“แลคตาซอย” คว้าสุดยอดรางวัล “GLOBAL BRAND OF THE YEAR” จาก FHC Shanghai ตอกย้ำแบรนด์คุณภาพระดับโลก

บริษัท แลคตาซอย จำกัด ได้รับรางวัลFHC Golden Apple Award สาขา GLOBAL BRAND OF THE YEAR (แบรนด์แห่งปีระดับโลก) ในงาน FHC Shanghai Global Food Trade Show 2025 โดยมี นางสาววัฒนมาศ ปั้นแตง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดส่วนงานต่างประเทศ เป็นตัวแทนบริษัทรับมอบรางวัล ณ ศูนย์แสดงสินค้า SNIEC เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเร็ว ๆ นี้

GLOBAL BRAND OF THE YEAR เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่จัดขึ้นโดยคณะผู้จัดงาน FHC อันประกอบไปด้วย  All China Bakery Association, Shanghai Restaurants Cuisine Association และ Shanghai Sinoexpo Informa Markets International Exhibition เพื่อมอบให้กับแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับสากล โดยเฉพาะรางวัล FHC GOLDEN APPLE AWARD นี้ มุ่งเน้นไปที่การสร้างมาตรฐานคุณภาพของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ถือเป็นเครื่องหมายรับรองแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก การวัดผลจะครอบคลุมในหลายเกณฑ์ อาทิ การประเมินมูลค่าแบรนด์ การวิจัยตลาด และการโหวตจากผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งดำเนินการโดยหลายสถาบัน อาทิ World Branding Forum และ Global Brand Magazine เพื่อให้รางวัลนี้เป็นการรับรองคุณภาพที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถคัดเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในตลาดได้อย่างมั่นใจ

การได้รับรางวัลในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแลคตาซอย ในการส่งมอบเครื่องดื่มคุณภาพและสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจที่ผู้บริโภคทั่วโลกมีต่อแบรนด์แลคตาซอย ในฐานะผู้นำผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองจากประเทศไทย

“ก้านตอง ทุ่งเงิน” เจ้าของเพลงฮิต 3 เพลงต่อเนื่อง 500 ล้านวิว! ต่อสัญญากับ GMM MUSIC อีก 5 ปี เตรียมเสิร์ฟผลงานใหม่ให้แฟน ๆ ฟังกันยาว ๆ

“ก้านตอง ทุ่งเงิน” ศิลปินลูกทุ่งเสียงหวาน เจ้าของเพลงฮิตทะลุ 500 ล้านวิว อย่าง “จื่อบ่”, “กุหลาบ”, และ “แก้บน” ตอกย้ำความสำเร็จในเส้นทางดนตรี ด้วยการ ต่อสัญญาศิลปินกับค่าย GMM MUSIC ต่ออีก 5 ปีเต็ม เรียกว่าอยู่กันยาว ๆ แบบไม่ต้องลุ้น พร้อมเสิร์ฟเพลงคุณภาพให้แฟน ๆ ฟังกันต่อเนื่องแน่นอน!

งานนี้เจ้าตัวเผยความรู้สึกดีใจที่ได้อยู่บ้านหลังเดิมต่อ พร้อมฝากถึงแฟนเพลงว่า“ขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟน ๆ ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดนะคะ จริงๆ ก้านตอง จะหมดสัญญาในต้นปีหน้า 2569 ค่ะ แต่ว่าวันนี้ถือฤกษ์ดี วันที่ 11 เดือน 11 (11.11.68) ต่อยาวๆอีก 5 ปี ซึ่งถ้านับเวลาที่อยู่กับบ้านแกรมมี่โกลด์ ก็น่าจะ 22 ปีได้แล้วนะคะ ก้านตอง ต้องขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกๆท่านและรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆด้วยที่ ซึ่งในปีนี้และปีต่อๆไป ก้านตอง มีผลงานใหม่ๆ มาฝากอย่างต่อเนื่องแน่นอนค่ะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ”

“Disney’s Zootopia 2 นครสัตว์มหาสนุก 2” เผยเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ เปิดตัว 7 ศิลปินนักแสดงชื่อดัง ร่วมพากย์เสียงเป็นตัวละครลับ สร้างสีสันให้แฟน ๆ ได้ตื่นเต้น ก่อนไปสนุกกับภารกิจครั้งใหม่ของจูดี้และนิคในโรงภาพยนตร์ 27 พฤศจิกายนนี้ ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้แล้ววันนี้

เรียกได้ว่าเป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่สำหรับแฟน ๆ “Disney’s Zootopia 2 นครสัตว์มหาสนุก 2” ภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์แห่งปี กับการเปิดตัวทีมนักพากย์คนดัง ที่ยกทัพศิลปินและนักแสดงมาร่วมพากย์เป็นตัวละครลับ เพิ่มสีสันความสนุกให้กับภาพยนตร์ฉบับภาษาไทยถึง 7 คนด้วยกัน ทั้ง เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, ส้ม-มารี เออเจนี เลอเลย์, ธามไท แพลงศิลป์, หญิง-รฐา โพธิ์งาม, แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น, โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และ หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ พร้อมทีมนักพากย์มืออาชีพอีกมากมาย ซึ่งแต่ละคนต่างบอกว่าตื่นเต้นและดีใจที่ได้ร่วมงานกับภาพยนตร์แอนิเมชันอันเป็นที่รักของคนทั่วโลก ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ ก่อนฉายจริงวันที่ 27 พฤศจิกายนในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

สำหรับ เจเจ กฤษณภูมิ ที่ประเดิมงานภาคเสียงแอนิเมชันฟอร์มยักษ์กับ “Disney’s Zootopia 2 นครสัตว์มหาสนุก 2” เป็นครั้งแรก ถึงกับปิดความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ บอกว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจ และประทับใจกับการทำงานในครั้งนี้มาก “ผมเป็นแฟน Zootopia อยู่แล้วตั้งแต่ภาคแรก จำได้ว่าตอนนั้นได้ไปดูในโรงภาพยนตร์ด้วย เป็นหนังที่ดูสนุกและตลกมาก ผมชอบการสร้างโลกของสัตว์ที่ดูสร้างสรรค์และครีเอทีฟมาก ยิ่งพอมาเป็น Zootopia 2 ยิ่งน่าตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เพราะจะเผยให้เห็นนครสัตว์ที่ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ได้เห็นมุมของเมืองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องตื่นตาตื่นใจกว่าเดิม ส่วนตัวละครที่ผมพากย์จะเป็นตัวไหน บอกได้แค่ว่าเป็นคาแรกเตอร์ที่มีความฮา สร้างสีสันให้กับแต่ละซีนที่เขาออกมาได้ดีมาก ๆ อยากให้ลองไปหากันดูครับว่าผมพากย์เป็นใคร และไปให้กำลังใจกับงานพากย์เสียงแอนิเมชันดิสนีย์ครั้งแรกของผมด้วย 27 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศครับ”

ด้านสาวเสียงดี ส้ม มารี แฟนตัวยงของดิสนีย์ ก็เป็นอีกคนที่ได้พากย์เสียงภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าการได้ร่วมงานครั้งนี้เติมเต็มความฝันของเธอให้เป็นจริง “เราโตมากับดิสนีย์ และตั้งแต่ทำงานเข้าวงการมาก็มีความฝันว่าอยากจะพากย์เสียงกับดิสนีย์มาก ๆ จนวันนี้พอได้มาพากย์เสียงใน Zootopia 2 รู้สึกเลยว่าฝันเป็นจริงแล้ว สำหรับส้ม Zootopia เป็นแอนิเมชันที่เหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย สามารถดูได้สนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และสิ่งที่ทำให้ชอบ Zootopia มาก ๆ คือความสมจริงของคาแรกเตอร์สัตว์ ซึ่งใน Zootopia 2 จะยิ่งเห็นชัดขึ้น เพราะจะเผยมุมใหม่ ๆ ของเมืองนี้มากขึ้น อย่างโลกใต้น้ำ และโลกสัตว์เลื้อยคลาน รวมถึงสปีชี่ส์ของสัตว์ก็มากขึ้นด้วย รอดูเลยค่ะว่าดิสนีย์จะสร้างสรรค์ออกมาเป็นอย่างไร ส่วนตัวละครที่ส้มพากย์เสียง บอกได้แค่ว่าเป็นตัวละครใหม่ที่มีความตัวเล็กตัวน้อย ขี้อ้อน แต่ก็แสบอยู่ในที วันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ไปดูกันนะคะว่าส้มพากย์เป็นตัวละครตัวไหนใน Zootopia 2”

ส่วน ธามไท อีกหนึ่งนักพากย์ที่ได้ร่วมงานกับดิสนีย์เป็นครั้งแรก เผยว่า รู้สึกภูมิใจมากที่มีโอกาสได้ร่วมพากย์เสียงภาษาไทยใน “Disney’s Zootopia 2 นครสัตว์มหาสนุก 2” เพราะเป็นภาพยนตร์แอนิชันที่ทั่วโลกรอคอยที่จะได้ชม และเขาเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ตั้งตารอเช่นกัน “ผมว่าเรื่องราวของ Zootopia เป็นอะไรที่เชื่อมโยงกับชีวิตของผู้คนได้ เพราะเป็นเมืองที่มีประชากรแตกต่างหลากหลาย แต่ละคนก็มีอาชีพ มีการใช้ชีวิตที่ต่างกัน และด้วยงานภาพที่มีความน่ารัก สีสันที่ลงตัว เลยทำให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ ซึ่งพอมาถึง Zootopia 2 ยิ่งน่าดูมากขึ้น เพราะเนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้น มีเรื่องราวใหม่ ๆ ที่ชวนลุ้น โดยเฉพาะการปรากฏตัวของเจ้างูแกรี หรือ Gary De’Snake ตัวละครใหม่ที่เด่นมาก ๆ แอบรู้มาว่าสร้างความป่วนให้กับ Zootopia ไม่น้อยเลย น่าติดตามมากครับว่าเขาจะมาดีหรือมาร้าย และจะสร้างเรื่องอะไรให้จูดี้กับนิคต้องปวดหัวบ้าง และที่อยากให้ติดตามอีกอย่างคือ ภาคนี้มีผมร่วมพากย์เสียงภาษาไทยด้วย เป็นตัวละครที่ท้าทายมาก เพราะค่อนข้างต่างจากตัวเอง ทั้งเสียงและรูปร่าง ส่วนจะเป็นตัวไหน ต้องไปดูกันในโรงภาพยนตร์ครับ ฉายจริง 27 พฤศจิกายนนี้แล้ว อย่าพลาดนะครับ”

แม้จะเคยผ่านงานพากย์เสียงกับดิสนีย์มาแล้วใน Maleficent แต่ หญิง รฐา ก็ยังอดตื่นเต้นกับการทำงานครั้งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นการพากย์เสียงแอนิเมชันครั้งแรกของเธอ โดยหญิงเผยว่า “Zootopia ภาคแรกทำไว้ได้ดีมาก ครองใจผู้คนไปทั่วโลก จนกวาดรายได้รวมไปกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐ พอได้มาร่วมพากย์เสียงใน Zootopia 2 เลยเป็นอะไรที่ตื่นเต้นในการได้ร่วมงานกับภาพยนตร์แอนิเมชันระดับโลก ซึ่งนอกจากความสนุก หญิงมองว่า Zootopia ยังสะท้อนภาพสังคมจริงในยุคนี้ ผ่านโลกของสัตว์ได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการยอมรับความแตกต่าง เพราะรวมตัวละครสัตว์หลากหลายประเภท หลากหลายสายพันธุ์ไว้ด้วยกัน ซึ่งใน Zootopia 2 น่าจะเห็นชัดขึ้น เพราะจะมีสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เพิ่มเข้ามา หญิงว่าสำหรับใครหลายคน การไปดู Zootopia 2 อาจจะเป็นกระจกสะท้อนให้เราเห็นตัวเองผ่านตัวละครในเรื่องได้ ส่วนใครที่อยากรู้ว่าหญิงพากย์เป็นตัวละครไหน บอกได้แค่ว่าเรามันสายตัวร้ายอยู่แล้ว แต่จะเป็นใครต้องไปดูในโรงภาพยนตร์ 27 พฤศจิกายนนี้ค่ะ”

เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ แก้ม วิชญาณี ก็ดีใจมากที่ได้หวนมาร่วมงานกับดิสนีย์อีกครั้งในการพากย์เสียงเป็นหนึ่งในตัวละครของ Zootopia 2 “ตอนทีมงานติดต่อมาบอกว่าได้ร่วมพากย์ Zootopia 2 ดีใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์ที่เรารักและเปิดดูหลายรอบมากตั้งแต่ 9 ปีที่แล้ว แก้มว่าส่วนหนึ่งที่ Zootopia ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการเปิดประตูสู่โลกของสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้มีให้เห็นบ่อย ๆ และยังเป็นหนังที่ให้แง่คิด อย่างตัวละครจูดี้ ที่มีความฝัน มีความตั้งใจ ทำจนสำเร็จ เลยเป็นพลังบวกให้คนดูมีแรงพลังในการลงมือทำในสิ่งที่อยากทำ นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งซึ่งทำให้ Zootopia เป็นแอนิเมชันที่ทุกคน ทุกครอบครัวสามารถดูได้ และใน Zootopia 2 ก็ยังคงสาระสำคัญจุดนี้เอาไว้ ภายใต้ความสนุก ความฮา เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการได้ลุ้นกับคดีใหม่ เคสใหม่ ๆ ที่อันตรายขึ้น และตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม อยากให้ไปลุ้นกันค่ะว่าจูดี้กับนิคจะช่วยเมืองไว้ได้ไหม และอีกอย่างที่จะต้องประทับใจคือเพลงประกอบ เพราะภาคนี้ได้นักแต่งเพลงรางวัลออสการ์ที่ฝากผลงานไว้ในแอนิเมชันดัง ๆ มาแล้วมากมาย เป็นคนแต่งเพลงประกอบให้ เชื่อว่าถ้าได้ไปดูในโรงภาพยนตร์ เพลงในเรื่องจะทำให้หลายคนอินมากขึ้นแน่นอน สุดท้ายอย่าลืมไปตามหากันว่าแก้มพากย์เสียงเป็นตัวละครตัวไหนใน Zootopia 2 เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 27 พฤศจิกายนนี้ ไปดูกันนะคะ”

หนุ่มเสียงดี โดม จารุวัฒน์ ก็บอกว่า ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้มีส่วนร่วมในการพากย์เสียงแอนิเมชันในดวงใจ โดยสิ่งที่ทำให้เขารักภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้มากคือการสร้างสรรค์ตัวละคร ที่ชูคาแรกเตอร์ของสัตว์แต่ละชนิดได้ดี “ผมรู้สึกว่าตัวละครทุกตัวใน Zootopia ถูกสร้างขึ้นมาอย่างใส่ใจ หยิบเอาลักษณะของสัตว์ต่าง ๆ มาใส่เป็นคาแรกเตอร์ แล้วหามุมตลกที่สื่อให้เห็นภาพของสัตว์นั้น ๆ จริง ๆ ทำให้แต่ละตัวละครมีความสมจริงจนคนดูหลงรัก และหลายตัวก็กลายเป็นตัวละคนโปรดของใครหลายคน อย่าผมเองชอบ Flash the Sloth มาก ๆ เป็นตัวละครที่ยังคงจดจำได้เสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ซึ่งได้ข่าวว่าเขากลับมาในภาคนี้ด้วย พร้อมกับตัวละครเดิมที่เราเคยหลงรัก และยังสมทบด้วยตัวละครใหม่อีกหลายตัวเลย งานนี้ต้องไปดูกันครับว่าจะมีตัวละครไหนที่แย่งซีนจนเข้ามาอยู่ในใจเราได้อีกบ้าง ส่วนประสบการณ์การทำงานพากย์เสียงครั้งนี้ ผมว่าตัวละครที่ผมพากย์มีความท้าทายสุด ๆ เพราะเป็นตัวละครที่มีความแตกต่างจากคาแรกเตอร์ของผมพอสมควร ถ้าอยากรู้ว่าเป็นคาแรกเตอร์ไหน สัตว์ชนิดใด ต้องรอไปดูใน Zootopia 2 เข้าฉายวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ครับ”

สุดท้าย พี่หนุ่ม สันติสุข แอบสปอยล์ถึง “Disney’s Zootopia 2 นครสัตว์มหาสนุก 2” ว่า “ใน Zootopia 2 จะมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้น เช่น ฉากใหม่ ตัวละครใหม่ ต้องไปติดตามกันครับ รับรองว่าสิ่งใหม่ ๆ ที่จะได้เห็นกันในภาคนี้จะยิ่งทำให้นครสัตว์แห่งนี้มีความน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น โดยเนื้อเรื่องหลักยังคงเล่าถึงการเติบโตของตัวละคร ซึ่งมีความสมจริง สะท้อนภาพของความสัมพันธ์ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน แฟน ๆ ของจูดี้และนิคจะได้เห็นการเติบโตของสองตัวละครที่รักในอีกสเต็ปหนึ่งของชีวิตพวกเขา จากเดิมทีในภาคก่อนเป็น ‘ตำรวจ’ กับ ‘นักต้มตุ๋น’ ที่จับพลัดจับผลูกลายมาเป็น ‘คู่หูจำเป็น’ ในการสืบคดี แต่มาภาคนี้พวกเขาต้องจับมือเป็น ‘คู่หูตำรวจ’ เพื่อร่วมกันไขคดีจริง ๆ ซึ่งมีความท้าทายทั้งในเรื่องของหน้าที่การงาน และความสัมพันธ์ เรียกว่าเรื่องราวเข้มข้นทีเดียว แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความตลก ความสนุก ตามแบบฉบับ Zootopia ที่เหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าใครก็ดูได้สนุก 27 พฤศจิกายนนี้ Zootopia 2 เข้าฉายแล้ว อย่าพลาด พาครอบครัว พาเพื่อน พาคนที่รักไปสนุกด้วยกันครับ”

ทั้งนี้เรื่องราวของ “Disney’s Zootopia 2 นครสัตว์มหาสนุก 2” จะพาไปพบกับภารกิจใหม่ของ Judy Hopps และ Nick Wilde สองตำรวจหน้าใหม่ ที่หลังจากไขคดีใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Zootopia ได้สำเร็จ ก็ต้องพบว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มั่นคงอย่างที่คิด เมื่อ Chief Bogo สั่งให้ทั้งคู่เข้าร่วมโปรแกรมปรึกษาคู่หูตำรวจ “Partners in Crisis” ก่อนที่ความเป็นคู่หูของพวกเขาจะถูกทดสอบด้วยปริศนาใหม่ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน และเกี่ยวพันกับการมาถึงของงูพิษตัวหนึ่งในมหานครสัตว์ โดยภาคนี้ยกขบวนเหล่าตัวละครจากภาคแรกกลับมาอีกครั้ง ทั้ง Gazelle, Bonnie Hopps, Stu Hopps, Clawhauser, Bellwether, Duke Weaselton, Mr. Big, Fru Fru, Frantic Pig, Yax, Officer McHorn, Flash ร่วมด้วยตัวละครใหม่ที่จะมาเติมความสนุกให้มากขึ้น อาทิ Gary De’Snake, Nibbles และ Dr. Fuzzby นักบำบัดสายพันธุ์ควอกก้า 

27 พฤศจิกายนนี้ เตรียมตะลุยมหานครสัตว์รอบใหม่ใน “Disney’s Zootopia 2 นครสัตว์มหาสนุก 2” การันตีโดยทีมผู้สร้างจากภาคแรกที่เคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้ว ไม่อยากพลาดความสนุก ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ ก่อนไปผจญภัยในดินแดนแห่งสรรพสัตว์ด้วยกันในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

โซเชียลมีเดีย:
X: @DisneyStudiosTH
Instagram: @disneystudiosth
Facebook: @WaltDisneyStudiosTH
Youtube: @waltdisneystudiosth
Hashtag: #Zootopia2TH #นครสัตว์มหาสนุก2

เฮลั่น! “หนุ่ม กรรชัย” นำทีมช่อง 3 กวาด 6 รางวัล HOWEAWARDS2025 “หลิง-ออม” สุดปังคว้า THE BEST COUPLE ไปครอง!

ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับงานประกาศรางวัล HOWEAWARDS2025 เวทีแห่งเกียรติยศที่จัดโดย HOWE Magazine เพื่อมอบรางวัลแด่บุคคลและองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นและสร้างสรรค์ ทั้งในวงการบันเทิงและธุรกิจของประเทศไทย งานนี้ทำเอาเฮลั่นช่อง 3 เมื่อเหล่านักแสดงและพิธีกรชื่อดังร่วมกันคว้ารางวัลสุดยิ่งใหญ่ไปถึง 6 รางวัล

ขอแสดงความยินดีกับเหล่านักแสดงนิวเจนออร่าสุดปังของทางช่อง 3 กวาดรางวัล HOWE RISING ICON AWARD 2025 ไปถึง 3 รางวัล ได้แก่ พระเอกดาวรุ่ง “ไมกี้ ปณิธาน” พร้อมด้วยสาวหวานรอยยิ้มละมุน “พีพี ปุญญ์ปรีดี” และสาวสุดคูล “เอนจอย ธิดารัตน์”

ทางด้านละครดราม่าสุดเข้มเข้นแห่งปี “สายรักสายเลือด” ได้คว้ารางวัล HOWE HOTTEST DRAMA AWARD 2025 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี ขณะที่ “หนุ่ม กรรชัย” ผู้ประกาศข่าวจากรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ และพิธีกรรายการโหนกระแส คว้ารางวัล HOWE POPULAR MC AWARD 2025 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับบุคคลที่มีความสามารถด้านการพูดและเป็นที่ยอมรับของประชาชน

ปิดท้ายด้วยที่สุดของรางวัลแห่งปี HOWE THE BEST COUPLE AWARD 2025 จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก 2 สาวสวย “หลิงหลิง คอง – ออม กรณ์นภัส” ที่สร้างปรากฏการณ์ความฮอตไม่หยุดฉุดไม่อยู่แล้วจริง ๆ พร้อมฝากคำขอบคุณสำหรับรางวัลในครั้งนี้ “ขอขอบคุณสำหรับรางวัล HOWE THE BEST COUPLE AWARD สำหรับพี่หลิงและก็น้องออมด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตเราค่ะ”

“สวนไทย พัทยา” เปิดบ้านต้อนรับ Miss Universe 2025 จาก 120 ประเทศโชว์วัฒนธรรมไทยสุดยิ่งใหญ่ สู่สายตาชาวโลก

“สวนไทย พัทยา” สร้างความประทับใจให้ผู้เข้าประกวด Miss Universe 2025 ด้วยการจัดงานต้อนรับอย่างสมเกียรตินางงาม Miss Universe ผ่านขบวนรำไทย การแสดงช้างไทย และศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านสุดตระการตา ตอกย้ำเสน่ห์ความเป็นไทยบนเวทีนางงามระดับโลก

โดยเหล่าสาวงามเดินทางจากจังหวัดภูเก็ต เข้าพักที่ Pattaya Marriot Resort & Spa จ.ชลบุรี จากนั้นเดินทางไป “สวนไทย พัทยา” ร่วมงานต้อนรับผู้เข้าประกวด Miss Universe 2025 จาก 120 ประเทศทั่วโลก อย่างยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี ภายใต้บรรยากาศแห่งความงดงามแบบไทย โดยมี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และ คุณชากร พันนุช ประธานกรรมการบริหารสวนไทย พัทยา ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยเมนูอาหารไทย และขนมไทยหลากหลายชนิด

งานนี้ “สวนไทย พัทยา” ได้จัดการแสดงวัฒนธรรมไทยสุดอลังการ อาทิ ขบวนรำไทย การแสดงช้างแสนรู้ การสาธิตศิลปะหัตถกรรมพื้นบ้าน และการนำเสนออาหารไทยรสเลิศ เพื่อให้สาวงามจากทั่วโลกได้สัมผัสเสน่ห์ความเป็นไทยอย่างใกล้ชิด บรรดาผู้เข้าประกวดต่างประทับใจในความอ่อนช้อยของศิลปะการแสดง และความอบอุ่นของการต้อนรับแบบไทย พร้อมร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ท่ามกลางบรรยากาศแห่งรอยยิ้มและมิตรภาพ

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะ “ดินแดนแห่งรอยยิ้ม” และจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับนานาชาติอย่างแท้จริง

แฟนนางงามและผู้สนใจร่วมชมการประกวด Miss Universe 2025 ครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทย ในรอบ ชุดประจำชาติ (National Costume) รอบ Preliminary Show และรอบตัดสิน (Final) ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ซื้อบัตรเข้าชมได้แล้ววันนี้ที่ https://grandticket.net

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ Miss Universe ครั้งที่ 74 ได้ที่
📍 Facebook / Instagram / TikTok: The 74th Miss Universe – Thailand
YouTube Channel: Grand TV
แฮชแท็กอย่างเป็นทางการ: #The74thMissUniverse #MissUniverse #ThePowerOfThailand

“ตู่ ปิยวดี” นำทีมช่อง 3 เปิดมหกรรมอาหารสุดยิ่งใหญ่ “แจ๋วแซ่บเฟ่อร์” “โดม – ยิหวา” เสริมทัพชวนสายกินมาฟินร้านเด็ดส่งท้ายปี ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า!

ช่อง 3 มอบความสุขส่งท้ายปี 2568 ด้วยมหกรรมอาหารสุดยิ่งใหญ่ “แจ๋วแซ่บเฟ่อร์” ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเสิร์ฟความอร่อยที่ได้รับการคัดสรรมาแล้วจากทั่วไทย การันตีโดย 3 รายการดัง ผู้หญิงยกกำลังแจ๋ว, แซ่บพาซ่าส์ และ ช่องยูทูปมาวินฟินเฟ่อร์ พร้อมเปิดตลาดอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ณ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า นำทีมโดย ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์ ผู้บริหารช่อง 3 แท็กทีมพิธีกรรายการดัง 3 รายการอย่าง ผู้หญิงยกกำลังแจ๋ว นำโดย ปอ ปุณยวีร์, แพท ณปภา, บูม สุภาพร เสริมทัพด้วยพิธีกรสายแซ่บ น้ำฝน พัชรินทร์, ป๊อปปี้ รัชพงศ์, บุช เลอชาญ, แพม ปาเมล่า จากรายการ แซ่บพาซ่าส์ และตัวพ่อสายกิน มาวิน ทวีผล จาก ยูทูปมาวินฟินเฟ่อร์ พร้อมด้วยพระเอกหล่ออมตะ โดม-ปกรณ์ ลัม และ นางเอกเจ้าน้ำตา ยิหวา ปรียากานต์ คู่พระนางสุดฮอตจากละคร “น้ำผึ้งขม”

“ตู่ ปิยวดี” กล่าวถึงการจัดงานแจ๋วแซ่บเฟ่อร์ในครั้งนี้ว่า “สำหรับแจ๋วแซ่บเฟ่อร์ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้วนะคะ ที่เราจัดได้ถึงครั้งที่ 5 ก็เพราะว่ามีแฟน ๆ เรียกร้องมาและเราก็พร้อมจะจัดงานแบบนี้ในปีหน้าด้วยนะคะไม่ใช่แค่ปีนี้ ก็อยากให้แฟน ๆ ให้การตอบรับเราแบบนี้ตลอดไปค่ะ”

แค่เปิดตลาดวันแรก ชาวปิ่นเกล้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ต้อนรับ “แจ๋วแซ่บเฟ่อร์” อย่างครึกครื้น
เนืองแน่นทุกร้าน แถมยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าตลาดแจ๋วแซ่บเฟ่อร์อาหารอร่อยและคุณภาพดีจริง ๆ ขณะที่กิจกรรมบนเวทีก็เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นไม่แพ้กันกับ คู่โดม-ยิหวา ซึ่งมาร่วมพูดคุยและเดินชิมช้อป
จัดเต็มทุกร้านค้ากันเลยทีเดียว!

            งาน “แจ๋วแซ่บเฟ่อร์” พร้อมเสิร์ฟความอร่อยและความบันเทิงจากเหล่านักแสดงช่อง 3 ต่อเนื่อง 7 วันเต็ม เรียกได้ว่ามางานนี้งานเดียวนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีความสุขไปกับทัพนักแสดงช่อง 3 อย่างแน่นอน! รวมสายกินมาฟินร้านเด็ดตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ณ  ชั้น G เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ห้ามพลาดเด็ดขาด!

สคส. ปลุกเยาวชนยุคโซเชียล “ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เริ่มต้นได้จากตัวเรา” ผ่านเวที PDPC SCHOOL TOUR โรงเรียนเซนต์คาเบรียล

ในยุคที่เด็กมัธยมใช้โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เดินหน้าโรดโชว์ “PDPC SCHOOL TOUR” ต่อเนื่องจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง สู่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ชูเวทีบรรยายหัวข้อ “ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เริ่มต้นได้จากตัวเรา การใช้โซเชียลให้ปลอดภัย” ชวนเยาวชน ม.ปลาย มองโลกออนไลน์ด้วยมุมใหม่ เห็นคุณค่าของข้อมูลส่วนบุคคล และรู้เท่าทันความเสี่ยงบนโซเชียลที่อยู่ใกล้ตัว

ผลสำรวจการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของเด็กและเยาวชนไทยปี 2567 ระบุว่า เด็กและเยาวชนอายุ 6–24 ปี ใช้อินเทอร์เน็ตแล้วถึงร้อยละ 98.2 สะท้อนว่าการออนไลน์แทบกลายเป็นสภาพแวดล้อมของคนรุ่นใหม่ ขณะที่รายงานด้านสุขภาพและพฤติกรรมดิจิทัล ชี้ว่ากลุ่มวัยเรียนและเยาวชนเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ใช้เวลาอยู่หน้าจอสูงที่สุด ทุกการโพสต์ แชร์ คอมเมนต์ จึงไม่ใช่แค่กิจกรรมฆ่าเวลา แต่เป็นการทิ้ง “ข้อมูลส่วนบุคคล” ไว้บนหน้าจอ

ท่ามกลางบริบทดังกล่าว สคส. จึงออกแบบโครงการ “PDPC SCHOOL TOUR” ให้เป็นเวทีสำหรับโรงเรียนมัธยม เพื่อพูดคุยกับเยาวชนถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง และความรับผิดชอบต่อข้อมูลของผู้อื่น โดยโครงการในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ “โรงเรียนเซนต์คาเบรียล” ซึ่งมีนักเรียนจำนวนมากที่โตมาพร้อมกับโลกโซเชียลในทุกมิติ ทั้งการเรียน การเล่นเกม การติดตามคอนเทนต์ ไปจนถึงการสร้างตัวตนและเครือข่ายเพื่อนฝูง

พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวในช่วงบรรยายเพื่อชวนให้นักเรียน ม.ปลาย มองโลกออนไลน์ในมุมใหม่ว่า “ทุกครั้งที่เราโพสต์รูปเพื่อน แคปหน้าจอแชต แชร์ลิงก์ หรือกรอกข้อมูลต่าง ๆ เรากำลัง ‘เปิดเผย’ ข้อมูลบางอย่างของตัวเองและผู้อื่นเสมอ ข้อมูลนั้นมีตั้งแต่ชื่อ-นามสกุล ใบหน้า เสียง คลิปวิดีโอ ไปจนถึงประวัติการติดต่อ ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่อาจถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ได้ หากตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี”

อีกทั้งกิจกรรม PDPC SCHOOL TOUR ยังมีการให้ความรู้เชิงกฎหมายเรื่อง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA โดยเน้นให้เด็กเข้าใจ “สิทธิ” ที่ตนเองมีในการปกป้องข้อมูล และ “หน้าที่” ที่ต้องไม่ละเมิดสิทธิข้อมูลของเพื่อนหรือผู้อื่น พร้อมยกตัวอย่างกรณีข้อมูลรั่วไหลจากการใช้โซเชียลในชีวิตประจำวันของเยาวชน เพื่อให้นักเรียนเห็นภาพผลกระทบจริง รวมถึงมีกิจกรรมจากทีมวิทยากรของ สคส. และมาสคอต “น้องซีโร่” มาร่วมเป็นสื่อกลางช่วยอธิบายให้เห็นภาพว่าการดูแลข้อมูลของตัวเองเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถลงมือทำทันทีในชีวิตประจำวัน

อีกด้านหนึ่ง ภัยออนไลน์ที่เยาวชนเผชิญอยู่ก็เริ่มชัดเจนขึ้น จากผลสำรวจด้านภัยออนไลน์ล่าสุดในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทย พบว่า เด็กถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ สูงถึงร้อยละ 55.3 เล่นพนันออนไลน์ร้อยละ 43.6 และถูกล่อลวงทางเพศผ่านสื่อออนไลน์ร้อยละ 12 สะท้อนว่า ช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างการ “เล่นโซเชียลเพื่อความบันเทิง” กับการ “กลายเป็นเหยื่อออนไลน์” สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน หากขาดความรู้เท่าทัน

พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ กล่าวสรุปว่า เยาวชนคือกลุ่มแรก ๆ ที่อยู่หน้าด่านของการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี และเป็นกลุ่มที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ แต่หลายครั้งกลับมองข้ามเรื่อง “สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล” โครงการนี้จึงมุ่งหมายให้เด็ก ๆ เข้าใจว่า ข้อมูลของตัวเองมีคุณค่าและควรได้รับการปกป้อง ไม่ว่าจะเป็นในห้องเรียน กลุ่มเพื่อน หรือบนแพลตฟอร์มโซเชียลใด ๆ ควบคู่ไปกับการสร้างวัฒนธรรมที่เคารพข้อมูลของผู้อื่น เพื่อให้สังคมไทยพัฒนาสู่การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างรอบคอบ ปลอดภัย และมีความรับผิดชอบมากขึ้นในระยะยาว

ทั้งนี้ สคส. เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ “เด็ก เยาวชน ครู และผู้ปกครอง” ที่ต้องร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันด้านข้อมูลส่วนบุคคลในทุกมิติ ตั้งแต่การรู้เท่าทันภัยบนโลกออนไลน์ การใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ ไปจนถึงการปลูกฝังวัฒนธรรมการเคารพสิทธิข้อมูลของผู้อื่น เพื่อให้สังคมไทยก้าวสู่การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยและยั่งยืน

สามารถติดตามความรู้ ข่าวสาร และคำแนะนำเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ทาง www.pdpc.or.th  , Facebook : สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล – สคส  หรือโทรศัพท์ 02 1118800

TRT โชว์งบ Q3/68 กำไร 85.12 ล้านบาท เดินหน้าลดต้นทุนทางการเงินครึ่งหนึ่ง รับดีมานด์หม้อแปลงฟื้น

บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่ 85.12 ล้านบาท แม้รายได้จากการขายลดลงตามสภาพตลาดในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่บริษัทสามารถ รักษากำไรขั้นต้นและสภาพคล่องได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมปรับกลยุทธ์รับมือการชะลอตัวของคำสั่งซื้อในประเทศ และเดินหน้าขยายฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มทั้งในและต่างประเทศ

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2568 ว่า ไตรมาสนี้ TRT และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายรวม 1,332.48 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหลักจากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้ากว่า 89% โดยรายได้ลดลงราว 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเลื่อนการจัดซื้อจากภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ดี บริษัทสามารถ บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนจากอัตรากำไรขั้นต้นรวมยังอยู่ในระดับใกล้เคียงปีก่อนที่ราว 22%

ในส่วนของรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 125.92 ล้านบาท แม้จะลดลงเล็กน้อย แต่บริษัทเดินหน้าขยายบริการบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าให้ครบวงจร เพื่อสร้างรายได้ประจำ (recurring income) เสริมความมั่นคงระยะยาว

ที่สำคัญ บริษัทยังสามารถ ลดต้นทุนทางการเงินได้เกือบครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 36.64 ล้านบาท จาก 69.85 ล้านบาทในปีก่อนหน้า หลังบริหารสภาพคล่องได้ดี ชำระคืนหนี้ระยะสั้นเพื่อลดภาระดอกเบี้ย สะท้อนศักยภาพการบริหารทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ขณะเดียวกัน บริษัทไม่มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของงานในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) อีกต่อไป หลังจากได้รับชำระหนี้ครบถ้วนจากลูกหนี้โครงการดังกล่าวในไตรมาสนี้ ช่วยหนุนผลประกอบการให้กลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า “แม้สภาวะตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศจะชะลอตัวชั่วคราวจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่โดยรวมตลาดยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้รายได้ของ TRT ฟื้นตัวอย่างแข็งแรงในช่วงต่อไป”

ทั้งนี้ ถิรไทยยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีหม้อแปลงประสิทธิภาพสูง และมุ่งเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการสูงในอุตสาหกรรมพลังงาน เพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน

ญาญ่าเผยโมเมนต์ Unbox แว่น BOLON Fall/Winter 25 Collection ลงตัวทุกลุค

แถมล่าสุด ญาญ่าได้อัปคลิป Unboxing คอลเล็กชั่น Fall/Winter 25 ของ BOLON ลงใน Instagram ส่วนตัว
เผยลุคลองแว่นหลากหลายทรงจนแฟนๆ ต่างชื่นชมว่าญาญ่าสามารถใส่ได้ทุกสไตล์ และทำให้เห็นว่า การเลือกแว่น
ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบเดิมเสมอไป ตรงกับคอนเซ็ปต์ของ BOLON Fall/Winter 25 Collection ในแคมเปญ Beyond The Horizon ที่ชวนให้ทุกคนลองก้าวข้ามขอบเขตเดิมๆ แล้วมาเปิดโลกในมุมมองใหม่ เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าแว่นตาทรงไหนก็เข้ากับเราได้ขอเพียงความมั่นใจและสนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมชในสไตล์ของตัวเอง
BOLON Fall/Winter 25 Collection ในแคมเปญ Beyond The Horizon มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ: ซื้อแว่นตา BOLON 1 ชิ้น (ทั้งแว่นสายตาหรือแว่นกันแดด) รับฟรีกระเป๋า Cross Body Bag 1 ใบ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ติดตามความเคลื่อนไหวของ BOLON ได้ทาง Website: https://th.boloneyewear.com
Instagram: https://www.instagram.com/boloneyewearth/
Facebook: https://www.facebook.com/BolonEyewearTH

เปิ้ล นาคร & จูน กษมา พร้อมเล่าประสบการณ์ถูก เปิ้ล บอกเลิกทำให้ขาดสติถึงขั้นคิดโดดตึก! ปัญหาเรื่องมือที่ 3 ไม่เคยเกิดขึ้นกับบ้านนี้… เพราะ “จับไม่ได้” หรือ “ไม่เคยคิดนอกใจ”

เมื่อ เปิ้ล นาคร & จูน กษมา มารายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 เผยเป็นคนที่เคยรู้สึกขาดความอบอุ่นในครอบครัวได้มาสร้างครอบครัวด้วยกัน…”เพิ่งได้รู้ว่าการมีครอบครัวมันดีแบบนี้เองเหรอ…” พร้อมเล่าประสบการณ์ถูก เปิ้ล บอกเลิกทำให้ขาดสติถึงขั้นคิดโดดตึก! “เปิ้ล นาคร & จูน กษมา” เผยเคล็ดลับทะเลาะกันแทบตาย แต่สุดท้ายลูก 4 !?  โควิดทำพิษ! สามีใช้เงินหมด ทะเลาะหนักจนเกือบเลิกกัน!! ทั้งคู่จับมือกันผ่านวิกฤตครอบครัวครั้งนั้นมาได้อย่างไร ปัญหาเรื่องมือที่ 3 ไม่เคยเกิดขึ้นกับบ้านนี้… เพราะ “จับไม่ได้” หรือ “ไม่เคยคิดนอกใจ” มาฟังจากปากพ่อบ้านใจกล้าได้ในรายการ Club Friday Show

ถาม ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวตั้งแต่ 14 ต้องเจอกับอะไรบ้าง

เปิ้ล นาคร : ทุกทุกอย่างขโมยจักรยาน ขโมยสายไฟ โดนยิง ตีรันฟันแทงทุกอย่างที่วัยรุ่นเขาอยากทำผมทำหมดเลย

จูน กษมา : เป๋ไปแล้ว แต่กลับมาได้ จูนก็อยู่เองมาตั้งแต่ 2 ขวบเหมือนกันอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่ตอนนั้นจนเข้ามหาวิทยาลัยเรากลายเป็นว่าเราไม่สนิทกับพ่อกับแม่ นั่นแหละ !! คืออย่างหนึ่งที่พอเรามีลูกเราขาดเหรอ

เปิ้ล นาคร : เราอยากรู้ว่าเวลา พ่อแม่ลูก อยู่กันพร้อมหน้าแล้วเป็นยังไงนะ พอเรามีลูกตอนนี้ 15 ปีแล้ว พ่อแม่อยู่ด้วยกันแล้วลูกอยู่ด้วย แล้วเล่นกัน หัวเราะกัน กินข้าวด้วยกันมันดีอย่างนี้เหรอ

ถาม ใช้เวลาดูใจกันถึง 7 ปี

จูน กษมา : คือตอนนั้น จูน ไม่มีเรื่องในหัวไม่มีเรื่องแต่งงาน ไม่มีเรื่องมีลูกเลยเป็นเด็กอยู่ไปวันๆอยู่ไปเรื่อย เขาเป็นคนจูงทุกเรื่องเลยตอนนั้นเหมือนเขาเป็นพ่อเราเลย

เปิ้ล นาคร : เราก็บอกว่าไม่ไหวแล้วนะจูนนี่ปีที่ 7 แล้วนะ ถ้าจูนเรียนไม่จบเราเลิกกันนะ พอเราบอกว่าเลิกเขาเสียใจกระโดดตึกเลย

ถาม ตอนนั้นกระโดดเรียกร้องความสนใจหรือว่าเอาตายเลย

จูน กษมา : เอาตายเลย

ถาม เป็นคู่ที่มีความต่างแต่ทะเลาะกันน้อยมาก

จูน กษมา : คือเวลาจูนแหกปาก จูน แหกปากคนเดียวเขาหูทวนลม เขาหูดับมากเขาไม่โต้ตอบ ไม่พูด ไม่เถียงไม่อะไรเลย ต่อให้เราแว้ดๆเสร็จแล้วเราเงียบของเราเอง เราไปของเราเองแล้วเรากลับมายังไม่รู้เลยว่ากำลังแหกปากด่าอยู่แล้วเราเหนื่อยไง

เปิ้ล นาคร : ขับรถอยู่บ่นๆเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาทำไมขับเร็วจะรีบไปไหน ทำไมขับช้าเดี๋ยวก็ไปไม่ถึงแล้วเวลาเปิดไฟเลี้ยว เนี่ยเปิดไฟเลี้ยวทำไม ทำไมไม่ปิดไฟเลี้ยวอีกตั้งนานกว่าจะถึง เราก็อะไร

ถาม เขาเคยใจเย็นจนเราโมโหไหม

จูน กษมา : รำคาญมาก

ถาม ไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่โควิดทะเลาะกันหนัก

เปิ้ล นาคร : ตอนนั้นเครียดมากหลายคนบอกว่าพี่เปิ้ลต้อง Scale down อันไหนที่ไม่จำเป็นตัดทิ้งให้หมด พนักงานเป็นร้อยคนแล้วเราจะตัดเขาได้ยังไง

จูน กษมา : เริ่มเอาเงินในบ้านจนใกล้จะหมดไม่พอเริ่มไปยืมเงินคนอื่น เราก็บอกว่ามันไม่ใช่แล้ว มันผิดแล้ววิธี มันม่ถูกต้องแล้วก็เริ่มตีกัน

เปิ้ล นาคร : จูนก็พี่เปิ้ลพอได้หรือยัง ตอนนั้นนั่งร้องไห้กันอยู่สองคน

ถาม เป็นคู่ที่ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตาม แต่ปัญหาเรื่องมือที่สามไม่เคยเกิดกับบ้านนี้เลย

เปิ้ล นาคร : คืออาจจะเพราะว่าเราแต่งงานช้าแล้วเราอิ่มแล้ว เรารู้สึกว่ามันพอแล้ว ตอนนั้นแต่งประมาณ 40 กว่าผมนะ ผมรู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องมีใครอีกแล้ว ถ้าเราไปนั่งกุ๊กกิ๊กกับผู้หญิงที่ไหนตาย พี่เปิ้ลไม่เคยทำให้เขาระแวงเลย

ติดตามเรื่องราวความรักและชีวิตของ เปิ้ล นาคร และ จูน กษมาได้ในรายการ Club Friday Show

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 10.00 น. ทาง #ช่องวัน31 และรับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube : CHANGE2561