ไดกิ้น ร่วมสัมมนา Eco Synergy Seminar 2025เปิดตัวแนวคิด “เย็นสบายแบบไม่เปลืองพลังงาน” สู่เป้าหมาย Net Zero

นายคาสุฮิสะ ฮินาสึ กรรมการบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมบรรยายแนวคิด “เย็นสบายแบบไม่เปลืองพลังงาน” สู่เป้าหมาย Net Zero ในงานสัมมนา Eco Synergy Seminar 2025 หัวข้อ “Risks and Opportunities in ESG” ซึ่งจัดขึ้นโดย Sumitomo Mitsui Banking Corporation (SMBC) สาขากรุงเทพฯ ภายในงานมีผู้บริหารจากกลุ่มไดกิ้นเข้าร่วม ได้แก่ นายอะคิโนริ อะตาราชิ ประธานกรรมการ, นายซาโตชิ จูโจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด, นายอิทธิ ภู่วรวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และนายประยุทธ เถลิงนวชาติ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ที่ปรึกษาการขายงานโครงการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด โดยงานจัดขึ้น      ณ ห้อง Wanalai ชั้น 12 โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี เมื่อเร็วๆ นี้

“ควิกแสบ” ปล่อยหมัดเด็ด ส่งแคมเปญ “อร่อยเต็มคัพ แจกจริงคัพ” เขย่าตลาด!!! แจก iPhone 16 Pro และรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin รวมมูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท

“ควิกแสบ” ปล่อยหมัดเด็ดเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ส่งแคมเปญสุดฮอต “อร่อยเต็มคัพ แจกจริงคัพ” แจกหนักจัดเต็มกว่า 1.6 ล้านบาท ตลอดเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2568 งานนี้ไม่ใช่แค่ได้อร่อยแบบถึงเครื่องในทุกคำ แต่ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็น iPhone 16 Pro, AirPods 4 หรือรางวัลใหญ่สุดอลังอย่างรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin Standard Range ที่พร้อมเปลี่ยนทุกการกินบะหมี่ให้กลายเป็นโอกาสคว้าโชคใหญ่แบบไม่มีมากั๊ก

 นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์ “ควิกแสบ” เปิดเผยว่า “ครั้งนี้เราไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะควิกแสบต้องการยกระดับความสนุก  ในการบริโภคให้กลายเป็นประสบการณ์สุดเร้าใจ ตอบแทนผู้บริโภคที่รักในความแสบของเราอย่างแท้จริง  ด้วยรางวัลแบบ ‘แจกจริง จัดหนัก’ ไม่ว่าจะเป็น iPhone 16 Pro หรือรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ เพราะเราอยากให้ทุกคนไม่เพียงแค่ได้อร่อย แต่ยังมีโอกาสลุ้นโชคกลับบ้านไปด้วย”

สำหรับวิธีร่วมสนุกก็ง่ายแสนง่าย เพียงซื้อ ควิกแสบ “แบบคัพ” ทุกรสชาติ อาทิ กุ้งนึ่งมะนาว, หมูสับต้มยำ, ต้มยำพริกเผา, ต้มยำมันกุ้ง, ต้มโคล้ง และต้มยำกุ้ง  รสชาติในก็ได้ให้ครบ 6 ถ้วยในใบเสร็จเดียวกัน จากร้านค้าที่ร่วมรายการทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น 7-Eleven,      Big C, Lotus, Makro, CJ Express, Go Wholesale, Shopee หรือ Lazada จากนั้นลงทะเบียนรับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลได้ที่เว็บไซด์https://Quickzabbluckydrawcampaign.mcommerce.mobileconnect.co.th หรือผ่านทาง LINE Official Account: @Quickzabbofficial โดยกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมแนบภาพใบเสร็จหรือคำสั่งซื้อให้เรียบร้อย

กิจกรรมจะแบ่งการจับรางวัลเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกตั้งแต่วันที่ 1–30 กันยายน 2568 แจก iPhone 16 Pro จำนวน 10 รางวัล และ AirPods 4 Noiseless อีก 10 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 503,900 บาท ส่วนรอบที่สองตั้งแต่วันที่ 1–31 ตุลาคม 2568 แจกใหญ่ยิ่งกว่า กับรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin Standard Range จำนวน 1 คัน พร้อม iPhone 16 Pro อีก 10 รางวัล และ AirPods 4 อีก 10 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,102,900 บาท

นายยศสรัล กล่าวทิ้งท้ายว่า แคมเปญนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่กล้าท้าชนตลาด พร้อมเติมสีสันให้วงการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะควิกแสบไม่ใช่แค่แบรนด์ที่อร่อย แสบซ่า และทันสมัย แต่ยังแจกจริงแบบไม่กั๊ก ถึงเวลาหยิบควิกแสบแบบคัพขึ้นมาลิ้มรสความอร่อย แล้วลุ้นโชคไปด้วยกันทั่วประเทศ งานนี้ใครไม่ร่วมสนุก ถือว่าพลาด!

ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องเก็บใบเสร็จหรือหลักฐานคำสั่งซื้อไว้ใช้เป็นหลักฐานในการรับรางวัล และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดอย่างครบถ้วน หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดดังกล่าว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาให้ถือเป็นโมฆะ

สองยักษ์ใหญ่ “gamescom asia x Thailand Game Show” ผนึกกำลังเพื่อสร้างงานเกมระดับโลก ใจกลางกรุงเทพฯ

นายวินท์รดิศ กลศาสตร์เสนี ประธานฝ่ายดิจิทัลมีเดีย บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วย    นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชว์ ไร้ขีด จำกัด และ นายปรากาศ รามาจิลลู  ผู้จัดการทั่วไป เอเชียแปซิฟิก โคโลญเมสเซ่ ร่วมกันแถลงข่าวจัดงาน gamescom asia x Thailand Game Show” ภายใต้คอนเซ็ปต์ World of Gaming” เปิดหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของอุตสาหกรรมเกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ถึง 19 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับ เกมเมอร์ นักพัฒนา นักลงทุน จากทั่วโลก พร้อมเริ่มจำหน่ายบัตร 1 กันยายน 2568 นี้ ที่ zipevent

ติดตามความเคลื่อนไหวงาน “gamescom asia x Thailand Game Show” ได้ที่www.thailandgameshow.com  หรือ www.facebook.com/thailandgameshow

CEA to Launch “Content Project Market” Thailand’s Premier Content Marketplace for Film, Series, and Animation Connecting Thai Creator with Over 70 Local and International Investors to Elevate the Industry on a Global Stage 10 – 12 September 2025, True Digital Park (East), 6th – 7th Floors

The Creative Economy Agency (Public Organization), or CEA, is advancing its mission to bring Thailand’s content industry onto the global stage by hosting the second edition of the Content Project Market — a national platform for buying, selling, and pitching content projects. Held under the “Content Lab 2025” project, this event aims to spark business matching and showcase Thai content across international markets, reinforcing Thailand’s Soft Power strategy. The event will take place from 10 – 12 September 2025, at True Digital Park (East), 6th – 7th Floors.

Dr. Chakrit Pichyangkul, Executive Director of CEA, explained: “The Content Project Market is a national marketplace where Thai content creators — including filmmakers, screenwriters, and animators — can present their ideas, concepts, or in-development projects directly to production houses, content investors, distributors, and streaming platforms from both Thailand and abroad. More than 70 companies are expected to participate.”

The event will feature project pitching sessions, B2B business matching, and networking receptions, as well as industry forums led by Thai and international experts. These forum sessions will be open not only to content professionals but also to the general public interested in the Content & Media industry.

“CEA views the Content Project Market as more than just an event — it is a step toward building a comprehensive and sustainable ecosystem for Thai content creators,” Dr. Chakrit continued. “By connecting talent with funding and commercial platforms, we are opening doors for projects to progress into production while elevating the standard of Thai content to compete on the global stage. The event also reinforces Thailand’s image as a growing creative hub.”

CEA believes that Thai content offers value beyond entertainment. It inspires the audience, drives economic growth, and enhances the global perception of Thai identity.“Thai films and series have the power to attract international tourists and drive demand for Thai products and services featured in global content,” Dr. Chakrit noted. “This event not only boosts the visibility of content creators on the world stage, but also serves as a strategic driver for the long-term development of Thailand’s creative economy.”

The Content Project Market will run from 10 – 12 September 2025, at True Digital Park (East), 6th – 7th Floors. The event aims to strengthen Thailand’s Creative Content & Media industry to meet global market demands. A total of 54 creative teams will present their projects, including:

  • 34 teams from CEA’s Content Lab 2025 project, developed under the following programs:
    • Mid-Career: Project – For established creators developing content for international markets
    • Mid-Career: Story – For screenwriters developing commercially viable scripts
    • Mid-Career: Animation – For creators preparing Thai animations for production
  • In addition, 20 professional content teams were selected through an Open Call.

For more information about Content Lab 2025 and the Content Project Market, please visit the Content Lab Facebook page.

โฮมโปร – เมกาโฮม ร่วมแรงเคียงข้างคนไทยทุกสถานการณ์ สานต่อภารกิจ “ห่วงใย ร่วมใจฟื้นฟูบ้าน” ส่งทีม “ช่างโฮมโปร” ซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบไฟฟ้า ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ

โฮมโปร และ เมกาโฮม สานต่อภารกิจส่งความห่วงใย ร่วมใจฟื้นฟูบ้าน ร่วมกับกระทรวงแรงงาน และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมในจังหวัดน่าน ส่งทีม CHANG HomePro – มือโปรประจำบ้านคุณ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือเข้าซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้า ภายในที่อยู่อาศัยกว่า 100 หลังคาเรือน เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างปลอดภัยโดยเร็ว

โฮมโปร และ เมกาโฮม ตั้งใจในการดูแลคุณภาพชีวิตคนไทยมาโดยตลอด สะท้อนจากแนวคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่ทุกคนในองค์กรต่างให้ความสำคัญ ในปีนี้ที่พื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดน่าน กำลังเผชิญกับผลกระทบจากอุทกภัย จึงเป็นอีกครั้งที่บริษัทฯ จะดำเนินการส่งมอบความช่วยเหลือผ่านการสานต่อโครงการ ‘โฮมโปร เมกาโฮม ห่วงใย ร่วมใจฟื้นฟูบ้าน’ โดยร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ในการฟื้นฟูบ้านเรือนและดูแลความเป็นอยู่ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ให้กลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว

ภารกิจโฮมโปร เมกาโฮม ห่วงใย ร่วมใจฟื้นฟูบ้าน ครั้งนี้ ได้มีการจัดส่งทีมช่าง CHANG HomePro – มือโปรประจำบ้านคุณ พร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือระบบไฟฟ้า ไปยังบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือนอย่างเร่งด่วน โดยสานต่อแนวทางการช่วยเหลือที่เคยใช้ในโครงการครั้งก่อน ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนการตรวจเช็คระบบไฟฟ้า ซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าเบื้องต้น มอบอุปกรณ์ทำความสะอาดและของใช้อื่นๆ และเข้าประเมินความเสียหายและให้คำปรึกษา เพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายทางไฟฟ้าหลังน้ำลด พร้อมสนับสนุนการทำงานภาครัฐอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้การฟื้นฟูมีประสิทธิภาพ ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย และเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชนในระยะยาว

“ความช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ทำกิจกรรม CSR หรือแค่ส่งคนไปซ่อมแซมบ้าน แต่เราตั้งใจเคียงข้างพร้อมส่งต่อความห่วงใย ส่งกำลังใจ และพลังใจให้กับผู้ได้รับผลกระทบทุกคน เพื่อให้ทุกครอบครัวสามารถกลับมามีชีวิตประจำวันที่มีรอยยิ้ม และมีบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นได้อีกครั้ง”

#โฮมโปรเมกาโฮมห่วงใยร่วมใจฟื้นฟูบ้าน #ช่างโฮมโปร #CHANGHomePro #มือโปรประจำบ้านคุณ #น้ำท่วมภาคเหนือ #โฮมโปร #HomePro #BetterLiving #MegaHome #เมกาโฮม #Homepropr

ปังไม่หยุด! ซูเลียนคว้ารางวัลใหญ่ “TDSA AWARD 2025”

ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานกรรมการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศจากเวทีระดับประเทศ ในฐานะผู้นำองค์กรที่ส่งเสริมจรรยาบรรณธุรกิจขายตรงไทย อย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม

 บรรยากาศงาน “TDSA AWARD 2025” ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ โดยสมาคมการขายตรงไทยจัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรตินักธุรกิจและผู้นำที่เป็นแบบอย่างของความโปร่งใส ยุติธรรม และมีคุณธรรมในโลกธุรกิจ ซึ่งปีนี้ ดร.ปิยะวัฒน์ ได้รับเลือกให้ขึ้นเวทีรับโล่เกียรติยศจากประธานในพิธี ท่ามกลางเสียงปรบมือและการชื่นชมจากทั้งวงการ

 ไม่เพียงแค่รางวัล… แต่คือ “หลักฐานแห่งแรงศรัทธา” ที่สื่อถึงการบริหารด้วยใจ การพาทีมงานเติบโตด้วยแนวทางที่ยั่งยืน และสร้างเครือข่ายนักธุรกิจที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ

ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ผมเชื่อในพลังของคน… เมื่อคนได้รับโอกาสที่ถูกต้อง มีระบบที่ดี และมีความหวัง ทุกคนสามารถเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้ รางวัลนี้ไม่ใช่เพียงแค่ของผมคนเดียว แต่มันคือชัยชนะของทุกคนในครอบครัวซูเลียน ที่ไม่เคยยอมแพ้และเชื่อมั่นในความดีงามของธุรกิจขายตรง”

ตลอดเส้นทางกว่า 28 ปี ซูเลียนไม่เคยหยุดพัฒนา ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การสร้างอาชีพ และการทำธุรกิจด้วยจรรยาบรรณ โดยยึดหลัก “ความยั่งยืน” และ “การให้” เป็นหัวใจสำคัญ พร้อมเดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจอิสระ และชุมชนทั่วประเทศ

 ความสำเร็จในวันนี้จึงไม่ใช่จุดสิ้นสุด… แต่เป็นอีกก้าวสำคัญของ “ผู้นำที่มีหัวใจเพื่อผู้คน” และขององค์กรที่ไม่หยุดส่งต่อโอกาสให้สังคม

Finn School จับมือ University of Leicester มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งสหราชอาณาจักรการันตีโอกาสให้นักเรียนไทยเรียนต่อปริญญาตรีปีสุดท้าย ในระบบ Top-up Degree

นายกวิน พันธ์ประสิทธิเวช กรรมการผู้จัดการสถาบัน Finn (ฟินน์) พร้อมด้วย ดร. ปริญญ์ ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ ร่วมลงนามความร่วมมือกับศาสตราจารย์นิชาน คานาการาชาห์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ มหาวิทยาลัยเก่าแก่ชื่อดังและเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักศึกษาไทยที่ต้องการศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับโลก โดยที่ Finn คือทางลัดสู่การจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ภายในเวลาเพียง 3 ปี โดยใช้ระบบการเรียนแบบ 2+1 นักเรียนจะเรียน 2 ปีแรกในไทยกับหลักสูตรระดับสากล UK Level 4 & Level 5 Diploma และเลือกเรียนปริญญาตรีปีสุดท้าย (Top-up Degree) อีก 1 ปีกับมหาวิทยาลัยพาร์ทเนอร์ที่การันตีการเข้าเรียนต่อกว่า 27 แห่งในอังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งจบแล้วได้รับวุฒิปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยนั้นโดยตรง ในการจับมือครั้งนี้มีผู้แทนจากมหาวิทยาลัยและพันธมิตรเข้าร่วมมากมาย อาทิ อธิการบดี University of Leicester, Deputy Head of the College of Business, Director of Public Affairs และตัวแทนจากสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยที่มีบทบาทร่วมผลักดันหลักสูตรร่วมกัน นอกจากนี้ สถาบัน Finn
ยังมีความร่วมมือกว่าอีก 26 มหาวิทยาลัย นำโดย Swansea University มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ Top 83 ของโลก และ Top 10 ของสหราชอาณาจักรในสาขาบริหารธุรกิจ, Bournemouth University, Coventry University, University of Portsmouth และมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ๆ อีกมากมาย ณ สถาบัน Finn เมื่อเร็วๆนี้

“หัวใจแตกสลาย… จากการสูญเสียหลังเหตุการณ์ความรุนแรง” สู่โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD) บาดแผลใจที่ไม่อาจมองข้าม

บางครั้ง…สิ่งที่หลงเหลือจากภัยพิบัติหรือเหตุการณ์รุนแรงอาจไม่ใช่แค่ซากปรักหักพัง หรือรอยแผลภายนอก แต่คือรอยร้าวลึกในจิตใจของผู้สูญเสีย โดยเฉพาะเมื่อสิ่งที่ต้องพรากไปคือ “คนที่เรารักที่สุด” ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ คู่ชีวิต ลูก หรือเพื่อนสนิท การจากลาอย่างกะทันหันท่ามกลางเหตุการณ์อันสั่นสะเทือนจิตใจ อาจกลายเป็นบาดแผลเรื้อรังที่ไม่สามารถสมานได้ด้วยเวลา และทำให้ผู้ที่ยังอยู่ ตกอยู่ในภาวะ “โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ” หรือ PTSD โดยไม่รู้ตัว

พญ.ดุจฤดี อภิวงศ์ จิตแพทย์ โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า PTSD โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (Post-Traumatic Stress Disorder) เป็นภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนรุนแรงทั้งทางกายและใจ เช่น ภัยพิบัติ อุบัติเหตุร้ายแรง การถูกคุกคาม หรือแม้แต่การได้เห็นเหตุการณ์อันโหดร้าย รวมถึงการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในเหตุการณ์เหล่านั้น อาการของโรคมักไม่แสดงทันที แต่อาจค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างเงียบงันภายในระยะเวลา 1 เดือนหลังเหตุการณ์ หรืออาจนานเป็นปี โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่ ภาพเหตุการณ์ย้อนกลับ (Flashbacks) ฝันร้าย หวาดกลัว ระแวง หลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ความรู้สึกผิด ความสิ้นหวัง การนอนไม่หลับ วิตกกังวล หรือรู้สึกไม่มีคุณค่าในตนเอง ซึ่งอาการเหล่านี้อาจรบกวนชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง กระทบทั้งความสัมพันธ์ การงาน และการเข้าสังคม

สิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่รู้คือ อาการของ PTSD มีรากมาจากระบบประสาทของร่างกายที่ถูกรบกวน โดยเมื่อเผชิญเหตุรุนแรง สมองจะกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) ให้ร่างกายตื่นตัวต่อภัยอันตราย และลดการทำงานของระบบพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) ที่มีหน้าที่ฟื้นฟูและผ่อนคลาย เมื่อระบบตื่นภัยทำงานหนักเกินไปต่อเนื่อง สมองและร่างกายจะอยู่ในสภาวะเครียดตลอดเวลา หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ กล้ามเนื้อเกร็ง สมองไม่สามารถกลับสู่ภาวะสมดุล ส่งผลให้เกิดอาการทางจิตใจเรื้อรังตามมา

กลุ่มเสี่ยงของโรคนี้ไม่ได้มีแค่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์โดยตรงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม เช่น สูญเสียคนใกล้ชิด ได้เห็นภาพความรุนแรงซ้ำ ๆ หรือมีความไวต่อความเครียดสูงเป็นทุนเดิม หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง โรคนี้อาจลุกลามกลายเป็นโรคซึมเศร้า หรือพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การใช้สารเสพติด หรือการเก็บตัวแยกจากสังคมอย่างรุนแรง

พญ.ดุจฤดี ให้ข้อมูลต่อว่า แม้โรคนี้จะดูซับซ้อน หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาการสามารถบรรเทาและฟื้นฟูได้ โดยเริ่มจากการดูแลตนเองในระดับเบื้องต้น เช่น การฝึกหายใจลึกและช้า (Breathing Exercise)      ที่ช่วยให้ระบบประสาทเข้าสู่โหมดผ่อนคลาย การจดบันทึกความรู้สึกเพื่อเข้าใจและปลดปล่อยความคิดที่ติดค้างในใจ การฝึกสมาธิหรืออยู่กับปัจจุบัน (Mindfulness) ที่ช่วยให้เราค่อย ๆ ปลดปล่อยตัวเองจากอดีต รวมถึงการหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีนที่กระตุ้นอาการให้รุนแรงขึ้น กิจกรรมอย่างศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด ออกกำลังกายเบา ๆ หรือการได้ทำงานอาสาและใช้เวลาอยู่กับผู้คนที่ปลอดภัย ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ใจกลับมาแข็งแรงทีละน้อย

สิ่งสำคัญที่สุดคือ “อย่าปล่อยให้ตัวเองหรือคนที่คุณรักต้องเผชิญกับภาวะนี้ตามลำพัง” หากรู้สึกว่าไม่สามารถรับมือได้ด้วยตนเอง หรือมีอาการที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตโดยเร็ว เพราะการได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีตั้งแต่ต้น จะช่วยให้ฟื้นตัวได้รวดเร็ว และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง

พญ.ดุจฤดี ให้ข้อทิ้งท้ายว่า “สุขภาพจิตที่ดี เริ่มต้นจากการรู้เท่าทันตัวเอง หมั่นสังเกตอารมณ์ ยอมรับความรู้สึก และฝึกมีสติอยู่กับปัจจุบันเสมอ การฝึกสติไว้ก่อนเหตุการณ์จะเกิด เปรียบเสมือนเรียนรู้วิธีว่ายน้ำก่อนจะตกน้ำ หากเราเตรียมใจให้แข็งแรงตั้งแต่วันนี้ ก็จะไม่มีอะไรทำให้เราจมลงไปกับความเศร้าได้ง่าย ๆ อีกต่อไป”

หากคุณหรือคนใกล้ชิดกำลังอยู่ในภาวะยากลำบากจากการสูญเสีย หรือรู้สึกใจไม่ไหว อย่ารอให้สายไป สามารถปรึกษาเรื่องสุขภาพจิต สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1270 หรือ Website: www.praram9.com / Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และ Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital อย่าลืมชวนคนที่คุณรัก มาร่วม “โอบกอดสุขภาพดีไปด้วยกัน” เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน

สคส. เรียกสอบ “ร้านมือถือชื่อดัง” ปมพนักงานลักลอบแชร์ภาพลูกค้าใน Telegram

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เรียกผู้บริหารจากบริษัทมือถือชื่อดังเข้าชี้แจง หลังเกิดเหตุพนักงานแอบลักลอบนำภาพข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ส่งต่อผ่านแอปพลิเคชัน Telegram ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง พร้อมสั่งตรวจสอบมาตรการคุ้มครองข้อมูลตามกฎหมาย PDPA อย่างเข้มงวด

พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เปิดเผยว่า ทาง สคส. ได้มีคำสั่งเรียกบริษัทมือถือชื่อดังเข้าพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และติดตามแนวทางการรับมือเหตุละเมิดข้อมูลในครั้งนี้ แม้ว่าบริษัทจะรายงานเหตุการละเมิดยัง สคส. ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่ครบถ้วนเพียงพอ ทำให้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม พร้อมทั้งขอให้บริษัทจัดส่งเอกสารหลักฐานใน 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

  1. รายงานการประเมินความเสี่ยงและมาตรการป้องกันซ้ำรอย – โดยเฉพาะการตรวจสอบภายในและมาตรการเชิงองค์กรในการกำกับดูแลพนักงาน
  2. ผลการสอบสวนพนักงานที่เกี่ยวข้อง – ซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีพนักงานเกี่ยวข้องในกลุ่ม Telegram อย่างน้อย 6 ราย
  3. แนวทางขยายผลทางกฎหมาย – โดยเฉพาะการดำเนินคดีตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) หากพบการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลในการทำผิดทางอาญา
  4. แนวทางการเยียวยาผู้เสียหาย – ทั้งในแง่จิตใจ ความเสียหายจากการรั่วไหล และการฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อแบรนด์

“ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน การละเมิดโดยผู้มีหน้าที่เก็บรักษา ถือเป็นความผิดร้ายแรงต่อความมั่นคงของระบบดิจิทัลไทย”– พ.ต.อ. สุรพงศ์ กล่าว และกล่าวต่อไปว่า สคส. ขอย้ำว่าการดำเนินการครั้งนี้เป็นไปเพื่อ ยกระดับมาตรการเชิงรุก ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และเสริมความมั่นใจให้ประชาชนว่า ข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในมือของหน่วยงานรัฐหรือเอกชน

หากพบเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) โทร. 02-111-8800 หรืออีเมล: saraban@pdpc.or.th

ซูเลียน จัดใหญ่ !! ต้อนรับสุดยอดนักธุรกิจแห่งปี “บินตรงสู่ซูเลียนด้วยเฮลิคอปเตอร์” พร้อมมินิคอนเสิร์ตจาก “แนนซี่ ท็อปไลน์” สร้างความประทับใจเหนือความคาดหมาย

บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้ง ด้วยการจัดงานต้อนรับนักธุรกิจดีเด่นแห่งปี 2567 อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 9–10 สิงหาคม 2568 ณ สำนักงานใหญ่ซูเลียน ภายใต้แคมเปญ “บินตรงสู่ซูเลียน ด้วยเฮลิคอปเตอร์” เพื่อแสดงความยินดีและเชิดชูเกียรติ Distributor of the Year 2024 อย่างสมเกียรติ โดยได้จัดการต้อนรับระดับ VVIP ผ่านเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว บินตรงสู่ใจกลางซูเลียน ท่ามกลางบรรยากาศเปี่ยมพลัง และเสียงปรบมือต้อนรับจากทีมงานและนักธุรกิจจากทั่วประเทศอย่างอบอุ่นและน่าประทับใจ

ภายในงานยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมเสริมสร้างแรงบันดาลใจ หนึ่งในช่วงไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ได้แก่ การเสวนา Q&A ไขเคล็ดลับสุขภาพ โดย CDM ทันตแพทย์ยงเกียรติ พฤฒิวรกุลชัย ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจอย่างรอบด้าน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำไปปรับใช้ทั้งในชีวิตประจำวันและในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อเติมเต็มบรรยากาศแห่งความสำเร็จ ซูเลียนยังได้จัดมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจากศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง “แนนซี่ ท็อปไลน์” มาร่วมสร้างสีสันบนเวที ด้วยการแสดงที่ทรงพลังและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้เข้าร่วมงานอย่างคึกคักตลอดช่วงเวลา สะกดทุกสายตาและเรียกเสียงปรบมืออย่างล้นหลาม

บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ขอแสดงความยินดีกับนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นทางการ และยืนยันเจตนารมณ์ในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพนักธุรกิจเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และเดินหน้าเป็นผู้นำในธุรกิจสุขภาพและความงามทั้งในประเทศไทยและระดับภูมิภาค