ซูเลียน ผนึกกำลัง ม.ปทุมธานี จุดไฟ ‘อนาคตที่ดีกว่า’มากกว่าธุรกิจ สานต่อพันธกิจเพื่อสังคม ปลอดควัน ปลอดทุจริต ก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน

บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสร้างสีสันและพลังแห่งอนาคตกับกิจกรรมภายใต้โครงการ “ออกแบบอนาคตที่ดีกว่า ปลอดควัน ปลอดทุจริต ก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน” ณ ห้องประชุมบัวหลวง มหาวิทยาลัยปทุมธานี โดยซูเลียนไม่เพียงเข้าร่วมออกบูธชงชิมสินค้าเท่านั้น แต่ยังได้รับเกียรติเป็น ผู้สนับสนุนหลักของโครงการ พร้อมคว้าใบประกาศเกียรติคุณอันทรงเกียรติ ซึ่ง นางสาวอัยรินทร์             จุลล์จักรวงศา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นรับมอบจาก ดร.ชนากานต์ ยืนยง อธิการบดีมหาวิทยาลัยปทุมธานี อย่างภาคภูมิใจ

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความอบอุ่น และความคึกคัก ซูเลียนยกขบวนผลิตภัณฑ์ยอดนิยมมาให้คณาจารย์และนักศึกษาได้ลิ้มลองกันแบบจุใจ ไม่ว่าจะเป็น “ชาทีพลัส” ชารสเข้มกลมกล่อม ดื่มแล้วสดชื่นทันที หรือ “น้ำผลไม้เข้มข้นสควีซี่ รสแบล็คเคอเร้นท์” เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่อัดแน่นด้วยคุณประโยชน์ งานนี้เรียกเสียงฮือฮาและความประทับใจจากผู้ร่วมงานได้อย่างล้นหลาม

นอกจากนี้ ซูเลียนยังไม่ลืมที่จะมอบความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้กับผู้เข้าร่วมงาน ด้วย ของที่ระลึกสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าผ้า วิตามินซี ชุดครีมอาบน้ำ–แชมพู และเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์งานนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

นางสาวอัยรินทร์ จุลล์จักรวงศา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การมีส่วนร่วมในโครงการครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพของซูเลียน แต่ยังสะท้อนถึง ความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของบริษัทในการขับเคลื่อน สังคมปลอดควัน ปลอดทุจริต ก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน พร้อมผลักดันเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่ดียิ่งกว่า และสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนร่วมกัน

CEA Announces the Success of “Content Project Market”Attracting 79 Leading Companies with 409 Business Matchings to Elevate Thai Content to the Global Stage

The Creative Economy Agency (Public Organization), or CEA, has announced the successful completion of the Content Project Market (CPM) 2025, held for the second consecutive year from 10 – 12 September 2025, at True Digital Park (East), 6th – 7th Floor. 
This year’s edition brought together 79 companies comprising producers, investors, and global streaming platforms, while also providing Thai filmmakers, series creators, and animators with a platform to showcase 54 projects. The event facilitated over 409 business matchings, underscoring CPM’s role as Thailand’s first dedicated content marketplace and a tangible gateway for expanding Thai creative works onto the international stage.

Dr. Chakrit Pichyangkul, Executive Director of the Creative Economy Agency, stated: “Hosting the Content Project Market for the second consecutive year highlights the potential of Thailand’s content industry as a soft power with strong commercial viability. CEA is committed to building a complete creative economy ecosystem — from talent development and incubation to providing platforms for business matching and global networking. Thai content is not only entertainment; it is a form of soft power that generates income, creates jobs, and enhances the country’s international image. Looking ahead, CEA aims to elevate Content Project Market into an international platform, reinforcing Thailand’s position as a future content hub of Asia.”

Content Project Market is a flagship program under the Content Lab 2025 project, designed to connect Thai creators with investors and industry partners through comprehensive activities such as pitching sessions, business matching, and networking receptions.

This year, leading global players joined the event, including Netflix, Viu, GDH, GMMTV, The One Enterprise, True CJ Creations, Kantana Group PCL, White Light Studio, Base Entertainment (Indonesia), Studio76 (Taiwan), and Skyline Media (Vietnam), along with partners from Singapore and the Philippines.

The 2025 edition recorded 409 business matchings from 79 participating companies and 54 projects, creating investment opportunities while opening doors to new international collaborations. Many participants remarked that CPM not only accelerates project financing and partnerships but also expands perspectives toward international markets. Global studios and platforms further emphasized that Thai content showcased at CPM demonstrated world-class potential, competitive quality, and long-term economic value while strengthening Thailand’s reputation as a regional creative hub.

In addition to business matching, Content Project Market 2025 featured five in-depth forums with insights from 16 leading experts from Thailand and abroad. Discussions covered topics such as accessing Asian film funds, strategies for regional co-productions, and the future of Thai films and series on the global stage. Distinguished speakers included M.R. Chalermchatri Yukol (Former Chairperson of the Subcommittee on Films and Series, National Soft Power Strategy Committee), Mr. Ruben Hattari (Director, Public Policy in Southeast Asia, Netflix), Ms. Elisabeth Shackleton (Founder & Editor, Streamlined/Contributing Editor, Asia, Deadline), Ms. Hang Trinh (Filmmaker, Producer & Entrepreneur, Skyline Media), Ms. Vanridee Pongsittisak (Producer, GDH559), Mr. Puttipong Nakthong (Director of 4 Kings and 4 Kings 2), Mr. Arak Amornsupasiri (Director & Screenwriter of The Stone), and Mr. Nottapon Boonprakob (Director of the series Mad Unicorn). These sessions enriched industry knowledge, provided inspiration, and mapped out new directions for Thailand’s content sector.

Dr. Chakrit concluded: “CEA will continue to strengthen Thailand’s content industry by working hand-in-hand with creators, producers, investors, streaming platforms, and experts across the value chain. Content Project Market has proven to deliver tangible business opportunities, fueling the growth of Thai creative industries toward international standards and driving the nation’s creative economy sustainably.”

For more information about Content Lab 2025 and Content Project Market, visit the Content Lab Facebook page. 

5 สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ประกาศสร้างความสำเร็จใน BIDC 2025 ยกระดับไทยสู่เวทีดิจิทัลคอนเทนต์เอเชีย

โครงการ “บางกอกอินเตอร์เนชันแนล ดิจิทัลคอนเทนต์ เฟสติวัล 2025” (Bangkok International Digital Content Festival 2025 : BIDC 2025) ครั้งที่ 12 ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ และโรงภาพยนตร์ House สามย่าน โดยได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ ตลอดจนผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,500 คน ยอดรับชมผ่านออนไลน์ร่วม 30,000 ครั้ง ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการก้าวสู่ THAILAND: ASIA’S DIGITAL CONTENT DESTINATION

นายสุมิตร สีมากุล นายกสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) กล่าวในนามผู้แทนภาคอุตสาหกรรมและคณะทำงาน “BIDC 2025 เป็นเวทีที่สะท้อนพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้ง 5 สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ หน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรต่างประเทศ ที่ร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับภูมิภาค ความสำเร็จในปีนี้สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็น ศูนย์กลางดิจิทัลคอนเทนต์แห่งเอเชีย อย่างมั่นคง”

ความสำเร็จในปีนี้เกิดจากความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่าง สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT), สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย(TACGA), สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA), สมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ (BASA), สมาคมอีเลิร์นนิงแห่งประเทศไทย (e-LAT) และได้รับการสนับสนุนจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ด้านภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ สารคดี และแอนิเมชัน (THACCA), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) พร้อมด้วยพันธมิตรนานาชาติ เช่น Taiwan Creative Content Agency (TAICCA), สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย, Institut Français du Vietnam และ สมาคม France VFX

กิจกรรมที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการ BIDC 2025 ในปีนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้เข้าร่วมงานกว่า 3,500 คน และยอดรับชมผ่านออนไลน์ร่วม 30,000 ครั้งตลอดระยะเวลาของการจัดงาน โดย กิจกรรมจัดแสดงภาพยนตร์-แอนิเมชัน 4 เรื่อง และสัมมนา-เสวนา 16 หัวข้อ ที่จัดในรูปแบบออนไซต์ ในโรงภาพยนตร์ เฮาส์ สามย่าน มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าของไทยและผู้ทรงวุฒิระดับโลกมาเป็นวิทยากรเติมความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ ในรูปแบบออนไซต์ มีผู้มาลงทะเบียนสำรองที่นั่งกว่า 2,000 คน อาทิ หัวข้อ Insights of IP Management โดย
คุณสุภอร รัตนมงคลมาศ (Soupy) Vice President South Asia, Universal Pictures International Commercialization and management of IP ชวนอัปเกรดความรู้ ในการต่อยอดและบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ฉบับมืออาชีพ  หรือการชมแอนิเมชัน แล้วต่อด้วยสัมมนา ที่ได้รับเกียรติจาก คุณณัฐทพงศ์ รัตนโชคสิริกูล ผู้สร้างสรรค์คาแรคเตอร์อาร์ตทอย กรีนนี่กับเอลฟี่ (Greenie & Elfie) มาพูดคุย เจาะลึกเบื้องหลังผลงานเรื่องนาค

รวมถึงกิจกรรม Job Fair ที่โดนใจนิสิต – นักศึกษา หรือผู้ที่กำลังมองหางานในวงการอุตสาหกรรมนี้  สำหรับกิจกรรมการนำเสนอผลงาน (Pitching) และการสร้างเครือข่าย (Networking Event) รวม 5 กิจกรรม อาทิ
การนำเสนอผลงานของนักสร้างสรรค์หน้าใหม่ด้านดิจิทัลคอนเทนต์ RISING STAR ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษา
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมถึงคนรุ่นใหม่อายุ 18 – 35 ปี ได้มีเวทีแสดงศักยภาพ

ขณะที่ การประกาศรางวัล BIDC AWARDS รวม 33 รางวัล ยกย่องผลงาน แอนิเมชัน วิชวลเอฟเฟกต์ เกม คาแรคเตอร์ และอีเลินนิ่ง รวมถึงรางวัลพิเศษจากทาง CEA และ depa สร้างความภาคภูมิใจให้แก่เจ้าของผลงานหรือผู้ได้รับรางวัล

และอีกหนึ่งไฮไลต์ ที่มีขึ้นในปีนี้ คือ นิทรรศการดิจิทัลคอนเทนต์ ที่รวบรวมผู้ประกอบการกว่า 70 ราย 75 บูท มารวมพลังจัดแสดงผลงานบนพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร ดึงดูดผู้เข้าชมและผู้ประกอบการร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

รวมถึงกิจกรรมสำคัญ คือ การเจรจาธุรกิจการค้า ระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการต่างชาติ ปีนี้ได้ขยายเครือข่าย เกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจมากถึง 909 คู่ สร้างมูลค่าเจรจาทางการค้ารวมกว่า 1,435 ล้านบาท สร้างโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เชื่อมโยงกับนักลงทุนและพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

งาน BIDC 2025 คือบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานภาครัฐ สมาคมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ พันธมิตรต่างชาติ ผู้ประกอบการ ศิลปิน นักศึกษา และผู้เข้าร่วมงานทุกคน ที่ร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น THAILAND: ASIA’S DIGITAL CONTENT DESTINATION อย่างยั่งยืน

โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดประสบการณ์ “LISTEN TO YOUR HEART” นิทรรศการสุขภาพผ่านศิลปะ และเวิร์กชอปเพื่อหัวใจที่อบอุ่น

โรงพยาบาลพระรามเก้า เชิญชวนทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์อบอุ่นใจครั้งแรกกับกิจกรรม “LISTEN TO YOUR HEART” นิทรรศการสุขภาพที่ถ่ายทอดเรื่องราวของหัวใจ ผ่านมุมมองศิลปะ และเวิร์กชอปสร้างแรงบันดาลใจ ระหว่างวันที่ 24 – 29 กันยายน 2568 เวลา 09.00 – 15.00 น. ณ โรงพยาบาลพระรามเก้า ชั้น1 อาคาร A โดยเปิดให้เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

เพราะหัวใจไม่เพียงทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกาย แต่ยังสะท้อนอารมณ์ ความรู้สึก และพลังใจที่คอยขับเคลื่อนชีวิต กิจกรรมครั้งนี้จึงถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ “ฟังเสียงหัวใจของตนเอง” ทั้งในมิติของสุขภาพกาย สุขภาพจิต และความหมายเชิงสัญลักษณ์ ว่าแท้จริงแล้วหัวใจแต่ละดวงต่างมีเรื่องราวที่ทรงคุณค่าและควรค่าแก่การรับฟัง

Workshop เติมพลังใจผ่านศิลปะ

  • Color Your Heart – เติมสีให้หัวใจ
    ระบายสีและวาดลวดลายลงบนกระเป๋าผ้า ถ่ายทอดความรู้สึก คลายความเครียด พร้อมเก็บกระเป๋าผลงานกลับไปเป็นที่ระลึก
  • Letters to My Heart – จดหมายถึงหัวใจของฉัน
    เขียนบอกเล่าความในใจที่อยากส่งถึงหัวใจ แล้วนำไปติดบน Heart Wall เพื่อแบ่งปันแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับผู้คนรอบข้าง
  • Heartbeat Sync – ฟังเสียงหัวใจของตัวเอง
    ใช้ Stethoscope ฟังจังหวะหัวใจ และถ่ายทอดความหมายของทุกการเต้น ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกจนถึงวันนี้

กิจกรรมพิเศษ วันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 เนื่องวันหัวใจโลก

ที่เติมเต็มทั้งความรู้และพลังใจ โรงพยาบาลพระรามเก้าได้เตรียมกิจกรรมเสวนาและการฝึกทักษะสำคัญ ได้แก่

  • 09.30 – 12.00 น. CPR Training เรียนรู้การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (รับจำนวนจำกัด ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย)
  • 12.45 – 13.30 น. Doctor Talk หัวข้อ “Toxic Relationship: บาดแผลในหัวใจ” โดย นพ.ธนานันต์นุ่มแสง จิตแพทย์ โรงพยาบาลพระรามเก้า และ นิ้วกลม ดำเนินรายการโดย นพ.วิทยา วันเพ็ญ จิตแพทย์ โรงพยาบาลพระรามเก้า
  • 13.30 – 14.15 น. Doctor Talk หัวข้อ “เจาะลึกอาการใจสั่นและภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ” โดย นพ.ธัชพงศ์ งามอุโฆษ แพทย์เฉพาะทางด้านภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ​ จาก โรงพยาบาลรามาธิบดี​ และดำเนินรายการโดย พญ.อัณณาช์ เตรียมอนุรักษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระรามเก้า

กิจกรรม “LISTEN TO YOUR HEART” ไม่เพียงชวนให้ทุกคนหันมาใส่ใจการดูแลหัวใจ แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการรับฟังและแบ่งปันเสียงของหัวใจ ที่จะเต้นไปพร้อมกับเรื่องราว ความทรงจำ และความรู้สึกดี ๆ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านศิลปะและบทสนทนา เพื่อเตือนให้เรารับฟังหัวใจของตนเองและผู้อื่น เพราะ “หัวใจทุกดวง ล้วนมีคุณค่า และเสียงของมันสำคัญเสมอ”

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม “LISTEN TO YOUR HEART” ระหว่างวันที่ 24-29 กันยายน สามารถ เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย  สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1270 หรือ Website: www.praram9.com / Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และ Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital อย่าลืมชวนคนที่คุณรัก มาร่วม “โอบกอดสุขภาพดีไปด้วยกัน” เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน

CEA เปิดเวที “Content Project Market” ต่อเนื่องปีที่ 2 ดันคอนเทนต์ไทยสู่เวทีโลก ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ยั่งยืน

นายไชยยง รัตนอังกูร ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมด้วย ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผู้บริหารและตัวแทนจากหน่วยงาน ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์ ร่วมกันเปิดงาน “Content Project Market” (CPM) ต่อเนื่องปีที่ 2 แพลตฟอร์มซื้อ-ขายโปรเจ็กต์ และบทภาพยนตร์ ซีรีส์ แอนิเมชัน ภายใต้โครงการ “Content Lab 2025” เพื่อผลักดันนักสร้างสรรค์ไทย กับผู้ซื้อ นักลงทุน และแพลตฟอร์มชั้นนำจากต่างประเทศกว่า 70 บริษัท  คาดว่าจะเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจมากกว่า 300 คู่ พร้อมเดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ ไทยสู่ระดับสากล ในระหว่างวันที่ 10 – 12 กันยายน 2568 ณ True Digital Park (East) ชั้น 6 – 7 กรุงเทพมหานคร

โฮมโปร แจ้งเตือน “กรณีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อโฮมโปร เพื่อหลอกลวงการคืนเงิน”

เรื่อง      โฮมโปร แจ้งเตือน “กรณีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อโฮมโปร เพื่อหลอกลวงการคืนเงิน”

เรียน      สื่อมวลชน

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า ขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีทำการติดต่อไปหาลูกค้าโดยตรง โดยแอบอ้างว่าเป็นพนักงานโฮมโปร เพื่อสร้างความเข้าใจผิด หลอกลวงให้ลูกค้าหลงเชื่อ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อีกทั้งยังมีการปลอมแปลงเอกสารของทางราชการประกอบและมีการปลอมแปลงบัตรพนักงานขึ้นมา รวมถึงหลอกให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ (Add Line) หรือหลอกให้โอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือทุกรูปแบบ พร้อมทั้งอ้างว่าบริษัทฯ จะดำเนินการเรียกคืนสินค้าและคืนเงินให้แก่ลูกค้า รวมถึงมีการสร้างข้อความเท็จในลักษณะดัดแปลงข้อมูลและเปลี่ยนแปลงข้อความ จากประกาศแจ้งเตือนบนสื่อออนไลน์ของบริษัทฯ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายและสร้างความเข้าใจผิดต่อลูกค้าและประชาชนทั่วไปนั้น

โฮมโปร ขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูล เพื่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมประกาศแจ้งเตือนภัยแก่ผู้บริโภคต่อเนื่องผ่านช่องทางสาขาทั่วประเทศ และทุกช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการของบริษัทฯ

บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

  1. โฮมโปรไม่มีนโยบาย เรียกคืนสินค้าและคืนเงินผ่านช่องทางบุคคลภายนอกโดยเด็ดขาด
  2. จากการตรวจสอบยืนยันแล้วว่า ไม่มีข้อมูลรั่วไหลจากระบบของบริษัทฯ แต่อย่างใด ข้อมูลลูกค้าทุกท่านยังคงปลอดภัย
  3. บริษัทฯ ได้ดำเนินการประกาศแจ้งเตือนภัยแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางสาขาทั่วประเทศ และทุกช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการของบริษัทฯ

ทั้งนี้ โฮมโปรขออภัยอย่างสูงในความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเข้าใจถึงความกังวลของท่าน พร้อมขอแนะนำให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อข้อความ โทรศัพท์ หรือข้อเสนอ ที่ไม่ได้มาจากช่องทางการของโฮมโปร รวมถึงหลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่ตอบกลับอีเมล์หรือข้อความที่น่าสงสัย และไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือรหัส OTP กับบุคคลอื่น เพื่อป้องกันการแอบอ้างชื่อบริษัทฯ ในการทำธุรกรรมต่างๆ

นอกจากนี้ ขอเน้นย้ำให้ท่านรับข้อมูลข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของโฮมโปรเท่านั้น และโปรดระมัดระวังการแอบอ้างจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ตัวแทนของโฮมโปร หากพบข้อความหรือการติดต่อที่น่าสงสัย สามารถสอบถามและยืนยันข้อมูลได้โดยตรงผ่านโฮมโปร และเมกาโฮม ทุกสาขาใกล้บ้าน, โซเชียลมีเดียทางการของบริษัทฯ ได้แก่ Facebook : HomePro Thailand, LINE Official : @HomePro และเว็บไซต์ : www.homepro.co.th และ Call Center โทร. 1284 (เวลา 9.00-21.00 น.)

โฮมโปรขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักข่าวที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชน และขอยืนยันถึงความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าทุกท่าน พร้อมยึดมั่นในการส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนสำคัญของเราเสมอมา

ขอแสดงความนับถือ

สำนักสื่อสารองค์กร | บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร”

วันพุธที่ 17 กันยายน 2568

สคส. ขับเคลื่อนนโยบาย PDPA สู่ท้องถิ่น สัญจร 5 จังหวัดใหญ่ สร้างมาตรฐาน Data Protection ภาครัฐ

สำนักคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) โดยสำนักส่งเสริมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เปิดโครงการ “พัฒนากลไกสร้างความเข้าใจและส่งเสริมมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ลงพื้นที่สัญจร 5 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา อุบลราชธานี และภูเก็ต ระหว่างเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม 2568 มีผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 584 คน ยกระดับความตระหนักรู้และศักยภาพของหน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA และมาตรฐานสากลด้านความมั่นคงไซเบอร์

พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า “การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลคือกลไกสำคัญด้านความมั่นคงไซเบอร์ และเป็นรากฐานของความเชื่อมั่นจากประชาชน หน่วยงานรัฐและท้องถิ่นต้องยกระดับมาตรฐานการจัดการข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมายและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล”

โครงการ “พัฒนากลไกสร้างความเข้าใจและส่งเสริมมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ลงพื้นที่สัญจร 5 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา อุบลราชธานี และภูเก็ต มุ่งสร้างความเข้าใจเชิงลึก

เกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์และแนวทางรับมือหากเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล พร้อมแนะนำ Best Practices ในการทำงานของหน่วยงานรัฐและ อปท. ในฐานะ ผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) ภายใต้กฎหมาย PDPA

บทบาทของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในฐานะ Data Controller มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากต้องทำหน้าที่กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนในพื้นที่ อปท. จำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การจัดทำมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูล การขอความยินยอมที่ถูกต้อง การบริหารสิทธิของเจ้าของข้อมูล ไปจนถึงการรายงานเหตุข้อมูลรั่วไหลอย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยต่อการให้บริการสาธารณะของท้องถิ่น

การสัญจรครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น และคณะผู้บริหาร สคส. พ.ต.อ.ณัทกฤช พรหมจันทร์ รองเลขาธิการ (ด้านส่งเสริมและกำกับดูแล), พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองเลขาธิการ (ด้านกฎหมาย) และ พลตรี เฉลิมศักย์ ดาสะอาด ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมฯ ที่ร่วมผลักดันการขับเคลื่อนมาตรฐาน Data Protection สู่ระดับพื้นที่

พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการสัญจร 5 จังหวัด จะเป็นกลไกเชิงรุกที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในภาครัฐ มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเครือข่ายความร่วมมือในระดับพื้นที่ นำไปสู่ ระบบกำกับดูแลข้อมูลภาครัฐที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และเชื่อถือได้ สอดคล้องกับเป้าหมาย ข้อมูลรั่วไหลต้องเป็น “0”

“REMY CHARITY” รวมพลังคนรักสัตว์เลี้ยง ส่งต่ออาหาร และ ขนม เพื่อเติมเต็มความสุขกับ 5 มูลนิธิ ที่ดูแลน้องหมา-แมวจร กว่า 3,700 ตัว

เพราะ “ความรัก” ไม่ได้มีไว้เพียงสำหรับคน แต่ยังส่งต่อไปถึงเพื่อนสี่ขาที่อยู่รอบตัวเราได้ด้วย ล่าสุด REMY (เรมี่) แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพจาก กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด ได้จัดกิจกรรม “REMY CHARITY อิ่มนี้เพื่อเจ้าสี่ขา” ได้เชิญชวนลูกค้าและผู้ใจบุญ ร่วมแบ่งปันความอิ่มให้กับน้องหมา–น้องแมวจรจัด แก่ 5 สถานสงเคราะห์

นางสาวสุดาทิพ เกียรติศรีชาติ กรรมการ กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด เปิดเผยว่า หลังจากการเปิดตัว REMY (เรมี่)       แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด (PFG – Pataya Food Group) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอาหารกว่า 46 ปี และ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ แบรนด์ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้บริโภค ด้วยจุดเด่นของทุกสูตรที่เสริมคุณค่าคูณสอง คัดสรรวัตถุดิบ Human Grade ไม่เติมเกลือ น้ำตาล หรือวัตถุกันเสีย สอดคล้องกับแนวคิด Recipe for My Love – สุขภาพดี…ที่ให้ด้วยรัก”

เพื่อสานต่อความตั้งใจในการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงควบคู่กับการตอบแทนสังคม บริษัท เรมี่ เพ็ท จำกัด จึงจัดโครงการ “REMY CHARITY อิ่มนี้เพื่อเจ้าสี่ขา” ระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน – 9 กันยายน 2568 ได้เชิญชวนลูกค้าและผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ

โดยกิจกรรมครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น ทั้งจากการสั่งซื้อ CHARITY SET ผ่าน LINE Official รายได้จากการจำหน่าย CHARITY ITEM ผ่าน TikTok Live และ Affiliate, รายได้จากเสื้อยืดลิมิเต็ด REMY x NAT Exclusive T-Shirt ที่ออกแบบโดย “ณฐ ณฐสิชณ์” พรีเซนเตอร์ของแบรนด์ รวมถึงเงินสมทบจากแบรนด์ REMY (เรมี่)

จากพลังแห่งการแบ่งปัน REMY (เรมี่) ได้รวบรวมยอดบริจาค เป็นอาหาร และขนมสัตว์เลี้ยงกว่า 1,400 ลัง เพื่อนำไปมอบให้กับมูลนิธิและสถานสงเคราะห์สัตว์ 5 แห่ง ที่มีสุนัขและแมวในการดูแลกว่า 3700 ตัว ในวันที่ 13 กันยายน 2568ได้แก่

  1. มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ สาขาบางเลน
  2. สถานสงเคราะห์สัตว์ป้ามณี
  3. บ้านพักสี่ขา เพื่อหมาจร
  4. มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร
  5. The Voice (เสียงจากเรา)

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด พร้อมทีมผู้บริหารแบรนด์ REMY (เรมี่) และ “ณฐ ณฐสิชณ์” พรีเซนเตอร์ของแบรนด์ รวมทั้งตัวแทนจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เดินทางไปมอบอาหารด้วยตนเองที่ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ สาขาบางเลน พร้อมทั้งการจัดส่งอาหารไปยัง สถานสงเคราะห์น้องหมา–น้องแมวจรจัด อีก 4 แห่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือน้องๆ อย่างทั่วถึงอีกด้วย

“เราเชื่อว่าทุกการช่วยเหลือเล็กๆ ที่ได้รับจากหลากหลายทิศทางในครั้งนี้ สามารถสร้างรอยยิ้ม และ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับน้องหมา–น้องแมวจรได้ พร้อมขอบคุณทุกแรงสนับสนุนที่มาจากหลากหลายช่องทาง ทั้งลูกค้า – ร้านค้า – ศิลปิน และ ทีมแฟนคลับ รวมทั้ง โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ที่ทำให้โครงการนี้ได้เกิดขึ้นอย่างน่าภาคภูมิใจ โดย REMY (เรมี่) ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าส่งต่อกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง และ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลเพื่อนสี่ขาให้มีสุขภาพดี และมีชีวิตที่อบอุ่นมากขึ้น เราภูมิใจที่ได้เป็นสื่อกลางในการส่งต่อความรัก ความห่วงใย และโภชนาการที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงจรจัด” นางสาวสุดาทิพ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่สนใจกิจกรรมดีๆ เพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่

  • Facebook: REMY Pet Foods
  • TikTok: @remypetfoods
  • LINE Official: @remypets
  • Hashtag : #REMYxNATCharity #REMYCharity #REMYอิ่มนี้เพื่อเจ้าสี่ขา

CEA ประกาศความสำเร็จ “Content Project Market” ดึง 79 บริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วม – จับคู่ธุรกิจมากกว่า 409 คู่ ยกระดับคอนเทนต์ไทยสู่เวทีสากล

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ประกาศความสำเร็จการจัดงาน Content Project Market (CPM) 2025 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ระหว่างวันที่ 10 – 12 กันยายน 2568 ณ True Digital Park (East) ชั้น 6 – 7 โดยปีนี้มีผู้ผลิต นักลงทุน และแพลตฟอร์มสตรีมมิงเข้าร่วมงานและเจรจาธุรกิจรวม 79 บริษัท จากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสร้างโอกาสให้นักสร้างสรรค์สายภาพยนตร์ ซีรีส์ และแอนิเมชันของไทยได้นำเสนอผลงานรวม 54 โปรเจ็กต์ และก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) รวม 409 คู่ สะท้อนบทบาทของ CPM ในฐานะแพลตฟอร์มตลาดซื้อขายคอนเทนต์แห่งแรกของไทย ที่สามารถขยายผลสู่ระดับนานาชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า “การจัดงาน Content Project Market ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แสดงให้เห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้จริง CEA มุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาทักษะและการบ่มเพาะนักสร้างสรรค์ ไปจนถึงการเปิดพื้นที่เจรจาธุรกิจและขยายเครือข่ายในระดับโลก เพราะคอนเทนต์ไทยไม่เพียงเป็นสื่อบันเทิง แต่คือซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถสร้างรายได้ กระตุ้นการจ้างงาน และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศได้จริง สำหรับปี 2569 CEA ตั้งเป้ายกระดับ Content Project Market ให้เป็นเวทีระดับนานาชาติ (International Platform) เพื่อตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางคอนเทนต์แห่งเอเชียในอนาคต”

Content Project Market เป็นโปรแกรมสำคัญภายใต้โครงการ Content Lab 2025 ที่เชื่อมโยงนักสร้างสรรค์ไทยกับนักลงทุนและพันธมิตรเชิงพาณิชย์ ด้วยการจัดกิจกรรมครบวงจร ตั้งแต่การนำเสนอผลงาน (Pitching) การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) และการสร้างเครือข่ายธุรกิจ (Networking Reception) โดยมีผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมระดับโลกเข้าร่วม เช่น Netflix, Viu, GDH, GMMTV, The One Enterprise, True CJ Creations, Kantana Group PCL., White Light Studio, Base Entertainment (Indonesia), Studio76 (Taiwan), Skyline Media (Vietnam) และพันธมิตรจากสิงคโปร์และฟิลิปปินส์

งานในปีนี้ได้เกิดการเจรจาธุรกิจรวม 409 คู่ จาก 79 บริษัทที่เข้าร่วม แบ่งเป็นผู้ซื้อ – นักลงทุน จำนวน 79 บริษัท และผู้นำเสนอผลงานทั้งหมด 54 โปรเจ็กต์ โดยผู้เข้าร่วมหลายรายให้ความเห็นตรงกันว่า Content Project Market ไม่เพียงสร้างโอกาสด้านการลงทุนและจับคู่โปรเจ็กต์ใหม่ ๆ แต่ยังช่วยเปิดมุมมองสู่ตลาดต่างประเทศ สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการต่อยอดสู่การผลิตจริง ทางด้านตัวแทนจากสตูดิโอและแพลตฟอร์มสากลต่างยืนยันว่าการเข้าร่วมในปีนี้ ทำให้ได้เห็นศักยภาพของคอนเทนต์ไทยที่มีคุณภาพและสามารถแข่งขันในตลาดเอเชียได้ โดยคาดว่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาว และยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในภูมิภาค 

นอกจากกิจกรรมจับคู่ธุรกิจแล้ว งาน Content Project Market 2025 ยังเสริมความเข้มข้นด้วยเวทีเสวนาเชิงลึก (Forum) จำนวน 5 หัวข้อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 16 รายจากทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมแบ่งปันมุมมอง ครอบคลุมตั้งแต่การเข้าถึงกองทุนภาพยนตร์ในเอเชีย กลยุทธ์การร่วมผลิตในภูมิภาค ไปจนถึงอนาคตของการผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ไทยในเวทีโลก เช่น ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล อดีตประธานคณะอนุกรรมการภาพยนตร์และซีรีส์ ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, Mr. Ruben Hattari Director, Public Policy Netflix in South East Asia, Ms. Elisabeth Shackleton Founder & Editor, Streamlined/Contributing Editor, Asia, Deadline, Ms. Le Minh Hang Trinh Filmmaker, Producer & Entrepreneur, Skyline Media, คุณวรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์  โปรดิวเซอร์ GDH559, คุณพุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับภาพยนตร์ 4 KINGS และ 4 KINGS 2, คุณอารักษ์ อมรศุภศิริ  ผู้กำกับและผู้เขียนบทภาพยนตร์ เดอะสโตน พระแท้ คนเก๊ และ คุณณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับซีรีส์ สงครามส่งด่วน ที่สร้างกระแสจากเรื่องจริงของสตาร์ทอัปยูนิคอร์นธุรกิจไทย ทั้งหมดนี้ช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และชี้ทิศทางใหม่ให้แก่วงการคอนเทนต์ไทยอย่างรอบด้าน

“CEA ยังคงเดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกับนักสร้างสรรค์ ผู้ผลิตนักลงทุน แพลตฟอร์มสตรีมมิง และผู้เชี่ยวชาญจากทุกภาคส่วน เพื่อทำให้งาน Content Project Market ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ สร้างโอกาสทางธุรกิจเชิงพานิชย์ได้จริง กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับคอนเทนต์ไทยสู่มาตรฐานสากล และสร้างพลังให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน”

ดร. ชาคริต กล่าวสรุป

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Content Lab 2025 และงาน Content Project Market ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Content Lab

เอเซอร์ เปิดตัวศูนย์บริการ “HSNT พระราม 3” โฉมใหม่ ยกระดับอาฟเตอร์เซอร์วิส สู่มาตรฐานใหม่ของบริการหลังการขาย

นายเจฟ ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย นายสมบัติ ต่อศักดิ์สิริ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไฮพอยท์ เซอร์วิส เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด และผู้บริหาร ร่วมเปิดตัวศูนย์บริการ “Highpoint Service Network” (HSNT) พระราม 3 โฉมใหม่ เพื่อยกระดับประสบการณ์บริการหลังการขายให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ มาพร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือทันสมัย และอะไหล่มาตรฐานสากลครบครัน ลูกค้าจะมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน ทั่วถึง และรวดเร็ว โดยการเปิดตัวครั้งนี้ตั้งเป้าให้ HSNT พระราม 3 เป็น มาตรฐานใหม่ของการให้บริการด้านไอทีในประเทศไทย และเป็นต้นแบบในการพัฒนาศูนย์บริการสาขาอื่น ๆ ต่อไป โดยมี นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด  และนายสุพงศ์ ตั้งตรงเบญจศีล รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ร่วมพิธีเปิด