โฮมโปร ยืนหนึ่งทุกสมรภูมิบ้าน ตอกย้ำผู้นำ Home & Living ครบทุกมิติ ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการบริการและโซลูชันเรื่องบ้าน เดินหน้าพันธกิจ “We Make a Better Living”

โฮมโปร (HMPRO) ผู้นำธุรกิจ Home Solution & Living Experience ภายใต้พันธกิจ “We Make a Better Living” ที่ไม่ใช่เพียงแค่คำพูด แต่เป็นแนวทางดำเนินธุรกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าให้ดีขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยสินค้าและบริการเรื่องบ้านที่ครบวงจร ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นบริการจากทีม CHANG HomePro มือโปรประจำบ้านคุณ ทีมช่างมืออาชีพที่ผ่านการฝึกอบรมด้วยมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เสริมด้วยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทันสมัย ผสานเทคโนโลยี AI, AR, Picture Search และ Voice Search ควบคู่กับการขยายสาขากว่า 130 แห่ง เพื่อรองรับกำลังซื้อที่เติบโตในอนาคต และช่องทาง Omni Channel ที่ไร้รอยต่อ ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ช้อปที่ สะดวก รวดเร็ว และครบทุกมิติของการใช้ชีวิต

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า “ผู้ประกอบการค้าปลีกเรื่องบ้านทั่วประเทศต้องเผชิญแรงกดดันหลายด้าน ทั้งกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากภาวะเศรษฐกิจและภาระหนี้ครัวเรือน, พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อนขึ้น รวมถึงความต้องการที่มากกว่าแค่ความคุ้มค่า แต่คือความสะดวกสบาย รวดเร็ว เชื่อถือได้ และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตจริง ขณะเดียวกัน ลูกค้าก็คาดหวังให้แบรนด์มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขณะที่เทคโนโลยีและ AI ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัว”

“โฮมโปร” ไม่ได้ยืนอยู่บนความแข็งแกร่งของแค่จำนวนสินค้า บริการ หรือสาขาที่ครอบคลุม แต่เราสร้างความแตกต่างด้วยการเป็น Total Home Solution & Living Experience ที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มลูกค้าบ้านเก่าและบ้านใหม่ รวมถึงผู้ที่ต้องการรีโนเวท พร้อมมี “เมกาโฮม” เข้ามาเสริมทัพ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มช่างและผู้รับเหมา รวมถึงโมเดลธุรกิจ “Hybrid Store” ที่รวมจุดแข็งทั้งสองแบรนด์ (โฮมโปร และเมกาโฮม) ไว้ในที่เดียว

ปัจจุบัน โฮมโปรมีสาขากว่า 130 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้ง HomePro, MegaHome และ Hybrid Store ที่เข้าใกล้ชุมชนมากยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงภูมิศาสตร์และประสบการณ์ช้อปปิ้ง หลังวิกฤตโควิด-19 ผู้บริโภคหันมาช้อปสินค้าออนไลน์มากขึ้น โฮมโปรจึงเร่งพัฒนาช่องทางอีคอมเมิร์ซ และ Omni-Channel เต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็นบริการ Chat Shop4You – ทักมา เราช้อปให้ ผ่าน LINE OA สาขา และ Facebook ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยช้อปส่วนตัว, บริการ Click & Collect – ช้อปออนไลน์ รับได้ที่สาขา หรือลูกค้าสามารถดูสินค้าที่หลากหลายเพิ่มเติมได้ ผ่านการสแกน QR Code สื่อในสาขา ตลอดจนยังมีช่องทางและบริการอื่นๆ ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ การทำให้ลูกค้าช้อปได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายออนไลน์เติบโตขึ้น เป็น 8% ของรายได้รวมทั้งหมด

นายวีรพันธ์ กล่าวต่อว่า อีกหนึ่ง Pain Point สำคัญของผู้บริโภควันนี้ คือ การหาช่างที่ไว้ใจได้ เพราะลูกค้าต้องการมากกว่าความสะดวก แต่คือความสบายใจว่าจะมีคนรับผิดชอบงานจนจบ และพร้อมแก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เพื่อตอบโจทย์นี้ “ช่างโฮมโปร (CHANG HomePro)” จึงถูกยกระดับให้เป็น

“มือโปรประจำบ้านคุณ” ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และครอบคลุมบริการทุกเรื่องบ้าน ตั้งแต่งานติดตั้ง ซ่อมบำรุง ไปจนถึงบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เช่น ไฟดับ ปั๊มน้ำเสีย อีกทั้งขยายบริการเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าสู่ยุค Lazy Economy ที่ต้องการความง่าย สะดวก รวดเร็ว ครบจบในครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นบริการแม่บ้านทำความสะอาด, งานซ่อมบำรุง, บริการ Same Day Delivery “ซื้อวันนี้ ส่งวันนี้” และ Express Delivery “ส่งด่วนทันที! ภายใน 1 ชั่วโมง ไม่มีขั้นต่ำ เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ” และอื่นๆ ทั้งหมดนี้ทีมช่างโฮมโปร พร้อมดูแลบ้านให้เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวของทุกครอบครัว “ความสะดวกสบายและรวดเร็ว” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการบริการ ที่ไม่ใช่แค่ตัวเลือก แต่คือสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับทันทีจากโฮมโปร

“โฮมโปร” ยังสร้าง Demand Generation เพื่อสร้างประสบการณ์เรื่องบ้าน ผ่านกิจกรรมและแคมเปญที่กระตุ้นความสนใจสู่การตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” ที่ช่วยเปลี่ยนของเก่าที่ไม่ใช้แล้ว ให้กลับมามีคุณค่าอีกครั้ง เป็นสินค้ารักษ์โลก นอกจากนี้มีกิจกรรม “ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่เปิดให้ลูกค้านำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาซ่อมฟรีทุกสาขา พร้อมส่วนลดค่าอะไหล่ ขณะเดียวกันเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพทั้งระบบซัพพลายเชนและระบบหลังบ้าน เพื่อส่งมอบบริการที่รวดเร็วกว่าเดิม และขยายตลาด B2B ด้วยการนำเสนอโซลูชันครบวงจรให้กับโครงการที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจ เพื่อตอกย้ำความเป็น Total Home Solution & Living Experience ที่ครบวงจรในทุกมิติของบ้านอย่างแท้จริง

สำหรับในปี 2569 โฮมโปรตั้งเป้าหมายสร้าง Customer Lifetime Value (CLV) เต็มรูปแบบ มุ่งให้โฮมโปรเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของลูกค้า ส่งมอบประสบการณ์เรื่องบ้านแบบครบวงจร และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น (Better Living) อีกทั้งยกระดับบริการให้เฉพาะบุคคลยิ่งขึ้นด้วย AI-Driven Personalization ผ่านระบบ Customer Data Platform (CDP) ที่วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์ เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่เหมาะกับความต้องการขณะนั้นจริงๆ อีกทั้งพัฒนา Application ต่อเนื่อง สร้าง HomePro Online App. เป็นศูนย์กลางทุกความต้องการเรื่องบ้าน, CHANG HomePro App. ทำให้การเรียกช่าง เป็นเรื่องง่ายขึ้น และ Home Card App. ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมายสำหรับสมาชิกoHom ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์ 3S เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทุกครอบครัว ภายใต้พันธกิจ “We Make a Better Living”

ด้าน นายธีรพล รอดเฉื่อย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานจัดส่งและติดตั้ง บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวเสริมว่า “เราตั้งใจให้บริการจากทีมช่างโฮมโปร (CHANG HomePro) มือโปรประจำบ้านคุณ ให้เข้ามาดูแลทุกช่วงชีวิตในบ้าน ตั้งแต่การเปลี่ยนหลอดไฟเล็กๆ ไปจนถึงการปรับปรุงห้องน้ำหรือครัวทั้งหลัง ด้วยทีมช่างมืออาชีพกว่า 2,500 ทีมที่ผ่านการฝึกอบรมมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และมีแผนขยายทีมช่างโฮมโปรเป็น 4,500 ทีม พร้อมวางแนวคิด “1 ช่าง 1 ตำบล” เพื่อให้บริการรวดเร็วครอบคลุมทุกมิติ พร้อมพัฒนาบริการให้หลากหลายตั้งแต่บริการจัดส่งด่วน ภายในวันถัดไป (Next Day Delivery), บริการจัดส่งด่วน ภายในวัน (Same Day Delivery) และบริการส่งด่วน ภายใน 1 ชม. (Express Delivery)ไปจนถึง Emergency Service ที่จะมีช่างโฮมโปรเข้าไปให้บริการ ดูแลปัญหาให้ลูกค้า ภายใน 2 ชั่วโมง การรีแบรนด์ Home Service เป็น CHANG HomePro

ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากกิจกรรม “ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ดึงดูดลูกค้าเกือบ 40,000 ราย ภายใน 3 วัน โดยลูกค้าสามารถจองบริการผ่านแอปพลิเคชัน “CHANG HomePro” ได้ง่าย เพียง 3 คลิก”

ด้าน นางอภิรดี ทวีลาภ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงาน Business & Merchandise Center บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า “อีคอมเมิร์ซยุคดิจิทัล เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญค้าปลีกไทยในปัจจุบัน ของ HomePro Online ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปี และได้ทำการปรับโฉมเต็มรูปแบบก่อนยุคโควิด-19 ทำให้รองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว HomePro Online นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น Picture Search, Voice Search, AR, Live Commerce รวมถึงระบบ Customer Data Platform (CDP) ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อแนะนำสินค้าและโปรโมชั่นเฉพาะบุคคล พร้อมบริการจัดส่งด่วนทันที! ภายใน 1 ชม. ไม่มีขั้นต่ำทุกออเดอร์ เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยกระดับประสบการณ์การซื้อของออนไลน์ให้สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม”

นายวีรพันธ์ กล่าวปิดท้ายว่า ด้วยความมุ่งมั่นของโฮมโปรที่ต้องการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับทุกคน และพร้อมที่จะเข้าใจทั้งบ้านและเข้าใจชีวิตของผู้คนจริงๆ ได้รับการตอกย้ำด้วยความสำเร็จจากการได้รับคัดเลือกจาก Marketeer ให้รับ 3 รางวัล ได้แก่ หมวดร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด, หมวดแพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ซึ่งโฮมโปรได้รับรางวัลฯ หมวดนี้ 2 ปีต่อเนื่อง) และหมวดแพลตฟอร์ม E-Commerce (Home & Living) ที่ได้รับความนิยมสูงสุด

เป็นปีแรกที่ Marketeer No.1 Brand Thailand ทำการสำรวจแบรนด์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของผู้บริโภคในหมวดร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ใส่ใจทั้งด้านการตกแต่งและฟังก์ชันการใช้งาน พร้อมความคาดหวังประสบการณ์เรื่องบ้านแบบครบวงจร ผลสำรวจพบว่า โฮมโปร
คือแบรนด์ร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคไทยนึกถึง

ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้ง โฮมโปรพร้อมเดินหน้าสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นมากกว่าผู้นำธุรกิจ แต่เป็นภาพของ “เพื่อนที่ดี” ที่พร้อมช่วยจัดการเรื่องบ้านให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ด้วยการบริหารจัดการที่ทันสมัย นวัตกรรมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และทีมงานมืออาชีพที่พร้อมเคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต โฮมโปรคือคำตอบของชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิติ ภายใต้พันธกิจ “We Make a Better Living” ที่ไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือการลงมือทำจริงเพื่อชีวิตที่ดีกว่าในทุกวัน

#MarketeerNo1BrandThailand2025 #No1BrandThailand2025 #FurnitureandHomeDecorStore

#แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่าง #CHANGHomePro #ช่างโฮมโปร #มือโปรประจำบ้านคุณ #HomeProOnline #HomeandLiving #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #homepropr

“ไดกิ้น” คว้ารางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 5 สร้างมาตรฐานโรงงานสีเขียว พร้อมปักหมุดแผน “Fusion30” สู่ Net Zero อย่างยั่งยืน

นายวัลลภ พ่วงไพโรจน์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ารับรางวัล “อุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 5” (Green Industry Level 5) ประจำปี 2568 ระดับสูงสุดของกระทรวงอุตสาหกรรม ตอกย้ำบทบาทองค์กรต้นแบบด้านโรงงานสีเขียว และการผสานความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินธุรกิจทุกมิติ ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็ง และวัฒนธรรมองค์กรที่มี “ความยั่งยืน” เป็น DNA ฝังในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงาน โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานมอบรางวัล ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก (วิภาวดี) กรุงเทพมหานคร

จากซ้ายไปขวา

1) นางสาวสุรัชมาศ คำภีระมี   วิศวกรอาวุโส บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

2) นายนัฐพงค์ หันแจ้ด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

3) นายพรยศ กลั่นกรอง   อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม  กรมโรงงานอุตสาหกรรม

4) นายณัฐพล รังสิตพล  ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

5) นายวัลลภ พ่วงไพโรจน์  กรรมการบริษัทฯ & ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส  บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

6) นางสาวกันยกร วรรณศรี ผู้จัดการ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด

เมื่อแรงขับชีวิตถูกดูด !!! “Burnout” ภาวะหมดไฟที่วัยทำงานและ Gen Z ต้องระวัง

ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout กำลังกลายเป็นภัยเงียบที่คุกคามคนไทยยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่เป็นสิ่งที่ค่อย ๆ บั่นทอนคุณภาพชีวิตและจิตใจอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการดูแลทันที อาจนำไปสู่โรคซึมเศร้า โรคเครียดเรื้อรัง โรคนอนไม่หลับ หรือแม้แต่การสูญเสียแรงขับเคลื่อนชีวิต ทำให้คนที่เคยสดใสและร่าเริง กลายเป็นคนเก็บตัว กลัวสังคม สูญเสียความมั่นใจ และถลำลึกสู่ความมืดมิดทางอารมณ์

นพ.ธนานันต์ นุ่มแสง จิตแพทย์ โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า “ภาวะหมดไฟ” เกิดจาก ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์สะสม ทำให้หมดแรง สูญเสียพลัง และขาดแรงจูงใจ มีทัศนคติแง่ลบต่อการงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง สะสมกลายเป็นความเครียด กดดัน ส่งผลต่อสุขภาพจิตในระยะยาว หลายคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังหมดไฟ เพียงแค่รู้สึกเบื่อหน่าย ขาดความสุขกับสิ่งที่ทำ และเมื่อไม่ได้รับการยอมรับหรือโอกาสที่สอดคล้องกับคุณค่าในใจ แรงผลักดันก็จะค่อย ๆ สูญไป จนอาจทำให้ชีวิตตกอยู่ในวงจรความทุกข์ที่ยากจะถอนตัว

องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรองว่า “ภาวะหมดไฟ” เป็น โรคใหม่ของยุคสมัย โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เร่งรีบและกดดัน จนทำให้รู้สึกไร้พลังและตกอยู่ในความมืดมิดทางอารมณ์ แนวโน้มผู้ประสบ “ภาวะหมดไฟ” เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2566 โดยเฉพาะช่วงที่สังคมกลับมาทำงานที่ออฟฟิศหลัง โควิด-19 กลุ่มที่น่าจับตาคือ วัยหนุ่มสาวอายุ 22–28 ปี หรือ Gen Z ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นชีวิตการทำงาน จากสถิติพบว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะหมดไฟมากกว่า 50% เป็นวัยทำงาน และที่น่าตกใจคือ ประชากรวัย Gen Z ราว 65% เคยรู้สึกเบื่อหน่ายและขาดแรงขับเคลื่อนในชีวิต ขณะที่คนไทยราว 15% มีความเครียดสูง ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มหมดไฟ ซึ่งในความเป็นจริงจำนวนผู้ป่วยจะสูงกว่านี้มาก แต่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเปิดเผยปัญหาทางจิตใจ และไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังถูก “ภาวะหมดไฟ” กลืนกิน

นพ.ธนานันต์ ระบุว่า สาเหตุภาวะหมดไฟไม่ได้เกิดจากงานเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากปัจจัยหลายมิติ ทั้งภาระงานที่เพิ่มขึ้นหลังองค์กรปรับลดคน ทำให้ความกดดันในที่ทำงาน ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย คนดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เลือกงานไม่ตรงกับความสามารถ หรือความกดดันจากเพื่อนร่วมงาน ทำให้ไม่สามารถแสดงศักยภาพตัวเองได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงการเดินทางที่กินเวลาชีวิต ความคาดหวังจากครอบครัวและสังคม และความไม่เข้าใจกันระหว่างเจเนอเรชั่นในครอบครัว ทำให้บ้านไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป

อาการของคนที่อยู่ใน “ภาวะหมดไฟ” สังเกตได้คือ ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ รู้สึกแปลกแยกจากบุคคลอื่น และความนับถือตนเองต่ำ ทำให้รู้สึกไร้ค่า หมดแรงจูงใจ และประสิทธิภาพการทำงานลดลง

สำหรับแนวทางการแก้ไขและรับมือกับ “ภาวะหมดไฟ” ได้แก่

  • ประเมินทางเลือกและปรับเปลี่ยนงาน พูดคุยกับหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงาน
  • ขอความช่วยเหลือและสนับสนุนจากคนใกล้ชิด
  • ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น สมาธิ โยคะ ดูหนัง ฟังเพลง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และฝึกสมาธิ
  • ปรับ mindset มองโลกในแง่บวก

นพ.ธนานันต์ กล่าวปิดท้ายว่า การพัฒนาตนเองและแรงบันดาลใจคือกุญแจสำคัญ การตั้งเป้าหมายชีวิต การค้นหาแรงจูงใจใหม่ และการจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม จะช่วยให้กลับมามีพลังชีวิตและอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข “การยอมรับปัญหา พักใจ และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้เรากลับมามองเห็นคุณค่าและเป้าหมายชีวิตอีกครั้ง”

ภาวะหมดไฟไม่ได้เป็นปัญหาของ วัยทำงานหรือ Gen Z เพียงอย่างเดียว แต่เป็น ภัยเงียบที่สังคมไทยทุกคนต้องตระหนัก เพราะแรงขับชีวิตที่มอดดับ ย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งตัวเรา ครอบครัว และสังคม หากปล่อยไว้โดยไม่จัดการ อาจนำไปสู่การสูญเสียพลังชีวิตและความสุขในชีวิตประจำวันอย่างถาวร

สำหรับผู้ที่สงสัยว่า ตัวเองกำลังอยู่ใน ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1270 หรือ Website: www.praram9.com / Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และ Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital อย่าลืมชวนคนที่คุณรัก มาร่วม “โอบกอดสุขภาพดีไปด้วยกัน” เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน

 “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” กลับมาอีกครั้งที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี! ขนทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังส่งท้ายปี เปิดตัว “5 นวัตกรรมใหม่ที่แรก!” พร้อมโปรแรงที่สุดแห่งปี 4-13 ต.ค. นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี

โฮมโปร จัดใหญ่มหกรรม “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” งานที่ทุกคนรอคอย ขนทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังระดับโลกมาจัดเต็ม ครบครันด้วยสินค้าคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทลีฟวิ่ง อุปกรณ์เพื่อสุขภาพในบ้านอย่างเครื่องฟอกอากาศและเครื่องอบผ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวและอุปกรณ์บันเทิง
ในราคาคุ้มค่า พร้อมโปรโมชันจัดหนักแห่งปี ช้อปสะดวก มาที่เดียวได้ครบทั้งสินค้าและบริการเรื่องบ้าน ระหว่างวันที่
4 ต.ค.-13 ต.ค.2568 (ตลอด 10 วันเต็ม) ที่อิมแพค เมืองทองธานี พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่จากแบรนด์ดัง ที่แรกของประเทศไทยภายในงาน

นางอุไรวรรณ ตันติพิริยะกิจ ผู้อำนวยการกลุ่มปฏิบัติการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า ปีนี้ โฮมโปรได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เปิดตัว “5 นวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าล่าสุด” ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ เน้นความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย เชื่อมโยงทุกจังหวะการใช้ชีวิตในบ้านให้ราบรื่น พร้อมตอบสนองความต้องการด้านการประหยัดพลังงาน ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ และมอบความคุ้มค่าในระยะยาวด้วยอายุการใช้งานที่ทนทาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด Better Living โดยทั้งหมดจะเผยโฉมครั้งแรกภายในงาน โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” เท่านั้น

ภายในงานยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรมล่าสุดจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิอาทิ Haier – เครื่องซักผ้า AI อัจฉริยะรุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ไฮเอนด์ เหมาะสำหรับเสื้อผ้าไฮเอนด์และดีไซน์ที่รองรับสรีระผู้ใช้งานชาวเอเชีย,
TCL – SUPER DRUM เครื่องซักอบรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมถังซักใหญ่พิเศษ 540 มม. ซักกองใหญ่ได้จบในครั้งเดียว
พร้อม Super Healthy Care ด้วยเทคโนโลยี EBS & ABS ป้องกันแบคทีเรียได้ถึง 99.99% มั่นใจได้ ทุกการซัก สะอาดหมดจด และปลอดภัยต่อสุขภาพของคนในครอบครัว, Samsung – Bespoke AI Laundry เครื่องซักและอบผ้ารุ่นใหม่ที่ผสานระบบ Heatpump และเทคโนโลยี AI เพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพสูงสุด, HISENSE – ตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยรุ่น UX Series-RGB-Mini LED TV’ ขนาด 116 นิ้ว รุ่นเรือธงที่เปิดตัวครั้งแรกในไทย มาพร้อมเทคโนโลยีจอภาพใหม่ล่าสุดของโลก เข้ากับระบบประมวลผลอัจฉริยะ และเทคโนโลยีภาพ TriChroma RGB-MiniLED, ชิปประมวลผล AI Engine X, ระบบเสียง 6.2.2 แชนเนลจาก Devialet และฟีเจอร์ Game Mode Ultra ที่อัตราการรีเฟรช 165Hz มอบประสบการณ์ภาพและเสียงที่เหนือระดับอย่างแท้จริง และ Bosch – ที่นำเสนอเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านนวัตกรรมใหม่ อาทิ ระบบซักผ้าและอบผ้า ด้วยเทคโนโลยี Active Oxygen ที่ฆ่าเชื้อโรคได้ 99.99% และระบบ i-DOS เติมน้ำยาอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและสุขอนามัยที่ดียิ่งขึ้น

นอกจากนวัตกรรมใหม่แล้ว “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” ยังจัดเต็มความคุ้มค่าด้วยโปรโมชันแรงแห่งปี อาทิ

  • สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกโฮมการ์ด รับเครดิตเงินคืน รวมสูงสุด 160,000 บาท เข้าโฮมโปร วอลเล็ต ผ่าน โฮมการ์ด แอปพลิเคชัน เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ครบตามเงื่อนไข 
  • ลด+รับเพิ่ม รวมสูงสุด 7,200 บาท เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการครบตามเงื่อนไข  
  • ผ่อนทั้งงาน 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ เฉพาะบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 
  • ร่วมรักษ์โลก ผ่านโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” (Trade-In) เพียงนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ไม่ใช่แล้วมาส่งต่อภายในงาน เพื่อให้โฮมโปรช่วยนำไปจัดการอย่างถูกวิธี ช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมได้รับความคุ้มค่า ทันทีกับส่วนลดพิเศษสำหรับช้อปสินค้าใหม่ มูลค่า 10,000 บาท !!
  • ร่วมลุ้นรับทองคำรวม 5 บาท จาก VISA ในงาน “โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป” เพียงช้อปครบทุก 3,000 บาท/ใบเสร็จ สมาชิกโฮมการ์ด Regular รับ 1 สิทธิ์ลุ้นชิงโชค, สมาชิกโฮมการ์ด Prime Prestige รับเพิ่มอีก 2 สิทธิ์ และพิเศษ! เมื่อชำระด้วยบัตร Visa รับเพิ่มทันทีอีก 5 สิทธิ์
  • เปิดประสบการณ์จากทีมช่างโฮมโปร มือโปรประจำบ้าน ที่ยกขบวนความสุขและความสบายใจในงานนี้ กับโปรโมชันสุดคุ้มมากมาย

นางอุไรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ช่วงปลายปีคือจังหวะที่ผู้บริโภคมองถึงการรีเฟรชบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่เทศกาลและวันหยุดยาว รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรับมือกับฤดูกาลฝุ่น และสร้างสุขภาพดีไปพร้อมกัน โฮมโปรจึงเล็งเห็นเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้านวัตกรรมที่ชาญฉลาดมากขึ้น ประหยัดพลังงาน และสะดวกสบาย รวมถึงมองหาสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนในบ้านอีกด้วย
งาน ‘โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป’ ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รวมสินค้าและโปรโมชันในราคาสุดคุ้ม แต่เป็นงานที่สะท้อนเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ และเป็นการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ของเครื่องใช้ไฟฟ้าจากหลายหลายแบรนด์ดัง ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ใช้งานง่าย เครื่องฟอกอากาศที่กรอง PM 2.5 ได้อย่างดี ไปจนถึงเครื่องครัวและความบันเทิงที่พร้อมให้อัปเกรดในงบที่คุ้มค่า เรียกได้ว่ามางานนี้ ได้ครบทั้งสินค้าและบริการเรื่องบ้าน และช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย”

ทั้งนี้ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับสินค้าและบริการเรื่องบ้าน ครบทุกไลฟ์สไตล์ในงานเดียว ที่เติมเต็มทุกการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทลีฟวิ่ง ที่ทำให้การใช้ชีวิตในบ้านง่ายขึ้นและปลอดภัย, เครื่องฟอกอากาศ หลากหลายขนาด รองรับการจัดการฝุ่น PM 2.5 ได้ทุกพื้นที่, เครื่องอบผ้า ที่เหมาะกับผู้แพ้ฝุ่นและฤดูฝน, เครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน, รวมถึง ตู้เย็น เตาอบ ทีวี ระบบเสียง และเครื่องใช้ในครัว ที่มาพร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

สัมผัสมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งปี เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างคุ้มค่าเพื่อชีวิตที่ดีกว่า Better Living
ที่ โฮมโปร อิเล็คทริค เอ็กซ์โป ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2568 – 13 ตุลาคม 2568 นี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี
ฮอลล์ 9
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Call Center 1284

#โฮมโปรอิเล็คทริคเอ็กซ์โป #HomeProElectricExpo #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #homepropr

“โฮมโปร พะงัน” ฉลองเปิดใหม่รับดีมานด์ เกาะท่องเที่ยวเติบโต ชู One stop Home Solution – ครบเรื่องบ้าน บริการไว รับคลื่น Long-Stay & Workcation

โฮมโปร ทุ่มงบกว่า 80 ล้าน เปิดสาขาใหม่บนเกาะ “พะงัน” รองรับกำลังซื้อจากการท่องเที่ยวและการอยู่อาศัยระยะยาวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยคอนเซปต์ One Stop Home Solution จุดหมายเดียวที่รวมทั้งสินค้าและบริการ พร้อมทีมช่างโฮมโปรที่ให้บริการอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่งานซ่อม-ตกแต่ง-ติดตั้ง ตอบโจทย์ทั้งคนรักบ้านและผู้ประกอบการ ให้สัมผัสประสบการณ์แบบ Better Living – สะดวก ครบ จบ ในที่เดียว พร้อมแคมเปญฉลองเปิดใหม่ 3 ตุลาคม พร้อมดีลและข้อเสนอพิเศษ “ลดยกเกาะ 15 วันเต็ม!” ตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาทต่อเดือน

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า “เกาะพะงันวันนี้ไม่ใช่แค่จุดหมายท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเมกะเทรนด์ด้านการเดินทางและการอยู่อาศัยที่ยาวนานขึ้น ตั้งแต่นักท่องเที่ยว กลุ่มครอบครัว ไปจนถึงคนทำงานที่ผลัดเปลี่ยนมาอยู่เป็นซีซัน โฮมโปรพะงัน จึงออกแบบมาเพื่อรองรับดีมานด์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี มากกว่าการท่องเที่ยวระยะสั้นๆ ทั้งงานบริการเรื่องบ้าน การเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้า และการรีโนเวทที่พักอาศัย

“การเปิดสโตร์ใหม่ ‘โฮมโปร พะงัน’ ตอบโจทย์ตลาดที่อยู่อาศัยบนเกาะที่มีความต้องการเรื่องบ้านเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มที่พักปล่อยเช่าที่เน้นเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อย กลุ่มกำลังซื้อสูงที่พร้อมจ่ายเพื่อคุณภาพและงานดีไซน์ ไปจนถึงกลุ่ม ‘เร่งด่วน’ ในช่วงไฮซีซันและอีเว้นต์ระดับไอคอนิกบนหาดริ้น ที่ต้องการความรวดเร็วของงานซ่อม-ตกแต่ง-ติดตั้ง โฮมโปรจึงใช้งบลงทุนกว่า 80 ล้านบาท สร้างสโตร์คอนเซปต์ One Stop Home Solution ที่รวมสินค้า บริการ และบริการจากทีมช่างโฮมโปร ไว้ในที่เดียว บนพื้นที่กว่า 1,555 ตร.ม. พร้อมที่จอดรถ รวมถึงจุดรับ-ส่งสินค้าขนาดใหญ่ เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ได้คุณภาพ ด้วยมาตรฐานเดียวกันในทุกช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการ”

การสร้างประสบการณ์เรื่องบ้านของ ‘โฮมโปร พะงัน’ จึงถูกออกแบบให้สะดวก รวดเร็ว ได้ของครบ จบ ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบ้าน-คอนโด-วิลล่า รวมถึงผู้ประกอบการโรงแรมและคาเฟ่ ภายในสโตร์ ครบด้วยโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ทนต่อการใช้งาน เช่น แอร์ พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และสมาร์ททีวี สำหรับบ้านพักและที่อยู่อาศัย โซนของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ที่ช่วยรีเฟรชบรรยากาศและสร้างความลงตัวให้กับธุรกิจท่องเที่ยว ไปจนถึงโซนสินค้าปรับปรุง-ซ่อมแซม ที่รวมอุปกรณ์ช่าง งานสี ฮาร์ดแวร์ และสินค้ากันสนิม-กันชื้นที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์สภาพอากาศชายฝั่งได้ดี นอกจากนี้ยังมีเคาน์เตอร์บริการ ให้คำปรึกษาเรื่องสเปก-ดีไซน์-งบประมาณ-การติดตั้ง รวมในจุดเดียว เพื่อลดเวลารอคอย และยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด Better Living บนเกาะพะงัน

ฉลองเปิดใหม่ “โฮมโปร พะงัน” ด้วยแคมเปญที่ออกแบบมาเพื่อคนรักบ้านและผู้ประกอบการโดยเฉพาะ

  • 3 ตุลาคม 68 นี้ วันเดียวเท่านั้น…ถึงก่อน มีสิทธิ์ก่อน! ซื้อสินค้าและร่วมสนุกตอบคำถามเพื่อจับคูปอง รับสิทธิ์ซื้อสินค้าราคาพิเศษ จำนวนจำกัด 100 ชิ้น
  • เสิร์ฟความพิเศษต่อเนื่อง 3 – 5 ตุลาคม 68 นี้ ดีลสุดคุ้มกับสินค้าแบรนด์ดัง อาทิ แอลอีดี ทีวี เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ทุกชิ้นราคาเดียว 9,990 บาท หมดแล้วหมดเลย!
  • ดีลและข้อเสนออีกมากมาย! กับ “ลดยกเกาะ!” 3 ตุลาคม – 17 ตุลาคม 2568 นี้ 15 วันเต็ม !!
  • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโฮมการ์ด สมัครสมาชิกใหม่ รับคูปองส่วนลดทันที 300 บาท + คะแนน X3 สำหรับใบเสร็จแรก พร้อมรับคูปองส่วนลดหลายต่อ! กดปุ๊ป…ลดเลย กดรับคูปองส่วนลด 100 บาท ผ่าน HomePro Application / ช้อปครบ 5,000 บาท รับคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ 300 บาท / ช้อปครบ 10,000 บาท รับคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ 500 บาท (ใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้าขั้นต่ำ 1,000 บาท / จำกัด 500 คนแรกตลอดรายการ)
  • สมาชิกโฮมการ์ดปัจจุบัน ช้อปครบ…รับเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ต! ผ่าน HomeCard Application มูลค่าสูงสุด 3,000 บาท! เมื่อมียอดช้อปครบตามเงื่อนไข/ใบเสร็จ (ภายในวัน)
  • สมาชิกบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม คุ้ม 3 ต่อ ต่อที่ 1 รับส่วนลดทันที 3% ต่อที่ 2 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4% (รูดเต็มจำนวนครบตามเงื่อนไข/ใบเสร็จ) และต่อที่ 3 รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดอีก 13% เมื่อแลกพอยท์เท่ายอดชำระตามเงื่อนไข
  • สิทธิพิเศษจากสถาบันการเงินชั้นนำมากมาย ให้ทั้งส่วนลด + รับเครดิตเงินคืน พร้อมสิทธิ์ Super Zero ผ่อนนาน…ผ่อนน้อย ผ่อนชำระ 0% ทั้งร้าน นานสูงสุดถึง 24 เดือน! (เฉพาะบัตรและสินค้าที่ร่วมรายการ)

ห้ามพลาด !! ฉลองเปิดใหม่ “โฮมโปร พะงัน” ลดยกเกาะ เริ่ม 3 ตุลาคม 2568 นี้ พิเศษสุด! กับบริการ ซ่อมฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยช่างโฮมโปร มือโปรประจำบ้านคุณ ที่มอบช่วยให้ทุกคนประหยัดค่าครองชีพ และได้ยืดอายุการใช้งานของสินค้าอีกด้วย 3-5 ตุลาคม ตลอด 3 วันเต็ม มาพบกันที่ โฮมโปร พะงัน (ท้องศาลา-หาดริ้น) เปิดบริการทุกวัน 8.30 – 20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 099-328-9002

#ฉลองเปิดใหม่ #โฮมโปรพะงัน #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #homepropr

คัมแบ็กคืนกำไร! HÄFELE Big Clearance Sale 2025 มหกรรมลดแรงแห่งปี 90%! จัดเต็มความคุ้ม คอมพลีตทุกเรื่องบ้าน 2-4 ต.ค. นี้ 3 วันเท่านั้น!

งานลดใหญ่ปลายปีที่คนรักบ้านเฝ้ารอกลับมาแล้ว HÄFELE Big Clearance Sale 2025 มหกรรมลดแห่งปี ที่ชวนให้นักช้อปนักแต่งบ้านเจอดีลแรงตั้งแต่หน้าสตูดิโอ ลดสูงสุด 90%! พร้อมขบวนของแต่งบ้านและอาคารครบทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ในครัว ห้องน้ำ ไปจนถึงอุปกรณ์สร้างบรรยากาศภายในบ้านและสมาร์ทโฮม พร้อมกิจกรรมความสนุกคืนกำไรจัดเต็ม! สามวันเท่านั้น 2-4 ตุลาคม 2568 นี้ ที่เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท ซอย 64 (เชื่อมต่อ BTS สถานีปุณณวิถี)

นายพัลลภ คมน์อนันต์ – General Manager – Marketing Management บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ทุกปีเราตั้งใจจัดงาน Big Clearance Sale ให้เป็นช่วงเวลาคืนกำไรของคนรักบ้านจริง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้รับของที่ดี ราคาคุ้มค่า และใช่กับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ในปีนี้เฮเฟเล่ยังได้จัดดีลและกิจกรรมให้พิเศษขึ้นอีก เพื่อให้การมาเดินงานที่จัดปีละครั้ง ได้กลับออกไปพร้อมแรงบันดาลใจแต่งบ้านและการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพมากกว่าเดิม”

งาน HÄFELE Big Clearance Sale 2025 พบดีลเปิดแรงตั้งแต่วินาทีแรก ลดสูงสุด 90% ปีละครั้งเท่านั้น! กับสินค้าคุณภาพจากประเทศเยอรมนี ไอเทมเรื่องบ้านและอาคารที่มีให้เลือกหลากหลายในราคาพิเศษที่สุดแห่งปี ตอบโจทย์ทั้งคนอยากปรับปรุงบ้านทั้งหลังหรือแต่งเติมของเฉพาะจุดก็เลือกได้ตามใจในราคาที่ใช่ งานเดียวจบทุกมุมบ้าน ในสตูดิโอไลฟ์สไตล์ ครบครัน ของเยอะ มีให้เลือกทั้ง ฮาร์ดแวร์และเฟอร์นิเจอร์ฟิตติ้งแน่น ๆ, อุปกรณ์ครัวที่ครบเครื่องตั้งแต่ เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เตาอบ เครื่องดูดควัน หม้อทอดไร้น้ำมัน, หรือฝั่งห้องน้ำที่จัดเต็มทั้ง สุขภัณฑ์ ฝักบัว ก๊อกน้ำ ฟังก์ชันเพื่อสุขอนามัย, กลุ่มสมาร์ทเทคโนโลยีอย่าง Digital Door Lock รวมถึงของใช้จำเป็นอย่างลูกบิด มือจับ เครื่องมือช่าง อุปกรณ์ DIY ไปจนถึงนวัตกรรมแสงสว่าง Lighting Solutions ที่ช่วยเติมเต็มความสุขคอมพลีตในทุกมุมบ้าน

นอกจากราคาดี Big Clearance Sale 2025 ยังมอบความสะดวกตั้งแต่หน้างานถึงหน้าบ้าน ซื้อครบ 3,000 บาท รับสิทธิ์จัดส่งฟรี! ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้ช้อปยาวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องขนของกลับ รวมถึงยังมีบริการติดตั้งฟรี! ในสินค้าที่ร่วมรายการ และความสุขในงานไม่ได้มีแค่ราคาดี ๆ ตลอดทั้งวันจะมี “นาทีทอง!” ให้ลุ้นคว้าสินค้าราคาสุดพิเศษแบบจำนวนจำกัด รวมถึงโซน Demonstration ที่เปิดครัวให้ชมสาธิตการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทำอาหาร เห็นภาพและวิธีการใช้งานจริงแบบใกล้ชิด แถมมีมุมลงทะเบียนรับของพรีเมียมติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย มางานเดียวได้ทั้งของใช้ ได้ทั้งประสบการณ์ และได้ไอเดียตกแต่งใหม่ ๆ กลับไปอัปเกรดบ้านแบบคุ้มค่าทุกจุด

แพลนช้อปปิ้งไว้อย่าให้ขาด — แล้วไปเจอกันหน้างาน HÄFELE Big Clearance Sale 2025 เดินเพลินปักหมุดของชิ้นโปรดก่อนใคร 3 วันเท่านั้น 2–4 ตุลาคม 2568 นี้ เวลา 09.00–20.00 น. ที่เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท ซอย 64 ใกล้ BTS สถานีปุณณวิถี ห้ามพลาดเด็ดขาด!

โรงพยาบาลพระรามเก้า  “ส่งต่อการให้” มอบกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่สู่พื้นที่ห่างไกล เพื่อโอกาสการเข้าถึงการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีด้านสุขภาพ

โรงพยาบาลพระรามเก้า เดินหน้ากิจกรรมเพื่อสังคมและสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดี เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาพยาบาลระหว่างผู้ป่วยในเมืองใหญ่และผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ความคิดริเริ่มนี้เกิดจากความมุ่งมั่นของโรงพยาบาลที่อยากเป็นส่วนนึงของการยกระดับให้ทุกคนเข้าถึงมาตรฐานการรักษาเทียบเท่าระดับสากล

นพ.วิทยา วันเพ็ญ รองกรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า “โครงการดังกล่าวเกิดจากความตั้งใจที่จะนำมาตรฐานการรักษาระดับสากลขยายไปสู่สังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ที่โรงพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงโดยตรง เราจึงส่งมอบเครื่องมือแพทย์ทันสมัยให้โรงพยาบาลอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้ดูแลผู้ป่วยในท้องถิ่นห่างไกล และสร้างโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพใกล้บ้านมากที่สุด”

โครงการ “ส่งต่อการให้” ต่อยอดจากความสำเร็จของปีที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลได้บริจาครถตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่ (Mobile Mammogram) แก่ รพ. ท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เพื่อป้องกันและคัดกรองโรค และในปีนี้โรงพยาบาลได้ยกระดับเป้าหมายด้วยการสนับสนุนชุดผ่าตัดผ่านผนังหน้าท้องความละเอียดสูง พร้อมระบบสร้างภาพด้วยเทคนิคการเรื่องแสง และเครื่องตัดเลาะเนื้อเยื่อเย็บปิดหลอดเลือด ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลชุมชนได้อย่างคล่องตัวและใช้ในการรักษาผู้ป่วยโดยตรง

คุณขมาภรณ์ ธัมพิพิธ รองกรรมการผู้อำนวยการ กำกับดูแลฝ่ายบัญชีการเงิน โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวเสริมว่า การมอบกล้องผ่าตัดเคลื่อนในครั้งนี้ “เราเข้าใจปัญหาและความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง โดยพิจารณาจากสองปัจจัยหลัก คือ การยกระดับจากการป้องกันสู่การรักษา หลังจากโครงการคัดกรองมะเร็งพบผู้ป่วยระยะเริ่มต้น กล้องผ่าตัดเคลื่อนที่จะช่วยเชื่อมต่อระหว่างการตรวจพบโรคกับการรักษาได้ทันที และหัวใจของความคล่องตัว (Mobility) ที่ช่วยให้เครื่องมือนี้เคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลชุมชน ลดภาระผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไกลเข้าสู่โรงพยาบาลศูนย์ นี่คือแนวทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่และสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วย”

นพ.จิรัชย์ จิรธรรมโอภาส ศัลยแพทย์ส่องกล้องและผ่าตัดผ่านกล้อง โรงพยาบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า โรงพยาบาลหาดใหญ่ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ที่รับส่งต่อผู้ป่วยระดับสูงสุด กำลังประสบภาวะคอขวด เนื่องจากเคสผู้ป่วยทั้งง่ายและซับซ้อนถูกส่งต่อมาที่นี่ทั้งหมด ส่งผลให้ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องรอคิวผ่าตัดนานถึง 2 วัน และผู้ป่วยจากพื้นที่ห่างไกลต้องเผชิญอุปสรรคด้านภาษา ค่าใช้จ่าย และการเดินทางซ้ำหลายครั้ง จนบางรายต้องยุติการรักษาก่อนเวลา

“กล้องผ่าตัดเคลื่อนที่” ที่ได้รับบริจาคไม่ใช่เพียงเครื่องมือใหม่ แต่เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัย ช่วยยกระดับการผ่าตัดเคสซับซ้อนในโรงพยาบาลศูนย์และสามารถเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลชุมชนได้อย่างกว้างขวาง ผู้ป่วยจึงเข้าถึงการผ่าตัดส่องกล้องที่เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ลดเวลารอคอยและจำนวนครั้งที่ต้องเดินทาง ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและความกังวลของครอบครัว รวมถึงสร้างเส้นทางการรักษาที่ต่อเนื่องจากการคัดกรองมะเร็งไปสู่การรักษา แพทย์และโรงพยาบาลชุมชนยังสามารถใช้เครื่องมือนี้ต่อยอดโครงการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และเสริมศักยภาพบุคลากรในการผ่าตัดซับซ้อน คาดว่าเครื่องมือนี้จะช่วยผู้ป่วยได้กว่า 500–600 รายต่อปี

ด้าน พญ.กรชนก ตั้งนภาดล แพทย์ผู้ชำนาญการศัลยกรรม โรงพยาบาลยะลา กล่าวว่า การมีเครื่องมือผ่าตัดทันสมัยในพื้นที่ช่วยลดอุปสรรคด้านระยะทางและค่าใช้จ่าย ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงสุด กล้องผ่าตัดผ่านส่องกล้องความละเอียดสูง 4K ช่วยลดแผล ฟื้นตัวเร็ว เพิ่มความแม่นยำ ลดภาวะแทรกซ้อน และคืนโอกาสให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

นพ.วิทยา วันเพ็ญ กล่าวปิดท้ายว่า การจัดหาเครื่องมือผ่าตัดไม่ใช่เพียงการยกระดับเทคโนโลยี แต่คือการทลายกำแพงอุปสรรค ทำให้ผู้คนในพื้นที่เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ ลดภาระค่าใช้จ่าย และได้รับผลการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้โรงพยาบาลยังดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น เปิดบ้านให้นักเรียนและนักศึกษาแพทย์เข้ามาดูงาน (Shadowing) ส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไปอบรมบุคลากรโรงพยาบาลต่างจังหวัด รวมถึงแนวคิดใหม่ในการนำอุปกรณ์ใช้ครั้งเดียวจากโรงพยาบาลเอกชนผ่านกระบวนการปลอดเชื้อ (Sterilize) นำกลับมาใช้ในโรงพยาบาลรัฐ สร้างคุณค่าและประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ป่วยที่ขาดแคลน

ZHULIAN ปลุกพลังชุมชน! สัมมนา & มอบรางวัลอลังการ ตุลาคม 2568

บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด  จัดงาน “ประชุมชุมชนซูเลียน พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณและประดับเข็มเกียรติยศ ประจำเดือนตุลาคม 2568” แบบยิ่งใหญ่สะท้านวงการ ในวันที่ 4–5 ตุลาคม 2568 งานนี้ไม่ใช่แค่การประชุมธรรมดา แต่คือ มหกรรมแห่งแรงบันดาลใจ ความรู้ และความสำเร็จ ที่รวมทุกพลังบวกและโอกาสทองสำหรับสมาชิก ZHULIAN

โดยงานนี้  ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ตัวจริงเสียงจริง ที่พร้อมแชร์ประสบการณ์สุดล้ำและแนวคิดธุรกิจที่จะจุดไฟแรงบันดาลใจให้ทุกคน ขณะที่วันเสาร์เปิดตัวด้วยความรู้เชิงวิชาการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดย แววตา เอกชาวนา ที่จะเติมเต็มพลังความรู้ด้านสุขภาพและชีวิตที่ดี

พบกับไฮไลต์กิจกรรม “Start Your Dream by ZHULIAN” ที่จะพาผู้ร่วมงานเจาะลึกแผนธุรกิจและการตลาด เข้าใจง่าย ลงมือทำจริง เรียนรู้ว่าทำไมต้องเตรียมตัว ทำไมต้องเรียนรู้ และวิธีการเปลี่ยนแรงบันดาลใจให้กลายเป็นความสำเร็จ พร้อมการแนะนำ สินค้าคู่ความสำเร็จที่จับต้องได้ บรรยายเรื่องแต้มสะสม (3M:1M) และปิดท้ายด้วย พลังสู่ความสำเร็จ ที่จะทำให้ทุกคนออกจากงานนี้แบบเต็มพลัง พร้อมลุยธุรกิจอย่างมั่นใจ

งานสัมมนาและมอบรางวัลของ ZHULIAN ครั้งนี้คือที่สุดของที่สุด! โอกาสทองที่คุณไม่ควรพลาด… ถ้าอยากก้าวสู่ความสำเร็จ เติมพลัง และปลุกไฟความฝัน จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง…เริ่มต้นที่นี่ !!!

โฮมโปร ส่งแคมเปญ “Every Day Low Price” – ซื้อของใช้ประจำวัน ไม่ต้องรอโปรตรึงราคาของใช้ในบ้าน (Daily Use) คุ้มทุกวัน 90 วันเต็ม ทั้งสาขาและออนไลน์

โฮมโปรเดินหน้าสร้าง “Better Living – เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ส่งแคมเปญ “Every Day Low Price” ตรึงราคาของใช้ในบ้านประจำวัน (Daily Use) และสินค้าช่าง ครอบคลุมตั้งแต่ของใช้ในบ้านที่ต้องซื้อซ้ำ ไปจนถึงอุปกรณ์งานติดตั้งและซ่อมบำรุงทั้งหมด ให้ผู้บริโภคคุ้มทุกวันได้ที่โฮมโปร ตลอด 90 วันเต็ม ของพร้อม สต๊อคแน่น เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่าย มั่นใจว่า “เมื่อไหร่ที่พร้อมช้อป ก็ได้ราคาดีเสมอ” ไม่ต้องรอโปรโมชั่นหรือเทศกาลลดราคาอีกต่อไป จะช้อปที่สาขาทั่วประเทศหรือออนไลน์ ก็คุ้ม!

คุณอุไรวรรณ ตันติพิริยะกิจ ผู้อำนวยการกลุ่มปฏิบัติการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า “สิ่งที่เราเรียนรู้จากผู้บริโภคคือความพอใจจากการซื้อสินค้า ไม่ได้เกิดจากการได้ราคาที่ถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความสบายใจว่า เมื่อเลือกซื้อของใช้ในบ้านจำเป็นและจะได้ทั้งความคุ้มค่าและราคาที่สม่ำเสมอทุกครั้ง โฮมโปรจึงออกแบบแคมเปญ “Every Day Low Price” ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้ ด้วยการตรึงราคาสินค้า Daily Use นานถึง 90 วันเต็ม เน้นสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ครอบคลุมทั้งสินค้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไปและกลุ่มช่างมืออาชีพ เพื่อให้ผู้บริโภคทุกคนสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าที่เข้าถึงง่าย ไม่ต้องรอโอกาสหรือเวลาพิเศษ ก็สามารถช้อปได้อย่างมั่นใจ ทั้งสาขาและออนไลน์”

รายการสินค้าในแคมเปญ “Every Day Low Price” ครอบคลุม 2 กลุ่มหลักที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ได้แก่

  • กลุ่ม End User (เน้นของใช้ประจำบ้าน ที่ซื้อซ้ำเป็นประจำ) : ของใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และอุปกรณ์แสงสว่าง
  • กลุ่มสินค้าช่าง (สำหรับงานติดตั้งและซ่อมบำรุง) : สายไฟ อุปกรณ์ระบบน้ำ และเครื่องมือสิ้นเปลือง

สินค้าทั้ง 2 กลุ่ม ถูกคัดสรรมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในครัวเรือนหรือใช้ในการทำงานอย่างมืออาชีพ

เพื่อให้ทุกคนสัมผัสความคุ้มค่าได้ทุกช่องทางอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเลือกช้อปที่โฮมโปรสาขาใกล้บ้าน โดยมองหาป้าย “Every Day Low Price” หรือ เลือกซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของโฮมโปร ที่มีสัญลักษณ์เดียวกัน เพื่อช่วยให้ค้นหาสินค้าราคาดีได้ง่ายและรวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การช้อปของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกและมั่นใจได้ว่าจะคุ้มค่าทุกครั้งที่ช้อป

ฮาวทู “ถูกทุกวัน ที่โฮมโปร” โฮมโปรแนะนำ 3 ขั้นตอนง่ายๆ ที่ใครก็ทำตามได้

  1. เช็กลิสต์ของใช้ในบ้านจำเป็น – เลือกของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ช่าง หรือของใช้ในชีวิตประจำวัน
  2. มองหาป้าย Every Day Low Price” – ที่สาขาและออนไลน์ ช้อปได้สินค้าราคาถูก ไม่ต้องรอโปร
  3. เลือกช่องทางช้อปที่สะดวก สาขาใกล้บ้านหรือช่องทางออนไลน์ ก็มั่นใจได้ว่าคุ้มค่าเท่ากัน

“สิ่งที่โฮมโปรมอบให้ลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่สินค้าราคาถูก แต่คือความมั่นใจว่าทุกครั้งที่เข้ามาเลือกซื้อของ จะได้ความคุ้มค่าที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้ โฮมโปรเป็นมากกว่าร้านจำหน่ายสินค้า แต่เราเป็นพาร์ทเนอร์ หรือ เพื่อนคู่คิดเรื่องบ้าน ที่อยู่เคียงข้างทุกๆ ช่วงชีวิตของลูกค้าไปตลอด เพราะการสร้าง Better Living – เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ไม่ได้หมายถึงแค่การมีสินค้าที่ครบครัน แต่คือ การทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจว่าสินค้าเราไปตอบโจทย์ชีวิตประจำวันได้จริง และรู้สึกมั่นใจทุกครั้งที่เลือกโฮมโปร”

ช้อปถูกทุกวันที่โฮมโปร กับแคมเปญ Every Day Low Price

เพียงมองหาป้าย “Every Day Low Price” ที่สาขาทั่วประเทศ หรือเลือกช้อปผ่านออนไลน์ ที่ https://hmpro.me/45A235Y หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1284

#EveryDayLowPrice #โฮมโปร #HomePro #BetterLivingเพื่อชีวิตที่ดีกว่า #homepropr

Crystal Home เปิดตัว “THG Paris” และ “Composit” แบรนด์หรูจากฝรั่งเศสและอิตาลี สะท้อนนิยามใหม่แห่งศิลปะการใช้ชีวิต

คริสตัล โฮม (Crystal Home) เปิดตัวสองแบรนด์ชั้นนำระดับโลกผ่านคอนเซ็ปต์ Art Salon ในงาน “The Craft of Living Salon – An Unveiling of Design You Can Feel” ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา — ทั้ง THG Paris แบรนด์ไอคอนิกจากฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยก๊อกน้ำระดับตำนานและการร่วมงานกับ Baccarat, Lalique, Daum และ Christofleผสมผสานศิลปะกับอุปกรณ์ในห้องน้ำให้เป็นไปตามรสนิยมเฉพาะตัว และ Composit แบรนด์ครัวและตู้เสื้อผ้า Made in Italy ขึ้นชื่อด้านงานฝีมือและการปรับแต่งอย่างไร้ขีดจำกัด

นางสุทธิภา สวัสดิ์-ชูโต กรรมการบริหาร คริสตัล โฮม กล่าวว่า “คริสตัล โฮมมองไกลกว่าฟังก์ชันของสินค้า เราต้องการให้ทุกพื้นที่ใช้งานในบ้านสะท้อนให้เห็นถึงความชอบและสิ่งที่ผู้ใช้งานหลงใหล (passion) ที่จะสร้างบรรยากาศให้เจ้าของบ้านมีความสุขกับทุกมุมของบ้านตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องครัว หรือแม้แต่ตู้เสื้อผ้า ด้วย vision นี้เป็นเหตุผลสำคัญที่เราเลือก THG Paris และ Composit ซึ่งมีมุมมองเกี่ยวกับคุณค่าของสินค้าในแบบเดียวกัน ไม่ว่าเป็นทั้งงานฝีมือประณีต (craftsmanship) ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง (customization) และการแสดงออกเชิงศิลปะ (artistic expression) เพื่อให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนพื้นที่ในชีวิตประจำวันให้เป็นภาพสะท้อนของ ‘ตัวตน’ ได้อย่างลึกซึ้ง”

งาน The Craft of Living Salon ครั้งนี้ คริสตัล โฮม ได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ฯพณฯ ฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ และเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เข้าร่วมงาน สะท้อนให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างศิลป์ ดีไซน์ นวัตกรรม และคุณค่าทางวัฒนธรรมร่วมกัน ให้นักออกแบบไทยได้สัมผัสงานฝีมือ เทคนิค และแรงบันดาลใจจากยุโรปในอีกแง่มุมหนึ่ง พร้อมโอกาสนำความคิดสร้างสรรค์แบบไทยมาตีความและต่อยอดอย่างไม่จำกัด การเปิดตัวครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การจัดแสดงสินค้า แต่เป็นการเข้าถึงความหมายของงานดีไซน์ในแบบที่แต่ละบุคคลสัมผัสและตีความได้

ภายในงาน คริสตัล โฮม สร้างสรรค์นิทรรศการที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมดื่มด่ำประสบการณ์ศิลป์และการออกแบบอย่างครบมิติ ผ่านสายตา เสียง กลิ่น รส และสัมผัส ถ่ายทอดแรงบันดาลใจเบื้องหลังแบรนด์ THG Paris และ Composit อย่างละเอียดในทุกมุมของ Concept Store

THG Paris — French Icons for Design-Led Living แบรนด์ที่สะท้อนความงดงามและความประณีตของศิลปะฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบ ผ่านการปรับแต่งวัสดุ พื้นผิว โทนสี รูปทรง และขนาด จนทุกชิ้นงานกลายเป็นผลงานศิลป์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร คุณ อิริค บูลอน ผู้บริหารแบรนด์กล่าวว่า “สำหรับ THG Paris เรามุ่งคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรให้ทุกองค์ประกอบของห้องน้ำกลายเป็นงานศิลป์ที่ใช้งานได้จริง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราให้ความสำคัญกับงานฝีมือประณีตและการเลือกใช้วัสดุล้ำค่า ไม่ว่าจะเป็น แก้วเจียระไน คริสตัล หินอ่อน หรือหินอัญมณีเพื่อให้ทุกชิ้นงานตอบโจทย์ทั้งรสนิยมและอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง”

เริ่มต้นกับ ZOOM Collection ตีความแรงบันดาลใจจาก “เลนส์กล้อง” สู่ดีเทลก๊อกน้ำวงแหวนคู่ ที่เล่นกับพื้นผิวเงา–ด้าน สร้างจังหวะระหว่างความนิ่งและการเคลื่อนไหว แนวคิดนี้ยังต่อยอดสู่ Zoom Photo Exhibition โดย ชัช–ชัชวาล จันทโชติบุตร Leica Ambassador ถ่ายทอดเสน่ห์ของการ “โฟกัส” เบื้องหลังภาพถ่ายและแรงบันดาลใจของคอลเลกชัน พร้อมสะท้อนแนวคิด “Living becomes art” ที่เน้นอารมณ์และความรู้สึกของภาพมากกว่าความงามเพียงอย่างเดียว

ถัดมาที่ ICON‑X Collection เกิดจากความร่วมมือระหว่าง THG Paris และ Studio F. A. Porsche ผสานอย่างลงตัวระหว่างฟอร์มและฟังก์ชัน ทำให้ดีไซน์ไม่ใช่เพียงความงดงาม แต่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง สะท้อนบุคลิกนิ่ง สุขุม และทรงพลัง คอลเลกชันนี้ยังได้รับการยอมรับระดับสากลด้วย Red Dot Design Award 2021 สาขา Product Design พร้อมถอดรหัสมิติรสนิยมผ่าน art talk กับ เต้น–สีหบุตร ชุมสาย ณ อยุธยา ว่าด้วยภาษาดีไซน์และรสนิยมที่สะท้อนตัวตนของนักสะสม

สำหรับ YOKO Collection คอลเลกชันร่วมสมัยที่ออกแบบให้ผู้ใช้สามารถ Mix & Match วัสดุได้อย่างอิสระ ตั้งแต่โลหะ แก้ว ไปจนถึงหินอ่อน พร้อม Yoko Design & Material Bar ที่ชวนให้สัมผัสวัสดุจริง มองเห็นทันทีว่าการเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยสามารถปรับ Mood ของทั้งห้องได้อย่างชัดเจน

ต่อมา CLUB SAINT-GERMAIN ก๊อกน้ำและแอคเซสซอรีที่ถ่ายทอดบรรยากาศย่าน Saint-Germain-des-Prés โลกของแจ๊ส คาเฟ่ และบทกวี มาสู่ห้องน้ำร่วมสมัย ผ่านเส้นสายคลาสสิกที่สะท้อนเสน่ห์เรโทรปารีส พร้อมกลิ่นอายโรแมนติกแบบปารีเซียง จาก Scent Collaboration กับ เฟิร์ส–อชิตพล พานทอง (Ashram Scent) ออกแบบกลิ่นเฉพาะ เพื่อเชื่อมประสบการณ์การดมกลิ่นกับดีไซน์อย่างลงตัว

และ MILLE NUITS งานออกแบบที่โดดเด่นด้วยด้ามจับก๊อกน้ำที่ทำจากคริสตัล Baccarat ขนาดใหญ่ มีให้เลือกถึง 3 เฉด Clear, Brume และ Champagne คอลเลกชันนี้ได้แรงบันดาลใจจากโคมไฟ Baccarat ที่เราคุ้นตา ต่อยอดสู่แก้ว แจกัน และก๊อกน้ำซึ่งเป็นผลงานร่วมกับ THG Paris เปิดตัวครั้งแรกที่ Milan Design Week และ Salone del Mobile 2025 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ในฝั่งของ Composit — Crafted in Italy, Built Around You. แบรนด์ครัวและตู้เสื้อผ้า 100% Made in Italy ที่ยืนหยัดบนงานฝีมือกว่า 50 ปี ปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ในงานเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนเสน่ห์ของครัวอิตาลีที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริง ด้วยประสบการณ์แบบ Aperitivo Experience โดย Chef Marco จากร้าน La Bottega ที่มารังสรรค์เมนูสดใหม่ภายในครัว Composit ให้เห็นถึงสมดุลระหว่างความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวัน

คอลเลกชันเด่นของ Composit ถ่ายทอดเอกลักษณ์ผ่านหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ตระกูล Timeless Style อย่าง Linea และ Céline ที่ผสมผสานวัสดุไม้–หิน–กระจกกรอบโลหะ และโทนสีที่สงบแต่ทรงพลัง ไปจนถึงซีรีส์ Touch ในแนว Modern Style ที่เรียบสะอาดแบบ monobloc look พร้อมระบบ push-to-open และการจัดเก็บโมดูลาร์ ขณะที่คุณ อันเดร ซอเจนเต้ ผู้บริหารแบรนด์กล่าวย้ำว่า “Composit ออกแบบทุกชิ้นงานโดยยึดจากชีวิตจริงของผู้ใช้ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความงามที่สร้างแรงบันดาลใจกับฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ ทำให้ทุกชิ้นงานไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่สะท้อนสไตล์และรสนิยมของเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง”

“คริสตัล โฮม ตั้งใจมอบประสบการณ์ที่เชื้อเชิญให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสคุณค่าของการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง และอยากเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ทุกคนเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ งานฝีมือ หรือความหรูหรา สามารถเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัวผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็น ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ห้องน้ำลักชัวรีจากฝรั่งเศส และครัวกับตู้เสื้อผ้า Made in Italy ที่เผยให้เห็นถึงความประณีตและเรื่องราวเบื้องหลังแต่ละชิ้นงานอย่างใกล้ชิด และหวังว่างานครั้งนี้จะทำให้ทุกคนได้ค้นพบว่า ความหรูหราแท้จริงคือการเลือกสิ่งที่ใช่ เพื่อสะท้อนตัวตน และออกแบบคุณภาพชีวิตที่ดีงามในแบบของตนเองได้อย่างสง่างามและเป็นอิสระ” คุณสุทธิภา สวัสดิ์-ชูโต กล่าวทิ้งท้าย

ชวนสัมผัส ‘The Craft of Living Salon’ งานฝีมือจากฝรั่งเศส–อิตาลี เพื่อค้นหาและนิยามความหรูหราในแบบของคุณเอง ที่ Crystal Home Concept Store (CDC ตึก D) ตั้งแต่ 19 กันยายน – 19 ตุลาคม 2568 นี้ สามารถติดต่อเพื่อนัดหมายเข้าชมโชว์รูมได้ที่ 02-101-5123

https://bit.ly/_CrystalHomeLineOA
https://bit.ly/_CrystalHomeWebsite
https://bit.ly/_CrystalHomeFacebook
https://bit.ly/_CrystalHomeIG

#crystalhomebkk #luxuryliving #Italydesign #Frenchdesign #craft #curated #home #bathroom #kitchen #wardrobe #walkincloset #artsalon #TheCraftofLiving #THGparis #Composit #CDC