบเท้าเดินพรมสุดคับคั่ง

โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณ YANG XIANG HUA (หยาง เซี่ยง หัว) PRESIDENT OF THE MOVIE AND OVERSEAS BUSINESS GROUP ขึ้นกล่าวเปิดงาน พร้อมทั้งกล่าวถึงความสำเร็จของ iQIYI (อ้ายฉีอี้) ว่า “iQIYI ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญทั้งในด้านจำนวนสมาชิกและรายได้เมื่อเทียบกับปีก่อน ตลอดช่วงปี 2025 ที่ผ่านมา iQIYI ประเทศไทยกลายเป็นตลาดต่างประเทศที่ทำรายได้สูงสุดของบริษัท โดยในปีที่ผ่านมานี้มีไลน์อัปซีรีส์ไทยกว่า 40 เรื่อง และในปีหน้า iQIYI (อ้ายฉีอี้) ตั้งเป้าเพิ่มจำนวน iQIYI Original เป็นอีกสองเท่า อีกทั้งยังเดินหน้าพัฒนาโปรเจกต์ “iQIYI Starship” เพื่อพาศิลปินจีนและศิลปินไทยสู่ตลาดสากล และร่วมผลิตคอนเทนต์คุณภาพกับสตูดิโอชั้นนำของไทยอีกด้วย”

หนึ่งในจุดแข็งของ iQIYI (อ้ายฉีอี้) คือการอัดแน่นไปด้วยสุดยอดซีรีส์จีนระดับพรีเมียมหลากหลายรสชาติ อาทิ ซีรีส์แนวพีเรียด, แฟนตาซี, โรแมนติก, ดรามา, ระทึกขวัญ และผจญภัย โดยในปีที่ผ่านมา iQIYI (อ้ายฉีอี้) ได้ส่งมอบประสบการณ์การรับชมซีรีส์จีนที่ดีที่สุด ผ่านทัพนักแสดงคุณภาพของวงการ และทีมงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังระดับสากล ทางด้าน คุณ KOKO YANG (โคโค่ หยาง) CO-MANAGING DIRECTOR, iQIYI THAILAND ได้กล่าวถึงความสำเร็จของซีรีส์จีนและได้ประกาศไลน์อัปซีรีส์จีนเรื่องใหม่ที่พร้อมเสิร์ฟให้แฟน ๆ ทั่วโลกได้รับชม ได้แก่ ซีรีส์เรื่อง “The Legend of Rosy Clouds” นำแสดงโดย เจิงซุ่นซี และ หลี่อี้ถง, “How dare you!?” นำแสดงโดย เฉิงเหล่ย และ หวังฉู่หรัน, “Fate Chooses You” นำแสดงโดย เหรินเจียหลุน และ หวังเหอรุ่น, “Southern Anecdote” นำแสดงโดย จางซินเฉิง, ติงอวี่ซี, เจียงเป่ยเยา และ ฝูต้าหลง, “Overdo” นำแสดงโดย จางหลิงเฮ่อ และ หวังฉู่หรัน ปิดท้ายด้วยซีรีส์จีนที่แฟน ๆ ต่างรอคอยกับ “Chasing Jade” นำแสดงโดย จางหลิงเฮ่อ และ เถียนซีเวย 

ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยกับการบินลัดฟ้ามาไทยของ “Esther Yu” นักแสดงสาวชื่อดังจากประเทศจีน โดยเธอได้เผยถึงการมาประเทศไทยในครั้งนี้ว่าทุกครั้งที่ได้มาเยือนประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติและประทับใจเสมอ การมาไทยครั้งนี้ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากแฟน ๆ ชาวไทย ซึ่งภายในงานทาง iQIYI (อ้ายฉีอี้) ได้แต่งตั้งและประกาศเปิดตัว “iQIYI International Global Ambassador” คนล่าสุดแก่ “Esther Yu” โดยได้รับเกียรติจากคุณ KAI CHEN LI (ลี ไค เฉิน) VICE PRESIDENT HEAD OF APAC AND MENA มอบรางวัลพร้อมถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนที่จะเชิญทีมนักแสดงนำจากซีรีส์ “ทางรักคู่ขนาน (Speed and Love)” อย่าง “เหออวี่ (He Yu)” และ “ไมค์ พิรัชต์” ขึ้นบนเวทีพร้อมเผยถึงการถ่ายทำ โดยทีมนักแสดงได้เผยถึงความรู้สึกว่า ซีรีส์เรื่องนี้เราได้ยกทีมมาถ่ายทำที่ประเทศไทย และได้รับการต้อนรับที่ดีมาก ๆ จากแฟน ๆ เรามีโอกาสถ่ายทำตามสถานที่สำคัญที่สะท้อนเสน่ห์ของไทย ไม่ว่าจะเป็นวัดชื่อดัง ถนนเยาวราช แม่น้ำเจ้าพระยา และอีกหลากหลายสถานที่ที่งดงาม หวังว่าซีรีส์เรื่องนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ชาวไทย และทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกมาเที่ยวประเทศไทยมากยิ่งขึ้น”

และในลำดับต่อมา คุณผ่านศึก ธงรบ หรือ คุณป๊อปปี้ CO-MANAGING DIRECTOR, iQIYI THAILAND ได้ให้เกียรติขึ้นมาแนะนำไลน์อัปคอนเทนต์ไทย ที่ไม่เพียงแต่ที่ผลงานเหล่านี้จะนำเสนอคอนเทนต์ไทยให้กับคนไทยดูเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเสนอคอนเทนต์ไทยให้คนต่างชาติกว่า 190 พื้นที่ทั่วโลกได้รับชมด้วยกัน ประเดิมด้วยซีรีส์คุณภาพการันตีจากบ้าน Change2561 กับมิติใหม่ของซีรีส์บอยเลิฟสยองขวัญ “สิงสาลาตาย (Goddess Bless You From Death)” นำแสดงโดย พูห์ กฤติน และ พาเวล นเรศ ต่อด้วยซีรีส์วายที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทย และขับเคลื่อน Soft Power ไทยสู่สายตาชาวโลก จากบ้าน IDOL FACTORY กับซีรีส์เรื่อง “อสงไขย (Interminable)” นำแสดงโดย บิลลี่ ภัทรชนน และ เบ้บ ธนทัต ต่อเนื่องด้วยซีรีส์จากบ้าน Copy A Bangkok กับซีรีส์ที่ได้สร้างมาจากนิยายสุดแซ่บ “ลูกพีชทานสด (Peach Lover)” นำแสดงโดย 4 นักแสดงหน้าใหม่ดาวรุ่ง กิ๊ นิวัฒน์, ภูม ณัฐภาสน์, ฟิล์ม ภาณุรัฐ และ วิน ธนพล ต่อด้วยซีรีส์จากบ้าน M Flow Entertainment ที่ได้กลับมาสานต่อความสำเร็จของสองนักแสดงชื่อดังอย่าง โบ๊ท ยงค์ยุทธ และ โอ๊ต ภาสกร กับซีรีส์เรื่อง “KNOT” 

ตามมาด้วย 3 ซีรีส์ 3 รสชาติที่แฟน ๆ รอคอยจากบ้าน GMMTV เริ่มด้วยซีรีส์ที่จะนำเสนอความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันสุดขั้วระหว่างทายาทมาเฟียผู้ไร้สติ กับช่างภาพฟรีแลนซ์ชื่อดังผู้รักสงบกับซีรีส์เรื่อง “มีสติหน่อยคุณธีร์ Me and Thee” นำแสดงโดย ปอนด์ ณราวิชญ์ และ ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน เตรียมออกอากาศ ทุกวันเสาร์ ดูออนไลน์ เวลา 21:30 น. บนแอป iQIYI (อ้ายฉีอี้) และเว็บ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น เริ่ม 15 พฤศจิกายนนี้ ถัดมากับซีรีส์ “Burnout Syndrome ภาวะรักคนหมดไฟ” นำแสดงโดย ออฟ จุมพล, กัน อรรถพันธ์ และ ดิว จิรวรรตน์ ที่ได้สร้างเซอร์ไพรส์ในงานกับการเปิดตัว Official Trailer และ Official Poster เป็นที่แรก และเตรียมออกอากาศ ทุกวันพุธ ดูออนไลน์ เวลา 21:30 น. บนแอป iQIYI (อ้ายฉีอี้) และเว็บ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น เริ่ม 26 พฤศจิกายนนี้ ปิดท้ายกับซีรีส์ยูริกระแสแรงกับการรวมตัวของ 6 นักแสดงมากความสามารถ ที่จะเล่าถึงความลับของความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิง ซับซ้อน วุ่นวาย นำแสดงโดย น้ำตาล ทิพนารี และ ฟิล์ม รชานันท์, มิ้ลค์ พรรษา และ เลิฟ ภัทรานิษฐ์, วิว เบญญาภา และ มิ้ม รัตนวดี กับซีรีส์เรื่อง “Girl Rules กฎหลัก…ห้ามรักเธอ”

ต่อเนื่องด้วยโปรเจกต์ซีรีส์ยูริที่รวบรวม 8 นักแสดงชื่อดังของประเทศไทย “บ้านวาทินวณิช (4 Elements)” จากบ้าน North Star Entertainment ที่จะมาถ่ายทอดซีรีส์ 4 รสชาติ ได้แก่ ซีรีส์ “วิวาห์ปฐพี” นำแสดงโดย แอปเปิ้ล ลาภิสรา และ มิ้ม ปัณฑิตา, “นทีร้อยเล่ห์” นำแสดงโดย อิงฟ้า วราหะ และ ชาล็อต ออสติน , “เสน่หาวาโย” นำแสดงโดย ฟรีน สโรชา และ เบ็คกี้ รีเบคก้า และ “โซ่รักอัคนี” นำแสดงโดย น้ำหนึ่ง มิลิญ และ เนย กานต์ธีรา 

ปิดท้ายไลน์อัปคอนเทนต์ซีรีส์ไทย กับพาร์ทเนอร์คุณภาพที่ทาง iQIYI (อ้ายฉีอี้) ได้จับมือร่วมกันอย่างเหนียวแน่นในการเดินหน้าส่งต่อคอนเทนต์ระดับโลก ที่เรียกได้ว่ามีซีรีส์วายทุกเรื่องอยู่บนแอป iQIYI (อ้ายฉีอี้) กับบ้าน Mandee Work ที่ในครั้งนี้พร้อมส่ง 7 ซีรีส์ที่เตรียมรับชมได้ตลอดทั้งปี เริ่มด้วยซีรีส์พีเรียดเรื่องแรกที่ใกล้จะได้รับชมเร็ว ๆ นี้แล้วกับซีรีส์เรื่อง “ภพเธอ (Love Upon a Time)” นำแสดงโดย เน็ต สิรภพ, เจเจ รัชพล, ลาเต้ ธนรรถชล และ คิม พงศธร ต่อด้วยซีรีส์แนวมหาลัยย่อยง่าย กับผลงานการรับบทนำเรื่องแรกของ ตี๋ตี๋ วันพิชิต และ ป๋อ ศุภการ กับซีรีส์เรื่อง “ด้วงกับเธอ (Duang With You)” ตามมาด้วยซีรีส์คอเมดี้สุดแซ่บ “ที่สามของเธอ (Your Third)” นำแสดงโดย แม้ก กรธัสส์ และ ณฐ ณฐสิชณ์ ต่อด้วยซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์สุดพัวพัน “รักสุดใจนายแฟนบอย (Mr. Fanboy)” นำแสดงโดย อู่อู๋ ธนภูมิ, เซฟ วรพงษ์ และ เจมส์ ศุภมงคล ต่อด้วยซีรีส์ที่แฟน ๆ ต่างจับตา “เมื่อผมอยากเป็นยูทูบเบอร์แข่งกับแฟนเก่า (You(r)tuber)” นำแสดงโดย เติ้ล มติมันท์ และ เฟิร์สวัน วรรณกร ตามมากับซีรีส์ที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักผ่านบทเพลงสุดไพเราะในสไตล์ Musical “มนต์รักฮักอีหลี (Hug E-Lhee The Musical)” นำแสดงโดย ซี พฤกษ์ และ นุนิว ชวรินทร์ ปิดท้ายด้วย “เขมจิราต้องรอด ตอนพิเศษ (Khemjira Special Episode)” กับการเดินหน้าสานต่อความสำเร็จซีรีส์ระดับปรากฏการณ์ นำแสดงโดย เก่ง หฤษฎ์, น้ำปิง นภัสกร, เติ้ล มติมันท์ และ เฟิร์สวัน วรรณกร

นอกจากการเดินหน้ายกระดับและส่งต่อคอนเทนต์ไทยสู่สากลแล้ว iQIYI ประเทศไทย พร้อมรุดหน้าธุรกิจศิลปินกับการเปิดตัว “iQIYI Artist” ซึ่งเราพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันศิลปินไทยเพื่อต่อยอดคอนเทนต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ละคร – ซีรีส์, ภาพยนตร์, iQIYI Original รวมถึงโปรเจกต์พิเศษและ IP ชื่อดังเพื่อเดินหน้าพาเหล่านักแสดง iQIYI Artist เติบโตอย่างต่อเนื่อง

“สวยได้สตรองด้วย” นางงาม MU2025 ใส่นวมลุย “ไทยเกอร์ มวยไทย”ตื่นใจฐานซิปไลน์ที่ “หนุมาน เวิลด์”

มาเยือนประเทศไทยทั้งที ถ้าไม่ชิมอาหารไทย หรือได้ชมศิลปะแม่ไม้มวยไทยของแท้ ถือว่ายังมาไม่ถึง Thailand ในฐานะที่เป็นประเทศเจ้าภาพจัดการประกวด Miss Universe 2025 พาสาวงามผู้เข้าประกวด Miss Universe 2025 ไปลุย ไทเกอร์ มวยไทย ศูนย์เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน และมวยไทย ที่โด่งดังระดับนานาชาติที่ ที่ตั้งอยู่กลางเมืองภูเก็ต

มาถึงคณะไม่รอช้า ผู้บริหารนำทัพเยี่ยมชมค่ายมวยขนาดใหญ่ แนะนำครูมวย ชมสู่การแสดงไหว้ครู การแสดงมวยโบราณ การแสดงเตะเป้า วาดลวดลายมวยไทยให้ผู้เข้าประกวดได้ชมแบบชัดๆทั้งภาพตรงหน้า และเสียงปลายนวมกระทบเป้าซ้อมเสียงดังสนั่น สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้เข้าประกวด จากนั้นครูสอนพื้นฐานมวยไทยให้กับเหล่าสาวงาม งานนี้พอได้สวมนวม ความฮึกเหิมก็เกิด นางงามตามฮุคซ้าย ฮุคขวา รัวทั้งหมัด ศอก เข่า เตะ ไม่ยั้ง กันเลยทีเดียว

ช่วงบ่ายไปลุยกันต่อที่ หนุมานเวิลด์ ภูเก็ต (Hanuman Word Phuket) เสิร์ฟความท้าทาย และความมันส์ด้วยซิปไลน์ที่มีมากถึง 32 ฐาน ตื่นเต้นกับการเดินบน Skywalk สูงถึง 40 เมตรจากพื้นดิน ชมวิวภูเก็ต เก็บเกี่ยวโมเมนท์ ความสนุกนี้อย่างเต็มที่ ปิดท้ายค่ำคืนด้วยการแสดงชุดมหัศจรรย์ที่นำเสนอศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่ สยามนิรมิต ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า Amazing Thailand จริงๆ

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ Miss Universe ครั้งที่ 74 ได้ที่
📍 Facebook / Instagram / TikTok: The 74th Miss Universe – Thailand
YouTube Channel: Grand TV
แฮชแท็กอย่างเป็นทางการ: #The74thMissUniverse #MissUniverse #ThePowerOfThailand

แตกหักกลางจอ นัท นิสามณี ปะทะ ต้นหอม กลางรายการดัง คลิปเบื้องหลังเผย ช็อตพิธีกรร่ำไห้ เซ่นดราม่า 4.3 ล้านวิวในวันเดียว

รายการเรียลลิตี้สุดร้อนแรง “The Social Warrior สมรภูมิโซเชียล ซีซั่น 2” อีพี 4 ทางช่อง 7 HD (อาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน) ปะทุอีกระลอก เมื่อพิธีกร ต้นหอม ศกุนตลา หลุดเปรียบเทียบฝีมือของ มาสเตอร์ลีเดีย และ มาสเตอร์นัท นิสามณี กลางรายการ จนนิสาโต้กลับแรง “พิธีกรควรพูดให้เป็นกลางมากกว่านี้ เพราะต้นหอมไม่ใช่กรรมการ!” ทำเอาบรรยากาศบนเวทีถึงกับชะงัก

โดยหลังเทปออกอากาศ คลิปเบื้องหลังที่ปล่อยต่อจากรายการในโซเชียลของ“The Social Warrior สมรภูมิโซเชียล  ยิ่งตอกย้ำความเรียลด้วยยอดการเข้าชมรวมทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของรายการมากกว่า 4.3M ภายใน 24 ชั่วโมง   เมื่อเผยภาพต้นหอมถึงขั้นน้ำตาคลอ ยอมรับว่า “เพลินปากไปจนลืมบทบาทพิธีกร ไม่ได้ตั้งใจทำให้น้องเสียใจ” และสีหน้าของ นัท นิสามณี ที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก งานนี้ ดราม่ายังลามต่อบนโซเชียล เมื่อ นัท นิสามณี โพสต์ในไอจีส่วนตัว @nisamanee_nutt ว่า “พิธีกรควรเป็นกลางไหม? ทุกคนคิดว่ายังไง เพราะนิสาเด็กกว่าเลยกล้าพูดแบบนี้หรอ งั้นนัทก็ต้องปกป้องตัวเองเหมือนกัน!”  ขณะที่ต้นหอมโพสต์รูปตัวเองร้องไห้พร้อมเพื่อน ๆ พร้อมแคปชั่น “ถ้ารายการมีสคริปต์ กุคงเล่นบทหน้าเสียได้เนียนที่สุด!” จนแฟนรายการเสียงแตกเป็นสองฝั่ง ยังคงถกเถียงกันอย่างดุเดือด บ้างเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์เรียลไม่ได้การละคร เพราะเห็นอารมณ์จริงของทั้งสองฝ่าย

ล่าสุดดูเหมือนปัญหานี้จะคลี่คลาย เพราะทั้งนัท นิสามณี และ ต้นหอม ศุนตลาได้นัดเคลียร์ใจกันกลางไฟล์สด หอมแฟร์ Market ทั้งคู่ย้ำว่าไม่มีสคริปต์ เสียความรู้สึกจริง ๆ และ โกรธจริง ทะเลาะจริง แต่ตอนนี้จบแล้ว ใครยังไม่ได้ดูซีนเด็ดดังกล่าวสามารถดูย้อนหลังได้ที่ลิ้งค์ https://www.facebook.com/share/r/17a9wye3uf/

#TheSocialWarrior2 #สมรภูมิโซเชียล #ต้นหอมศกุนตลา #นัทนิสา #ลีเดียศรัณย์รัชต์ #ดราม่ากลางสมรภูมิ

คนชั่วระวังให้ดี ! แก๊งแท็กซี่คัมแบ็ก ซัดแหลกเดนนรก เตรียมล้างแค้นให้สาแก่ใจ “Taxi Driver 3” ซีซั่นใหม่ 21 พฤศจิกายนนี้ มาแน่

    เตรียมกดมิเตอร์ เหยียบคันเร่งล้างแค้น มุ่งสู่จุดหมายเพื่อผดุงความยุติธรรมอีกครั้ง เมื่อเวรกรรมอาจตามทันแต่ไม่ไวพอ ถึงเวลา “คิมโดกี” และเดอะแก๊ง เร่งเครื่องเอาคืนให้เหยื่ออย่างสาสม ในการกลับมาของซีซั่นใหม่ ของซีรีส์ระดับปรากฏการณ์ “Taxi Driver 3” งานนี้ไม่ต้องอธิบายยาวว่าปังเบอร์ไหน ดูง่าย ๆ จากการเดินทางมาไกลถึง ซีซั่นที่ 3 แล้ว โดยสุดยอดพระเอกแถวหน้า “อีเจฮุน” กลับมาอยู่หลังพวงมาลัยในบทไดรเวอร์มืออาชีพ “คิมโดกี” อีกครั้ง เขาคืออดีตเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่มาเป็นกองหน้าของทีม “แท็กซี่สายรุ้ง” กลุ่มผู้ผดุงความยุติธรรมใต้ดินที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด กับภารกิจเปิดโปงอาชญากรรมร้ายแรงที่กฏหมายอาจจัดการพวกมันไม่ได้ ทีมแท็กซี่สายรุ้งจึงต้องต่อสู้เพื่อทุกคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมในสังคมที่ไม่เท่าเทียมแห่งนี้ 

    ความสำเร็จของ Taxi Driver ทั้ง 2 ซีซั่น เกิดจากธีมของเรื่องที่แปลกใหม่ เมื่อแท็กซี่คนนี้ไม่ได้รับผู้โดยสารทั่วไป แต่จะรับเฉพาะคนที่กำลังประสบปัญหาและไร้ทางออกในชีวิตเท่านั้น โดยแก่นของพล็อตนั้นถูกใจผู้ชม กับการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม การแก้แค้นทางเหยื่อที่ไร้ทางสู้ ด้วยวิธีที่ไม่ธรรมดา นอกจากนี้สไตล์การเล่าเรื่องยังติดตามได้ง่ายมาก ๆ ผู้ชมสามารถดูจบได้เป็นเคส ๆ ไป แล้วได้ลุ้นกันตลอดว่า เคสต่อไปของทีมแท็กซี่ไดรเวอร์ จะเป็นเคสแบบไหน จะเข้มข้นมากขึ้นแค่ไหน ซึ่งอีกหนึ่งความสนุกคือ แต่ละเคสของทีม “แท็กซี่สายรุ้ง” ก็มีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง บ้างก็จากข่าวหน้าหนึ่งของเกาหลี บ้างก็มาจากคดีที่เป็น Talk of the Town ทำให้ผู้ชมยิ่งอิน ยิ่งมีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์อันเลวร้าย ที่ตัวละครต้องเผชิญ แต่กลับไม่ได้รับความยุติธรรม ยิ่งบางคดีที่ในชีวิตจริงผู้ต้องหากลับลอยนวล หรือไม่ได้รับโทษอย่างสาสม แต่ในซีรีส์จัดให้แบบหนำใจ คนร้ายถูกเอาคืนแบบเจ็บแสบ ยิ่งสร้างความพึงพอใจให้กับคนดูเป็นอย่างมาก

     โดยตลอด 2 ซีซั่นที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่า Taxi Driver คือซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ค่อย ๆ กวาดคะแนนนิยมจากผู้ชม จนเรตติ้งในเกาหลีและยอดวิวในแพลตฟอร์มต่าง ๆ พุ่งกระฉูด จากการเก็บข้อมูลของ Nielsen Korea ซีรีส์ Taxi Driver ซีซั่นแรก กวาดเรตติ้งทั่วประเทศสูงถึง 16% ซึ่งถือว่าสูงระดับต้น ๆ ของปี ในขณะที่ซีซั่นที่ 2 ความนิยมของซีรีส์กลับไม่ได้ลดลงเลย และยิ่งพุ่งสูงปรี๊ดขึ้นไปอีก โดยในตอนสุดท้ายสามารถทะยานขึ้นไปได้ถึง 21% ทำให้การกลับมาของ Taxi Driver ปีที่ 3 นี้ ยิ่งถูกจับตา แฟนซีรีส์ต่างคาดเดากันว่า ตัวเลขเรตติ้งความนิยมของแฟน ๆ ในประเทศเกาหลีใต้นั้น จะพุ่งขึ้นไปไกลมากแค่ไหน และคาดว่า เรื่องราวของ Taxi Driver จะต่อยอดไปยาว ๆ ไม่จบลงอย่างง่าย ๆ แน่นอน 

      แน่นอนว่า “Taxi Driver 3” เตรียมออกสตาร์ทแบบจัดหนักจัดเต็มอย่างแน่นอน พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากซีซั่นก่อน ๆ ด้วยนักแสดงหลักชุดเดิม นำทีมโดย “อีเจฮุน” แท็กทีมเหล่าผู้ผดุงความยุติธรรมที่เชื่อว่าผู้ชมต่างตกหลุมรักทุกคนไปแล้ว ทั้ง “พโยเยจิน” (จากซีรีส์ Moon In The Day), “จางฮยอกจิน” (จากซีรีส์ The Winning Try), “แบยูรัม” (จากซีรีส์ Tastefully Yours) และนักแสดงรุ่นใหญ่ “คิมอึยซอง” (จาก Train To Busan) สมาชิกเซ็ตเดิมของทีมแท็กซี่สีรุ้งที่ขาดใครไปคนใดคนหนึ่งไม่ได้เลย พร้อมด้วยสมาชิกใหม่อย่าง “อีดาน ลุย” ไอดอลชื่อดังจากวงบอยกรุ๊ปฮ่องกง MIRROR ที่ลัดฟ้ามาเดบิวต์ในซีรีส์เกาหลีเป็นครั้งแรกใน Taxi Driver 3 โดยจะมาร่วมเป็นพันธมิตรกับทีมแท็กซี่สายรุ้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยรับบทนำในซีรีส์ฮ่องกงรีเมคจาก Business Proposal มาแล้ว โดยในภาคนี้เหล่าตัวละครหลักจะได้สร้างพันธมิตรใหม่ ๆ ในขณะที่ต้องทำงานเพื่อลูกความที่มากขึ้นกว่าเดิม แฟนซีรีส์เตรียมให้พร้อมกับการกลับมาของ Taxi Driver 3 เริ่มปฏิบัติการ 21 พฤศจิกายนนี้ ดูได้ที่ Viu (วิว) เท่านั้น

เมื่อยอดวิวชนะความจริง: บทเรียนจากกฎเหล็กอินฟลูฯ จีน สู่คำถามของสังคมไทย

ล่าสุดจีนออกกฎเหล็กบังคับให้อินฟลูเอนเซอร์ไลฟ์สด ที่ให้ความรู้ หรือแสดงความเห็นในประเด็นที่ถือว่าเป็น “วิชาชีพเฉพาะทาง” เช่น การแพทย์ / สุขภาพ /กฎหมาย/ การเงิน/ การศึกษา ต้องมีวุฒิการศึกษา หลักฐานรับรอง หรือใบอนุญาตวิชาชีพที่เกี่ยวข้องมายืนยัน! ถ้าไม่มีอาจโดนปรับ แพลตฟอร์มก็ต้องมีการตรวจสอบด้วย

ย้อนมอง “บ้านเรา” อินฟลูฯ ไทย มีใบอะไรบ้าง?ในขณะที่จีนบอกว่า “ไม่มีวุฒิ ห้ามพูดเรื่องจริงจังเพื่อสกัดกั้นข่าวปลอม คำแนะนำผิดๆ ที่อาจทำลายสังคมโดย ลองมองย้อนมาที่สังคมไทย ที่เต็มไปด้วย “ผู้เชี่ยวชาญกำมะลอ” บนโลกออนไลน์

คำถามคือ “ความน่าเชื่อถือ” ของเนื้อหาที่ไหลบ่าในฟีดเราทุกวันนี้ มันวัดกันที่ “ยอดไลก์” หรือ “ความรู้จริง” กันแน่!!

เพราะถ้าพูดเรื่องจริงจังที่ไม่มีใบอนุญาตก็เสี่ยงบิดเบือนข้อมูลและสร้างความเสียหาย และถ้าพูดเรื่องบันเทิงที่ไม่สร้างสรรค์ก็เสี่ยงชี้นำสังคมไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสม

จีนกำลังทำให้เห็นว่าการสื่อสารบนโลกออนไลน์ไม่ได้เป็นแค่ “เสรีภาพในการพูด” อีกต่อไป แต่มันคือ “ความรับผิดชอบทางวิชาชีพ” ที่ส่งผลกระทบต่อสังคม

นโยบายนี้อาจจะดูเข้มงวดและมองได้ว่าเป็นเรื่องการจำกัดเสรีภาพทางความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันก็สะท้อนถึง วิกฤตความน่าเชื่อถือ (Credibility Crisis) ในโลกออนไลน์อย่างรุนแรง คำถามที่ทิ้งไว้ให้สังคมไทยคือ เราจะจัดการกับ “อินฟลูฯ” ที่ให้ข้อมูลผิดๆ ได้อย่างไร? โดยที่รัฐไม่ถูกกล่าวหาว่า “ปิดปาก” ประชาชน

สังคมไทยต้องการ “ใบอนุญาตอินฟลูเอนเซอร์” ในสาขาเฉพาะทางเหมือนจีนหรือไม่? หรือเราจะใช้กลไกของ “วุฒิภาวะทางปัญญา” ของผู้รับสารอย่างเดียว? เพราะถ้าวันนี้เรายังปล่อยให้ยอดวิวชนะความจริง… อนาคตเราจะเชื่ออะไรได้บ้าง?

ละลายใจทั้งโซเชียล! “เจมส์จิ – โฟม เบ็ญจมาส” ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ ปล่อยซีนหวานกลางสวนผึ้ง เผยชื่อสุดอบอุ่น “น้องพบรัก”

หัวใจละลายกันทั้งวงการ! พระเอกหนุ่มสุดอบอุ่น “เจมส์ จิรายุ” ควงภรรยาสุดที่รัก “โฟม เบ็ญจมาส” ว่าที่คุณแม่คนสวยที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ลูกชายคนแรก อายุครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว งานนี้คุณแม่เผยว่าเจ้าตัวเล็กดิ้นเก่งสุด ๆ แถมท้องนี้น้ำหนักขึ้นมาถึง 10 กิโลกรัม แต่ความสุขเกินร้อย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หนุ่มเจมส์จิได้โพสต์ภาพคู่หวานชื่นจากทริปสุดอบอุ่นกลางธรรมชาติที่ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมแคปชันสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยความหมายว่า “พบรัก

ไม่ทันข้ามคืน… แฟน ๆ แห่กดไลก์และคอมเมนต์กันสนั่น! หลายคนสงสัยเสียงเดียวกันว่า นี่คือการ “ใบ้ชื่อลูกชาย” หรือเปล่า? เสียงเมาท์แสนอบอุ่นดังลั่นไอจีว่า

“ลูกชายชื่อพบรักหรือเปล่านะ”
“ชื่อน้องพบรักเหรอคะ แงงง น่ารักมาก!”
“ใบ้ชื่อน้องแน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ”

งานนี้ถึงแม้เจ้าตัวยังไม่ออกมายืนยัน แต่แฟน ๆ ก็พร้อมตั้งแฮชแท็กรอต้อนรับ “#น้องพบรัก” กันแล้วทั่วโซเชียล บอกเลยว่าชื่ออบอุ่นละมุนหัวใจสุด ๆ เหมาะกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่สายอบอุ่นอย่าง “เจมส์จิ–โฟม” แบบไม่มีใครเกิน