“Sewa” กลับมาแล้ว! เปิดตัว “เจนเย่” นั่งแท่นพรีเซนเตอร์คนใหม่ กรี๊ดห้างแตก รีแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่-ขนทัพซุปตาร์ตอกย้ำความปัง

กรี๊ดห้างแทบแตก เมื่อแบรนด์สกินแคร์สัญชาติไทย “เซวา” (Sewa) ที่อยู่เคียงข้างผู้หญิงไทยมากว่า 9 ปี กลับมาทวงบัลลังก์ความปัง จัดงานสุดยิ่งใหญ่ “Sewa Glow Reborn – Awaken Your Skin’s Power”  สื่อถึงการเกิดใหม่ทั้งในมิติของผิวและจิตวิญญาณของแบรนด์ พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ “เจนเย่–เมธิกา จีรนรภัทร” นักแสดงลูกครึ่งไทยไต้หวัน สุดฮอตไอคอนของผู้หญิงยุคใหม่ที่สวย ฉลาด มีพลังจากภายใน มาพร้อมเสน่ห์เหลือล้นแบบเกินต้าน ท่ามกลางแฟนคลับที่มาให้กำลังใจแน่น เซ็นทรัล พาร์ค ห้างเปิดใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ งานนี้บอกเลยว่ามีเซอร์ไพรส์จัดเต็มตลอดงาน

เปิดตัวฮือฮาด้วย TVC โฆษณาล่าสุดของ Sewa ภายใต้คอนเซ็ปส์ “Glow Reborn” เจนเย่พาผู้ชมเดินทางจากเกาหลีสู่ไทย ผ่านภารกิจแบบส่งด่วน ทั้งกระโดดลงจากเครื่องบิน สวมบทไบค์เกอร์ ซิ่งรถซูเปอร์คาร์ แต่ก็ยังสวยเปล่งประกายทุกช็อตจนเป็นไวรัล สะท้อนภาพลักษณ์ของความมั่นใจ และฟื้นคืนพลังของผิวและจิตใจให้กลับมาสดใสอีกครั้ง ก่อนที่เจนเย่จะปรากฎตัวเรียกแสงแฟลซบนเวทีในฐานะพรีเซนเตอร์คนใหม่ของ Sewa

งานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณปุ๊ก-เบญจกิติ เมฆแสน CEO และผู้ก่อตั้งแบรนด์ Sewa แท็กทีมซุปตาร์แถวหน้าเมืองไทย อาทิ มดดำ-คชาภา ตันเจริญ, หนิง-ปณิตา พัฒนาหิรัญ, มิ้นท์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง, มุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์, แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์, น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์, มิลลี่-คามิลล่า กิตติวัฒน์, น้ำหนึ่ง-มิลิญ วาทินธนะกิจหญิง-อาณดา ประกอบกิจ, ออม-ปุณยวีร์ จึงเจริญ, เซย่า ทองเจือ,ซาร่า คาซิงกินีและ เนโกะ-พันดาว-เชลลี่            จาก Roller Coaster The Series ร่วมด้วยบิวตี้บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และ KOL ชื่อดัง สายป่าน-จิรพร (Sp Saypan),        อายตา-ศรสวรรค์(Eyeta), แอมมี่-กิตติยา(Amy Kitiya), ฮิปโปติส(hypesompobbk), เบลล์ พิชิตชัย  (Somethingjinglebell), แก้ว-หัทยา(Lifestylehattaya70), หยกทอง-จิตราพรรณ(Yok_jittraphan) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสกินแคร์และผิวหนัง พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์ (พี่ออยพาสวย) ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมีตแอนด์กรี๊ดใกล้ชิดกับคู่จิ้นสุดฮอต เติ้ล-มติมันท์ ศรีบุญเรือง และ เฟิร์สวัน-วรรณกร เรืองรัตน์ ที่มาเสิร์ฟความฟินแบบไม่มียั้ง โดยมี ดีเจดาว-ณัฐภัสสร สิมะเสถียร รับหน้าที่พิธีกรสร้างสีสันตลอดงาน

เจนเย่ – เมธิกา จีรนรภัทร พรีเซนเตอร์คนใหม่ของ Sewa กล่าวถึงการร่วมงานครั้งนี้ว่า “เจนดีใจมาก ๆ ที่ได้ร่วมงานกับ Sewa  ยิ่งถ่ายทำโฆษณารู้เลยว่าแคมเปญนี้มันจะต้องพิเศษมาก ๆ เราอินกับคอนเซ็ปต์มาก ทีมงานก็ผลักไอเดียให้ไปสุด ทำให้ทุกซีนมันออกมาเป็นความสวยที่มีพลังและมั่นใจในตัวเองแบบ Glow Reborn และต้องบอกว่าตั้งแต่ได้ใช้ Sewa เจนรู้สึกเลยว่าผิวกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง เหมือนผิวฟื้นตัวจากข้างใน ผิวแข็งแรงตั้งแต่จากระดับเซลล์จริง ๆค่ะ”

คุณปุ๊ก เบญจกิติ เมฆแสน  CEO แบรนด์ Sewa กล่าวถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังการรีแบรนด์ครั้งนี้ว่า “เราอยากให้ Sewa ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์สกินแคร์ทั่วไป แต่เป็นแบรนด์ที่เข้าใจผู้หญิงในทุกมิติของชีวิต เพราะผู้หญิงยุคนี้ต้องการมากกว่าความสวยภายนอก แต่ยังต้องการผิวที่แข็งแรงและความมั่นใจจากภายในด้วย เราจึงผสานพลังของธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ไว้ในทุกขั้นตอนของการพัฒนา เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัส ‘การเกิดใหม่ของผิว’ ที่แท้จริง ทั้งในความรู้สึกและผลลัพธ์ที่สามารถพิสูจน์ได้”

ทั้งนี้บรรยากาศภายในงานถูกออกแบบ และถ่ายทอดแนวคิด “Cell to Cell Recovery” — นวัตกรรม Cellxosome™ ที่เปรียบเสมือน “AI อัจฉริยะของผิว” ทำหน้าที่ สแกน วิเคราะห์ และส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวฟื้นฟูตัวเองได้อย่างแม่นยำ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมาให้ความรู้ถึงนวัตกรรม Cellxosome™ และ NAD+ ที่มีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นฟูเซลล์ผิวในเชิงลึกอย่างใกล้ชิด และยังเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้ทดลอง texture น้ำตบ AI ตัวใหม่ รวมถึงมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกภายในงาน พร้อมของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก Sewa นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวเอสเซนส์ 2 สูตรใหม่ล่าสุดจากเกาหลีใต้ ที่สื่อถึง “การดูแลผิวลึกถึงระดับเซลล์” ระหว่าง ความแข็งแรงของผิว และ ความเปล่งประกายที่เป็นธรรมชาติ ได้แก่ Sewa Ultimate Recovery Treatment Essence (ขวดแดง) ให้ผิวแน่น กระชับ และดูอิ่มฟูตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ด้วยพลังจาก Red Ginseng, Cellxosome™, และ NAD+ ที่ช่วยซ่อมแซมผิวระดับ DNA เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง และ Sewa Brightening Treatment Essence (ขวดขาว)เพื่อผิวกระจ่างใส เปล่งประกาย สุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยพลังของ Saccharomyces Ferment, Niacinamide, และสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยปลอบประโลม เติมความชุ่มชื้น และปรับสมดุลผิวให้เรียบเนียน”

ติดตามเรื่องราวของ Sewa Glow Reborn และแนวคิดนวัตกรรม Cell to Cell Recovery ได้ที่ Instagram, Facebook และ TikTok : @SewaThailand#SewaGlowReborn #SewaThailand #AwakenYourSkinsPower #CelltoCellRecovery #SEWAxTleFirstone

“เบลล่า ราณี” งามสง่า ออร่าพุ่ง! ใน KUMA 8th ANNIVERSARY THE INFINITY OF DREAMS ครบรอบ 8 ปี แบรนด์คุมะ พร้อมมอบรางวัลกับลูกค้าผู้โชคดี

ปรากฏตัวด้วยความน่ารักสดใสนางเอกสาวสวยมากความสามารถ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” ในฐานะพรีเซนเตอร์ 4 ปีซ้อนของแบรนด์คุมะ (KUMA) ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมียอดจำหน่ายแล้วกว่า 130 ล้านชิ้น ในงาน KUMA 8th ANNIVERSARY พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวความพิเศษผ่านธีม THE INFINITY OF DREAMS: Endless Dreams, Infinite Possibilities โลกแห่งความฝันที่ไร้ขีดจำกัด
เบลล่า-ราณี แคมเปน กล่าวว่า “รู้สึกอบอุ่นในการเป็นสมาชิกครอบครัว คุมะ ปีที่ 4 ได้เห็นการเติบโตขึ้นของแบรนด์ในทุกปีและปีนี้จัดงานฉลองครบรอบปีที่ 8 ก็ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จและขออวยพรให้มีลูกค้าและยอดขายเพิ่มขึ้นเยอะๆ ซึ่งตัวเองก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้จริง หลายผลิตภัณฑ์ของคุมะคือมีคุณภาพ ชอบที่กลิ่นหอมด้วย แล้วก็ดูแลผิวแพ้ง่ายได้ดี ชอบมาก สะดวกเวลาใช้และในงานวันนี้ก็มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม Kuma Premium Soft Baby Tender และ Kuma Premium Soft Hanging Tissue ทิชชู่พรีเมี่ยมที่มีความนุ่มพิเศษสำหรับแม่และเด็ก รวมถึงทุกคนที่ต้องการผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดหน้าที่มีความอ่อนโยน นุ่มนวล ไม่ระคายเคืองผิว อยากให้ได้ทดลองใช้กัน”

ล่าสุดปีนี้เบลเองได้มีโอกาสร่วมลงทุนธุรกิจกับทางคุมะ ประเทศไทย เปิดตัวแบรนด์ Masis ในความตั้งใจมอบสิ่งที่ดีเป็นของขวัญจาก Bella ให้กับ My sis ทุกคน ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ผ้าอนามัยแบบกางเกงใน 𝗨𝗹𝘁𝗿𝗮𝘀𝗼𝗳𝘁 𝗦𝗮𝗻𝗶𝘁𝗮𝗿𝘆 𝗣𝗮𝗻𝘁𝘀 ออกแบบมาสวยหวานสีเนื้อ ให้สัมผัสนุ่ม เรียบเนียนไปกับทุกลุค มีให้เลือก 2 ไซซ์ S–M / M–L ที่พอดีกับทุกสรีระ มีความยาวถึง 47 เซนติเมตรและยังบางเพียง 0.1 ซม. ซึมซับได้ 300 มล. ปกป้องรอบด้านทั้งกลางวัน–กลางคืน เอวกระชับ ยืดหยุ่น ใส่สบายทุกการเคลื่อนไหวในทุกกิจกรรมไม่มีสะดุด ซึ่งสินค้ามีจำหน่ายแล้ววันนี้ทางออนไลน์ที่ Shopee / TikTok Shop รวมถึงหาซื้อได้ที่ Lotus ทุกสาขา เบลล่าย้ำว่า “ผู้หญิงทุกคนคู่ควรกับการดูแลที่มั่นใจ” ขอฝากสินค้าใหม่ของเบลล่า อยากให้ติดตามเป็นกำลังใจและลองใช้กัน เชื่อว่าทุกคนจะชื่นชอบและประทับใจแน่นอน

สำหรับงาน KUMA 8th ANNIVERSARY THE INFINITY OF DREAMS ในโอกาสครบรอบ 8 ปี บริษัท คุมะ(ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษเช็ดทำความสะอาด หลากหลายประเภท เช่น ทิชชู่เช็ดหน้าพรีเมียม ทิชชู่เปียก ทิชชู่แห้งอเนกประสงค์ ภายใต้แบรนด์คุมะ (KUMA) ซึ่งมีความมุ่งมั่นจะเป็นแบรนด์คุณภาพ มอบคุ้มค่าคุ้มราคา ตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลาย ภายในงานอัดแน่นด้วยกิจกรรมแทนคำขอบคุณ เชิญชวนลูกค้าร่วมเฉลิมฉลองและสนุกกับเกมกิจกรรมแลกรับของรางวัลพิเศษตลอดการจัดงานในวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00- 22.00 น.ณ ลานกิจกรรมโซน Eden1 เซ็นทรัลเวิล์ด ซึ่งได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมงานตลอดทั้งวันจำนวนมาก

ครั้งแรกในไทย! การท่องเที่ยวมาเก๊าเปิดตัวแคมเปญท่องเที่ยวออนไลน์เต็มรูปแบบ“Macao Wonder Fest 2025” ใจกลางกรุงเทพฯ รวมดีลสุดพิเศษถึง 15 พ.ย.นี้ ยกประสบการณ์มหัศจรรย์แห่งมาเก๊า พร้อม Pop-Up Event และดีลสุดคุ้มจากพันธมิตรท่องเที่ยวชั้นนำ ที่ EM Station

การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย (Macao Government Tourism Office Representative in Thailand) ชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่กับ “Macao Wonder Fest 2025” แคมเปญท่องเที่ยวในรูปแบบ Hybrid Campaign ครั้งแรกในประเทศไทยที่ผสมผสานกิจกรรมออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ภายใต้แนวคิด “Wonder Deals, Wonder Moments – ทุกความสุขเริ่มต้นที่มาเก๊า” เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยสู่มาเก๊าในช่วงปลายปี 2568 และตอกย้ำเสน่ห์ของมาเก๊าในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งวัฒนธรรม ความบันเทิง และความสนุกสนาน ที่พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ให้ค้นหาไม่รู้จบ ประเดิมด้วย Online Travel Fair ครั้งแรกในไทย รวมดีลแรงที่สุดแห่งปี

ครั้งแรก! การท่องเที่ยวมาเก๊าจัด แคมเปญท่องเที่ยวออนไลน์สุดยิ่งใหญ่จากมาเก๊า (Online Travel Fair) กับMacao Wonder Fest 2025” ที่รวบรวมดีลและโปรโมชันสุดพิเศษจากพันธมิตรท่องเที่ยวชั้นนำของไทย อาทิ สายการบิน Air Macau, Thai Lion Air, AirAsia, ผู้ให้บริการด้านการเงินและแพลตฟอร์มการจอง TrueMoney, Klook, KTC, และ บริษัททัวร์ชั้นนำอย่าง DhakulChan, Mileage Air & Travel และ BokBoon Delivery มอบความครบครันให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกจองทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพ็กเกจทัวร์และกิจกรรมเที่ยวในมาเก๊า ได้ในราคาสุดพิเศษ ตลอด 15 วันของการจัดงาน ผ่านช่องทางหน้าเว็บไซต์ www.macaotourismth.com และพันธมิตรที่ร่วมรายการ

พิเศษ! เมื่อจองและชำระภายในวันที่ 1–15 พฤศจิกายน 2568 และเดินทางภายในวันที่ 31 มกราคม 2569  รับ e-Voucher มูลค่าสูงสุดถึง 1,500 บาท* สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ www.macaotourismth.com จำนวนจำกัด 200 รางวัล (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

Macao Wonder Fest Pop-Up Event ยกบรรยากาศและสีสันแห่งมาเก๊ามาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ

เติมเต็มประสบการณ์แบบออฟไลน์การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย จัดกิจกรรม Macao Wonder Fest Pop-Up Event” ระหว่างวันที่ 4-11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10:30 – 19:30 น. ณ EM Station (บริเวณทางเชื่อมบีทีเอสพร้อมพงษ์ พื้นที่ระหว่างศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์)

ภายในงานพบบรรยากาศสุดคึกคักในธีม Macao Wonder Festive ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของมาเก๊าในฤดูแห่งการท่องเที่ยว พร้อมกิจกรรมหลากหลายให้ได้ร่วมสนุกและสัมผัสเสน่ห์ของมาเก๊าอย่างใกล้ชิด อาทิ

  •  Shake for Luck – เสี่ยงโชคกับเซียมซีดิจิทัลสุดล้ำ พร้อมรับของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “แผ่นการ์ดทองมงคลดีไซน์น้อง Mak Mak” จำนวนจำกัดเพียง 2,000 ชิ้นเฉพาะงานนี้เท่านั้น (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
  • Travel Partner Promotion Zone – พบข้อเสนอและส่วนลดสุดพิเศษจากสายการบิน บริษัทนำเที่ยว และ
    พาร์ทเนอร์ท่องเที่ยวชั้นนำ พร้อมจองแพ็กเกจได้ทันทีในงาน เอาใจแฟนตัวยง! รับVoucher แทนเงินสด มูลค่า 500 บาท สำหรับผู้ที่ถือตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-มาเก๊า ที่มีเที่ยวเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง

    31 ธันวาคม 2568 เพียงแสดงตั๋วเครื่องบินหรือหลักฐานการจอง หน้าบูธ จำนวนจำกัด 200 รางวัล (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
  • Photo Zone – โซนถ่ายภาพสุดเก๋ให้ผู้ร่วมงานได้มาสนุกกับการโพสท่าถ่ายรูป เช็คอิน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขจากมาเก๊าอย่างใกล้ชิดภายในบูธ พร้อมทั้งสะท้อนภาพลักษณ์แห่งความสนุกสนานและมีชีวิตชีวาของมาเก๊า

“Macao Wonder Fest 2025” ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญสำคัญที่ตอกย้ำการท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทยในบทบาทผู้นำด้านการตลาดท่องเที่ยวเชิงนวัตกรรม ผ่านกลยุทธ์ Omni-Channel Marketing ที่ผสานโลกดิจิทัลและประสบการณ์จริงเข้าด้วยกัน เพื่อกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ผ่านการสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยออกเดินทางไปสัมผัส “มหัศจรรย์แห่งมาเก๊า” ด้วยตัวเอง

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและกิจกรรมสนุก ๆ ของการท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย

ได้ที่  Website : https://www.macaotourismth.com/

Facebook : https://www.facebook.com/th.macaotourism

#MacaoWonderFest2025 #ExperienceMacao #มามะมาเก๊า #Macao2025 #Macaoมหาสนุก #Macaoมหาคุ้ม

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ รวมพลังภาครัฐ-เอกชน-องค์กรวิชาชีพ จัดกิจกรรม “World Pneumonia Day 2025 : Stop Pneumonia, Save Lives” ในวันปอดอักเสบสากล

ปอดอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กไทย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา แต่เชื้อที่
น่ากังวลที่สุดชนิดหนึ่งคือเชื้อนิวโมคอคคัส ที่ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบรุนแรง และโรคแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด หรือหูหนวกถาวร

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จึงร่วมกับ มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน กรมควบคุมโรค ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย จัดงาน World Pneumonia Day 2025 –  Stop Pneumonia, Save Lives เด็กไทยต้องปลอดภัยจากโรคร้ายที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน” เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ถึงความรุนแรงของโรคปอดอักเสบและความสำคัญของการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบในเด็กเล็ก เพื่อให้ “ทุกลมหายใจของเด็กไทย” เติบโตไปอย่างปลอดภัยและแข็งแรง และไม่ต้องเสี่ยงกับโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เนื่องในวันปอดอักเสบสากล ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00-12.00น. ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 อาคารปฏิบัติการวิทยุโทรทัศน์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

โดยภายในงาน มีการแถลงข่าวหัวข้อ: “สถานการณ์ปอดอักเสบในเด็กไทยและความท้าทาย” พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการผลักดันให้เด็กไทยทุกคนได้รับการปกป้องด้วยวัคซีนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดย มี รศ.พล.ต.หญิง พญ.ฤดีวิไล สามโกเศศ ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และนายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ศ. พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย รศ.นพ.กำธร  มาลาธรรม กรรมการมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ พญ.สุเนตร ชื่นกิจมงคล รองผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าว

นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาพิเศษ ในหัวข้อ Every Breath Matters: ทางออกเพื่อปกป้องลมหายใจเด็กไทย” โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะมาถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การรักษาโรคปอดอักเสบในเด็ก ได้แก่ นพ.ทรงเกียรติ อุดมพรวัฒนะ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลพุทธชินราช และเจ้าของเพจ Facebook: Infectious ง่ายนิดเดียว พญ.อรุณี กลิ่นกล่อม กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี รศ.พิเศษ พญ.วารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กุมารแพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ สถาบันสุขภาพเด็กเเห่งชาติมหาราชินี และพญ.ปิยดา อังศุวัชรา นายแพทย์ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ดำเนินรายการโดย คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

ขอเชิญผู้สนใจร่วมรับชมการถ่ายทอดสดพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลาเวลา 09.00-12.00 น. ผ่านทาง Facebook Live : สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และเครือข่าย

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ “ทุกลมหายใจของเด็กไทย” เติบโตไปอย่างปลอดภัยและแข็งแรง และไม่ต้องเสี่ยงกับโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

เตรียมช้อปให้พร้อม! realme 11.11 Mega Deals แจกคูปองสุดคุ้มพร้อมลุ้น Mystery Box เซอร์ไพรส์ส่งท้ายท้ายปี 2025 ที่แฟน ๆ ห้ามพลาด

กรุงเทพฯ 11 พฤศจิกายน 2568 – realme แบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ชวนแฟน ๆ เตรียมปลด
ล็อกความคุ้มแบบจัดเต็มในมหกรรมช้อปครั้งใหญ่ส่งท้ายปี กับแคมเปญ “11.11 Mega Deals Real Reward Await” ที่อัดโปรแรงด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 15% พร้อมสิทธิพิเศษมากมายสำหรับแฟน realme ทั่วประเทศ งานนี้ใครเล็งรุ่นไหนไว้…เตรียมกดเก็บคูปอง แล้วช้อปให้สุด

แคมเปญ “11.11 Mega Deals Real Reward Await” จัดเต็มระหว่างวันที่ 10 – 13 พฤศจิกายน แฟน ๆ สามารถกดเก็บโค้ดส่วนลดได้บนทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของ realme ก่อนเลือกช้อปสมาร์ตโฟนและแกดเจ็ตดีไซน์ล้ำในราคาสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นยอดนิยม realme 15 Series สายแรงสเปกโหดจาก realme GT Series หรืออุปกรณ์เสริมสุดฮิตอีกหลากหลาย ที่พร้อมอัปเกรดไลฟ์สไตล์ให้สนุกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกวัน

เปิดกล่องลุ้นโชค 11.11 Mystery Box Freegift รับโค้ดส่วนลดสุดพิเศษ

ในแคมเปญครั้งนี้ realme ยังเพิ่มความสนุกด้วยกิจกรรม “11.11 Mystery Box Freegift” ที่มาพร้อมเซอร์ไพรส์ให้แฟน ๆ ได้ลุ้นกันแบบจัดเต็ม ภายในกล่องลึกลับอาจมีหนึ่งในดีลสุดฮอตแห่งปีซ่อนอยู่! โดยแฟน ๆ เรียลมีสามารถร่วมสนุกได้ง่าย ๆ เพียงร่วมสนุกโดยคอมเมนต์ใต้โพสต์กิจกรรมบนเพจ realme Thailand (ลิงก์กิจกรรม : https://www.facebook.com/share/p/17NYYHEEqP/) พร้อมบอกชื่อสินค้าจากเรียลมี ที่คุณอยากได้มากที่สุดในแคมเปญ 11.11 พร้อมเหตุผลสั้น ๆ เพื่อร่วมลุ้นรับของขวัญสุดพิเศษ

  • ลุ้นรับ Voucher มูลค่า 1,500 บาท เมื่อสั่งซื้อครบ 15,000 บาท
  • ลุ้นรับ Voucher มูลค่า 1,111 บาท เมื่อสั่งซื้อครบ 6,000 บาท
  • ลุ้นรับ Voucher มูลค่า 111 บาท ไม่มีขั้นต่ำ

โดยจะประกาศผลผู้โชคดีจำนวน 20 คน ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 และสำหรับโค้ดส่วนลดพิเศษ จะสามารถใช้ได้เฉพาะวันที่ 12–15 พฤศจิกายนเท่านั้น

อย่าพลาดโอกาสช้อปสุดคุ้มส่งท้ายปีจาก realme ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนช่องทางออนไลน์ของ realme ทุกแพลตฟอร์ม เพื่อไม่ให้พลาดทุกดีลและทุกเซอร์ไพรส์

Facebook: (https://www.facebook.com/realmeTH)

Instagram: (https://www.instagram.com/realme_thailand)

Tiktok: (https://www.tiktok.com/@realme_thailand)

Twitter: (https://twitter.com/realmeTH)

Youtube: (https://www.youtube.com/@realmeThailandTH)

N.C.C. ตอกย้ำผู้นำผู้จัดงานสัตว์เลี้ยงของไทย ลุยจัด Cat Expo Thailandมหกรรมสินค้าแมวสุดยิ่งใหญ่รับกระแส”เศรษฐกิจแมว” โต

N.C.C. จัดเตรียมงาน Cat Expo Thailand 2025 มหกรรมสินค้าเกี่ยวกับแมวใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตอบรับกระแสคนรักแมวที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ผู้จัดงานสัตว์เลี้ยงของไทย ระดมผู้ประกอบการกว่า 125 บริษัท มากกว่า 250 บูท นำนวัตกรรมสินค้าและบริการที่ตอบสนองทุกความต้องการสำหรับคนรักแมวจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษ ภายในงานอีกมากมาย ปักหมุด 5 – 7 ธ.ค. 2568 ฮอลล์ 6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นี้

นางสาวพีรพรรณ อังคสุโข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากประสบการณ์การจัดงาน “Pet Expo Thailand” ของ N.C.C. ที่ยาวนานกว่า 25 ปี ส่งผลให้ “Pet Expo Thailand” กลายเป็นมหกรรมการจัดแสดงสินค้าด้านสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่สุดในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี กลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่ผู้รักสัตว์เลี้ยงจะต้องเข้ามาร่วมในทุกครั้ง เพื่อที่จะเกาะติดสินค้า อาหาร และบริการ ด้านสัตว์เลี้ยงใหม่ ๆ และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น จากการยกระดับสัตว์เลี้ยงไปเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ส่งผลให้มูลค่าตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งจากการวิจัยของ ttb analytics คาดมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงไทยปี 2568 ขยายตัว 13.2% แตะ 9.2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะทะลุ 1 แสนล้านในปี 2569

          นอกจากนี้ จากการสำรวจแนวโน้มของธุรกิจสัตว์เลี้ยงของไทย พบว่ามีความนิยมในการเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง เนื่องจากใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย ไม่ส่งเสียงดัง และดูแลได้ง่าย จึงเหมาะกับการเลี้ยงในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด โดยจากผลการศึกษาของศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ในปัจจุบันความนิยมเลี้ยงแมวมีมากขึ้น โดยช่วงปี 2564-2567 จำนวนแมวคนเลี้ยงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 28% ต่อปี เทียบกับอัตราการเติบโตของสุนัขที่ 19% ต่อปี

          โดย การสำรวจของ CRC VoiceShare พบว่า แม้ผู้เลี้ยงแมวยังคงเป็นอันดับ 2 รองจากผู้เลี้ยงสุนัข แต่มูลค่าผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงของแมวมีสัดส่วนเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ ร้อยละ 63% ตามด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัข 31% ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่า “เศรษฐกิจแมว” มีความน่าสนใจสูง หากได้รับการสนับสนุนต่อยอดที่ดี ก็จะสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก และส่งออกสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับแมวออกไปได้ทั่วโลก ซึ่งตลาดผู้เลี้ยงแมวก็เติบโตในอัตราสูงเช่นกัน

โดย ผลการสำรวจเหล่านี้ สอดคล้องกับประสบการณ์การจัดงาน “Pet Expo Thailand” ของ N.C.C. ซึ่งเป็นมหกรรมสัตว์เลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ และอาเซียน ที่ได้จัดต่อเนื่องมายาวนานกว่า 25 ปี ซึ่งพบว่า สัดส่วนผู้จัดแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับแมว มีจำนวนเพิ่มขึ้นปีละ10%  และมียอดขายในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแมวเพิ่มขึ้นทุกปี

          จากการเติบโตของ “เศรษฐกิจแมว” ดังที่กล่าวมาขั้นต้น N.C.C จึงได้จัดงาน Cat Expo Thailand 2025 ซึ่งเป็นมหกรรมสินค้าและบริการสำหรับแมวที่ใหญ่ที่สุดของไทย ต่อยอดจากความสำเร็จของ Pet Expo Thailand ที่เป็นงานแสดงสินค้าสัตว์เลี้ยงใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งงาน Cat Expo Thailand 2025 นี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5 – 7 ธ.ค. 2568 ฮอลล์ 6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  

          โดย ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าอาหารและขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์อาบน้ำสำหรับแมว เสื้อผ้าสำหรับแมว โรงแรมสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์ เวชภัณฑ์สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์สำหรับแมวว จากผู้ผลิตชั้นนำทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ การจัดแสดงนวัตกรรมสำหรับแมว การบริการและการตรวจรักษาแมวจากโรงพยาบาลสัตว์ชั้นนำ เป็นต้น รวมทั้งยังมีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เจ้าของและแมวได้ร่วมเล่นเกม เช่น เกมอุโมงค์หรรษา , เหมียวนักตบ , โยคะกับเหมียว , เหมียวหม่ำ ๆ , เหมียวมุดถุง และอีกมากมาย ซึ่งจะมาสร้างความสนุกสนานเฮฮาให้กับน้องแมวและเจ้าของอย่างเต็มที่

สำหรับการจัดงาน Cat Expo Thailand 2025 ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นมหกรรมสินค้าและบริการสำหรับแมวใหญ่ที่สุดของเมืองไทย โดยมีพื้นที่จัดงานถึง 6,000 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการกว่า 125 บริษัท มากกว่า 250 บูท มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์ที่สำคัญ เช่น การประกวดแมวลายฟ้าประทาน ที่เปิดให้แมวทุกสายพันธุ์สามารถเข้าร่วมได้ โดยจะต้องมีลวดลายที่โดดเด่น เช่น ลายเสือ ลายริ้ว ลายวัว ลายแบบครึ่ง ๆ สีทูโทน สีลายดอก สีกระดองเต่า ที่ชัดเจนโดดเด่น , การประกวดแมวลายคิ้วท์ เปิดรับแมวทุกสายพันธุ์ที่มีลวดลายเด่นชัดน่ารัก เช่น มีคิ้ว มีหนวด ผมม้าเต่อ ลายหัวใจ  และการประกวดไอ้ต้าวถังแก๊ส ที่เปิดรับแมวทุกสายพันธุ์ ที่มีจุดเด่นตัวอ้วน อวบอิ่ม น่ารัก โดยแมวที่เข้าประกวดทุกตัวต้องมีสุขภาพแข็งแรง สะอาด และไม่ก้าวร้าว เจ้าของต้องดูแลความปลอดภัยตลอดการประกวด

          รวมทั้งยังมีโครงการภาพถ่ายสัตว์เลี้ยงสุดฮาแห่งปี โดยสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งจัดแสดงภาพ และจำหน่ายภาพโปสการ์ด จากภาพทีได้รับคัดเลือก เพื่อนำรายได้มอบให้กับ “กองทุนสัตว์ป่วยอนาถา” โรงพยาบาลสัตว์เกษตร และยังมีบริการถ่ายภาพ Photo Studio ให้กับเจ้าของและน้องแมวที่มาร่วมงานในครั้งนี้

          ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน Cat Expo Thailand 2025 ระหว่างวันที่ 5 – 7 ธ.ค. 2568 ฮอลล์ 6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ติดตามและสอบถามข้อมูลได้ที่ เฟสบุ๊คเพจ CatExpoClub

“เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” อัดโปรแรง “SEASON OF GIVING” เติมพลังช้อปส่งท้ายปี มอบสิทธิพิเศษรวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท รับกำลังซื้อช่วง High Season

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เดินหน้ากระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายช่วงสิ้นปี จัดโปรโมชั่นSEASON OF GIVING” ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 – 4 มกราคม 2569 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน FUNNY LITTLE MESS: SEASON OF GIVING” พร้อมมอบรางวัลและสิทธิพิเศษมากมายจากทุกหมวดหมู่ไม่ว่าจะเป็น Luxury Fashion, Fashion & Lifestyle, และ Dining รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท โปรโมชั่นนี้ยังสะท้อนกลยุทธ์ของ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ในการขับเคลื่อนกำลังซื้อของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกระตุ้นการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลปีใหม่อีกด้วย

  • FASHION & LIFESTYLE ยกระดับความสุขทุกการช้อป กับของรางวัลสุดพิเศษ
    • เพียงช้อปครบตามเงื่อนไข รับ Central Embassy Voucher และ Cash Back จากบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รวมกว่า 1,442 รางวัลตลอดรายการ ช้อปครบ 40,000 บาท รับ Central Embassy Voucher มูลค่า 1,200 บาท และ Cash Back มูลค่า 600 บาท รวมรับสูงสุด 1,800 บาท, ช้อปครบ 150,000 บาท รับ Central Embassy Voucher มูลค่า 5,000 บาท และ Cash Back มูลค่า 2,500 บาท รวมรับสูงสุด 7,500 บาท และช้อปครบ 300,000 บาท รับ Central Embassy Voucher มูลค่า 12,000 บาท และ Cash Back มูลค่า 6,000 บาท พิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน The Black, Black และ Luxe รับเพิ่ม Central Embassy Voucher มูลค่า 3,000 บาท รวมรับสูงสุด 21,000 บาท
  • พิเศษสำหรับสมาชิก CENFINITY และ The 1 Exclusive รับเพิ่ม Central Embassy Voucher มูลค่าสูงสุด 15,000 บาท สำหรับสมาชิก CENFINITY เมื่อช้อปครบ 500,000 บาท รับ Central Embassy Voucher มูลค่า 15,000 บาท และสำหรับสมาชิก The 1 Exclusive เมื่อช้อปครบ 50,000 บาท รับ Central Embassy Voucher มูลค่า 1,500 บาท
  • นอกจากนี้ยังมอบรางวัลสุดหรูให้กับลูกค้าที่มียอดช้อปสะสมสูงสุดท่านแรก ที่มียอดช้อปสะสมครบ
    60 ล้านบาทขึ้นไป จากร้านค้าในหมวด Luxury Watch & Jewellery ที่ร่วมรายการ (13 พ.ย. 68 – 1 มี.ค. 69) สัมผัสประสบการณ์ความเร้าใจระดับโลก ณ สนามใหม่สุดล้ำของ F1® รับทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เข้าชมการแข่งขัน FORMULA 1® SPANISH GRAND PRIX 2026 พร้อมสิทธิ์ Paddock Club™ เข้าถึงโซนพิเศษระดับ VIP พัก Luxury 5-Star Hotel (5 วัน / 4 คืน) และเดินทางด้วย Etihad Airways – Business Class สำหรับ 2 ท่าน รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท
  • สำหรับ Top Customer of The Week ที่มียอดช้อปสะสมครบ 3 ล้านบาทขึ้นไป จากร้านค้าในหมวด Luxury Fashion ที่ร่วมรายการ รับของรางวัลเอ็กซ์คลูซีฟรายสัปดาห์ รวมกว่า 7 รางวัล ไม่ว่าจะเป็น ตั๋วโดยสารเครื่องบินภายในประเทศ, Luxury Voucher จากร้านค้าชั้นนำ รวมถึง SAMSUNG GALAXY   
  • คุ้มค่าอีกขั้นกับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการสูงสุด 30% หรือผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด  10  เดือน
  • DINING เติมเต็มความสุขทุกมื้ออาหาร รับ Central Embassy Dining Voucher และสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต Central The 1 รับ Cash Back รวมสูงสุด 11,800 บาท (จำกัด 2,770 รางวัลตลอดรายการ)
    • เมื่อรับประทานครบ 2,000 บาท รับ Central Embassy Dining Voucher มูลค่า 200 บาท และ Cash Back มูลค่า 200 บาท รวมรับสูงสุด 400 บาท
    • เมื่อรับประทานครบ 5,000 บาท รับ Central Embassy Dining Voucher มูลค่า 800 บาท และ Cash Back มูลค่า 200 บาท รวมรับสูงสุด 1,000 บาท
    • พิเศษสำหรับ Weekend Deal (เสาร์–อาทิตย์) เมื่อรับประทานครบ 3,000 บาท รับ Central Embassy Dining Voucher มูลค่า 700 บาท และ Cash Back มูลค่า 200 บาท รวมรับสูงสุด 900 บาท
  • พิเศษรับของพรีเมียมสุดพิเศษจาก Sticky Monster Lab
    • พิเศษ! ผู้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เพียงช้อปครบ 6,000 บาท รับของรางวัลมูลค่า 500 บาท
    • สำหรับลูกค้าทั่วไป เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท รับของรางวัลมูลค่า 500 บาท

นอกจากนี้ ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล LUCKY DRAW สำหรับสมาชิก The 1 เมื่อช้อป หรือ รับประทานอาหารครบทุก 3,000 บาท รับ 1 สิทธิ์ เพื่อลุ้นรับของรางวัล รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท จำนวน 37 รางวัล ได้แก่ Voucher ที่พัก ร้านอาหาร สปาแอนด์เวลเนส และร้านเสริมสวย เติมความคึกคักเศรษฐกิจปลายปี ดึงกำลังซื้อกลุ่ม Mid-to-High กลับมาสู่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เตรียมพบกับโปรโมชั่น “BLACK FRIDAY 2025” ตั้งแต่วันที่ 28 – 30 พฤศจิกายน 2568  พร้อมส่งความพิเศษอย่างต่อเนื่องกับ โปรโมชั่น “BOXING DAY 2025” ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 ธันวาคม 2568

ช่วงปลายปีถือเป็นจังหวะสำคัญในการสร้างบรรยากาศการใช้จ่าย จึงได้ออกแบบแคมเปญ SEASON OF GIVING’ ให้เป็นมากกว่าโปรโมชั่น แต่เป็นประสบการณ์การใช้จ่ายที่สะท้อน DNA ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ในฐานะศูนย์กลางของลักชัวรีไลฟ์สไตล์แห่งกรุงเทพฯ พร้อมผลักดันให้การจับจ่ายช่วงสิ้นปีกลับมาคึกคัก และสร้างการหมุนเวียนเศรษฐกิจให้กับกลุ่มค้าปลีกอีกครั้ง และยังตอบรับกับเทรนด์ที่ผู้บริโภคที่หันกลับมานิยมจับจ่ายภายในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่าควบคู่กับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่น่าประทับใจ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเซ็นทรัล เอ็มบาสซีในการเป็นจุดหมายปลายทางของการใช้ชีวิตที่เหนือระดับในทุกมิติ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/centralembassy หรือ www.centralembassy.com สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2119-7777#2001   

“เถ้าแก่น้อย” เขย่าวงการครั้งใหญ่ เปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ระดับอินเตอร์”เฉิน เจ๋อหยวน” ตัวแทน New Asian Wave มุ่งเจาะตลาด Gen Z ทั่วเอเชีย

บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดสาหร่ายแปรรูปอันดับ 1 ของไทย แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย“ เปิดตัวพรีเซนเตอร์ระดับอินเตอร์คนใหม่ล่าสุด เฉิน เจ๋อหยวน (Chen Zheyuan, 陈哲远) นักร้องและนักแสดงชาวจีน ที่โด่งดังอย่างมากในระดับภูมิภาคเอเชีย ตัวแทนของ “ความสดใหม่ด้วยเสน่ห์อันแสนอบอุ่น” สะท้อนคาแรกเตอร์ของแบรนด์เถ้าแก่น้อยที่สื่อความสนุกและความสุขในชีวิตทุกๆ วันได้อย่างลงตัว

นางสาวอรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเหตุผลของการเลือกพรีเซนเตอร์ในครั้งนี้ว่า “เฉิน เจ๋อหยวน จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ใหม่ให้เถ้าแก่น้อยมีความ “ทันสมัย เทรนดี้ และ ยื่นยันในการเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง สร้างภาพลักษณ์ที่สดใส เสน่ห์อันอบอุ่น และเต็มไปด้วยพลังบวก ช่วยขยายการรับรู้ เพื่อเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ระดับภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธภาพ สามารถเจาะตลาดสำคัญๆ ทั้งในประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อีกมุมหนึ่งเรามองว่า เฉิน เจ๋อหยวน ถือเป็นตัวแทนของคลื่นวัฒนธรรมเอเชียรุ่นใหม่ (New Asian Wave) ที่สามารถเชื่อมโยงคนหลากหลาย Gen จากหลายประเทศเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยเสน่ห์ และภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเฉพาะตัว ที่เข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังมีฐานแฟนคลับขนาดใหญ่และเหนียวแน่นในหลายประเทศ หลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น จะช่วยทำให้การสื่อสารข้ามพรมแดน (Cross-border Communication) เป็นไปอย่างธรรมชาติ ทั้งในเชิงภาษา วัฒนธรรม และอารมณ์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เถ้าแก่น้อยคาดหวังจากการร่วมงานกันในครั้งนี้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ระดับ “Regional Brand” ที่มีรากฐานจากไทยแต่ให้พลังเทียบเท่าแบรนด์เอเชียชั้นนำ สามารถขยายการรับรู้ จากไทยไปสู่จีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของสินค้าในสายตาผู้บริโภคต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบศิลปินจีน เป็นกลยุทธ์ที่จะสานต่อการผลักดันเป็น Global Brand ต่อไป” นางสาวอรพัทธ์ กล่าว

สุดฟินสามารถจับจองเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เถ้าแก่น้อยใน คอลเลคชันสุดพิเศษในรูปโฉมของ เฉิน เจ๋อหยวน และดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟในธีมเทศกาลตรุษจีน 2026 แบบ Limited Edition จำนวนจำกัด ได้เร็วๆ นี้

เตรียมตัวให้พร้อมกับกิจกรรมที่เหล่าแฟนคลับทุกๆ คน ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง กับงานแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซนเตอร์ เถ้าแก่น้อย อย่างเป็นทางการ ในช่วงเดือนมกราคม 2568 ที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสุด Exclusive สำหรับแฟนๆ ชาวไทยโดยเฉพาะ พร้อม Live พิเศษ ที่ เฉิน เจ๋อหยวน จะมาร่วมพูดคุยและอ้อนแฟนคลับชาวไทยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งเตรียมรับของ Premium สุดพิเศษ ที่จัดทำขึ้นเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาร่วมต้อนรับ เฉิน เจ๋อหยวน ในฐานะพรีเซนเตอร์คนใหม่ของเถ้าแก่น้อยไปพร้อมๆ กัน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการเข้าร่วมงานครั้งนี้ รวมถึงข่าวสารต่างๆ และกิจกรรมที่น่าสนใจของเถ้าแก่น้อยได้ที่ Facebook: Taokaenoi Club

“แฟนต้า” ผนึกพันธมิตรจัดเฟสติวัลไลฟ์สไตล์ “แฟนต้า” เฟสปีที่ 2 รวมทุกความชอบของ Gen Z ไว้ในที่เดียว

กรุงเทพฯ – 10 พฤศจิกายน 2568“แฟนต้า” โดย กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย อันประกอบไปด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับพันธมิตรหลัก ทรู คอร์ปอเรชั่น และLINE MAN Wongai ร่วมกันสร้างประสบการณ์ในงานเฟสติวัลไลฟ์สไตล์ “แฟนต้า” เฟส มันนนส์ยกกำลัง หน่อยป่ะ? ที่รวมทุกความชื่นชอบของชาว Gen Z ไว้ในที่เดียว พร้อมเหล่าศิลปินระดับเอลิสต์และไอคอน พร้อม 4 โซนกิจกรรม ทั้งโซนคอนเสิร์ต โซนขนมและอาหาร โซนเกม และโซนแฟชั่น ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 9–10 เมืองทองธานี เมื่อวันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568

 “แฟนต้า” สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และกิจกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ พร้อมสร้างประสบการณ์ไม่ซ้ำใครให้เหล่า Gen Z ปีนี้ “แฟนต้า” เฟส ภายใต้คอนเซ็ปต์ มันนนส์ยกกำลัง หน่อยป่ะ?” พร้อม 4 โซนกิจกรรมเริ่มต้นด้วยโซน MUSIC ZONE กับไลน์อัปศิลปิน T-POP ขวัญใจวัยรุ่น ได้แก่ BUS because of you i shine, URBOYTJ, และ MILLI x Flower.far x GALCHANIE และกิจกรรม Genซ่า Stage ต่อด้วยความอร่อยในสไตล์ “แฟนต้า” เฟส ที่ SNACK VILLAGE รวมเมนูสุดซ่าและรสชาติไม่ซ้ำใครจากแบรนด์ขนมชื่อดังทั่วประเทศ ปล่อยพลังกันต่อกับ GAME ARCADE ที่รวมเกมสุดฮอตให้ร่วมเล่นและลุ้นของรางวัลมากมาย ปิดท้ายที่ FASHION ZONE เอาใจสายแฟที่อยากแชะ แชร์ และโชว์ลุคสุดคูลบนจอขนาดยักษ์แบบเรียลไทม์

ฮาน ทเว เพียว ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคล่า ประจำประเทศไทยและลาว กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มอัดลมกลิ่นผลไม้ของประเทศไทย เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่สดใหม่และน่าตื่นเต้น ผ่านทั้งผลิตภัณฑ์ กิจกรรม และคอนเทนต์เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่ม Gen Z โดยเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงออกในแบบของตัวเอง หลังจากกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากงาน “แฟนต้า” เฟส ปีที่ผ่านมาเราดีใจที่ได้เห็นงาน “แฟนต้า” เฟสกลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบ เราได้เห็นทุกคนได้มาร่วมกิจกรรมกันอย่างเต็มที่ พร้อมเผยตัวตนและพลังบวกอย่างอิสระ ปีนี้ “แฟนต้า” เฟส กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการจับมือกับเหล่าพันธมิตรที่จะสร้างประสบการณ์สุดพิเศษ เราต้องการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่แสดงออกถึงตัวตนและแรงบัลดาลใจในแบบฉบับของ “แฟนต้า” ผ่านกิจกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี แฟชั่น เกม หรืออาหาร”

คุณสุเมธ ศุภนิมิตรสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารแบรนด์และการตลาด LINE MAN Wongnai กล่าวว่า “LINE MAN Wongnai มุ่งมั่นเชื่อมต่อทุกความอร่อยและทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย ผ่านเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ เราดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “แฟนต้า” เฟส ในปีนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รวมพลังของคนรุ่นใหม่ที่ชอบใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง และกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โดยผู้ร่วมงานสามารถสั่งเซ็ตเมนูพิเศษของแฟนต้าบน LINE MAN เพื่อรับการ์ด BUS สุดพิเศษ อีกทั้งในวันคอนเสิร์ตยังมีกิจกรรมมากมาย ๆ ที่บูธ LINE MAN พร้อมเวิร์กช็อป และแจกโค้ด LINE MAN RIDE เพื่อมอบประสบการณ์ความเพลิดเพลินและความอร่อยถึงมือ Gen Z อย่างแท้จริง”

ด้าน ทรู คอร์ปอเรชั่น อีกหนึ่งพันธมิตรหลักของงาน “แฟนต้า เฟส มันนนส์ยกกำลัง หน่อยป่ะ?” เชื่อมั่นในพลังของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่กล้าใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบ และพร้อมเปิดรับกับทุกประสบการณ์ ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้นำด้านเครือข่ายสื่อสารในไทย ในการส่งต่อโมเมนต์ในแบบดิจิทัล ผ่านเครือข่าย True และ dtac 5G ที่ครอบคลุมทั่วพื้นที่จัดงาน พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ด้วยกิจกรรมมินิเกมมากมาย โปรโมชั่นพิเศษ และของรางวัลมากมาย ให้ทุกคนได้แชร์โมเมนต์สุดมันส์และส่งต่อความซ่าไปสู่โลกออนไลน์ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด

เซอร์ไพรส์สุดพิเศษ! พบกับสองนักแสดงหนุ่มสุดฮอต “เอส-ศุภ สงวรวงศ์” และ “มาร์ค-ภาคิน คุณาอนุวิทย์” พร้อมเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง “ฝน–ธัญพร” โปรดิวเซอร์มือทองจากรายการออนไลน์ และ “นินิว เพชรด่านแก้ว” เน็ตไอดอลสุดปัง ที่มาร่วมมอบโมเมนต์สุดคิวท์ตลอดงาน

นอกจากเฟสติวัลที่จัดขึ้นแล้ว “แฟนต้า” เฟส ยังเสิร์ฟกิจกรรม “เก็บแต้มซ่า ล่ารางวัล” มหกรรมแจกรางวัลมูลค่ารวมกว่า 15 ล้านบาทให้ทุกคนได้ร่วมกิจกรรมกันตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2568 เพียงซื้อ “แฟนต้า” หรือ “สไปรท์” แล้วสแกน QR Code ข้างขวด เพื่อสะสมแต้มและแลกรับของรางวัลมากมายทุกวัน และลุ้นของรางวัลใหญ่ทุกเดือน อาทิ ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงทริป 3 วัน 2 คืน, YAMAHA FAZZIO 2025, Samsung S25, LG UHD 4K Smart TV ขนาด 65 นิ้ว และบัตรของขวัญทรูมันนี่ พิเศษสุด! สำหรับผู้ที่ซื้อ “แฟนต้า” กลิ่นลิ้นจี่ รับทันทีแต้มสะสม 2 เท่า

พลาดไม่ได้! ติดตามกิจกรรมและข่าวสารล่าสุดของ “แฟนต้า” เฟส รวมถึงการประกาศรางวัลผู้โชคดีจากกิจกรรม “เก็บแต้มซ่า ล่ารางวัล” ของ “แฟนต้า” ได้ที่ https://www.facebook.com/FantaThailand   

“แม็คกรุ๊ป” MC ไตรมาสแรกปี 69 รายได้ทะลุ 900 ล้านช้อปออนไลน์โตสนั่น!!!

“แม็คกรุ๊ป”  โชว์งบไตรมาสแรก ปีบัญชี” 69 แข็งแกร่ง โกยรายได้ 901 ล้าน ช้อปออนไลน์ทะลุจุดเดือด!!! ไตรมาสเดียวขายกว่า 252 ล้านบาท โตขึ้น 100% ดันสัดส่วนรายได้เฉียดแตะ 30%   ของยอดขายทั้งหมด  ด้าน ”ซีอีโอ “ MC ลั่น  เดินหน้าใช้ฐานความเชี่ยวชาญในธุรกิจ 50 ปี เงินสดในมือ 2 พันล้าน และไม่มีหนี้ ต่อยอดธุรกิจสร้างการเติบโต!!!   

นายแมทธิว กิจโอธานประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ  MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์  “แม็คยีนส์”    เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานของบริษัท  ยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ค่อยๆปรับตัวดีขึ้น จากการที่รัฐบาลมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะคนละครึ่งพลัส และเที่ยวดีมีคืน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นและจะส่งดีต่อภาพรวมผลดำเนินงานของบริษัท ในรอบปีบัญชี 2569 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ผลดำเนินงานในงวดไตรมาส 1 ปี บัญชี 2569  (1 ก.ค 2568 – 30 ก.ย. 2568)   บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้ารวม 901 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59 ล้านบาท หรือ 7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลลจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้จากช่องทางออนไลน์ ที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในงวดนี้สัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 28% ของยอดขายรวม จากก่อนหน้าอยู่ที่ 15%  ส่วนช่องทางออฟไลน์มีรายได้ลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ทำให้ประชาชนใช้สอยนอกบ้านลดลง

ยอดขายของ แม็คกรุ๊ป ผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตดีมากในงวดนี้มีรายได้รวมทั้งสิ้นรายได้ 252 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 126 ล้านบาทหรือ  100.8% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน  ขณะที่ สัดส่วนรายได้ช่องทางร้านค้าปลีกของตนเอง (Free-standing Shop) ลดลงมาอยู่ 55%  จากงวดก่อนหน้าอยู่ที่ 66% โดยมี รายได้ 496 ล้านบาท ลดลง 58 ล้านบาทหรือ  10.5  %  , ห้างสรรพสินค้า (Department Store)  มีสัดส่วน 16 %ลงมาจาก 17% โดยมีรายได้ 142 ล้านบาทลดลง 6 ล้านบาทหรือ 3.8%และช่องทางอื่น ๆ คิดเป็นสัดส่วน  1%” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป กล่าว
 

นายแมทธิว กล่าวว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ ในไตรมาส 1 ปีบัญชี 2569 บริษัทมีกำไรสุทธิ 123 ล้านบาท ลดลง 10 ล้านบาท หรือ  7.6%  โดยมีอัตรากำไรสุทธิ  13.4%  ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากรายได้อื่นที่เกิดขึ้นครั้งเดียวและบันทึกบัญชีในปีก่อนไปแล้ว  และหากดูผลดำเนินงานปกติ ในงวดไตรมาสนี้ จะเห็นว่า   บริษัทมีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 581 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาทหรือ  5.5 % จากยอดขายที่สูงขึ้น   โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่อยู่ที่  64.4 % ยังทรงตัวในระดับสูงแม้ว่า  บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ในช่วงรอยต่อของรัฐบาล

ทั้งนี้  ณ วันที่ 30 กันยายน 2568  บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวรวม 2,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89 ล้านบาทหรือ 4% จาก 1,984 ล้านบาทเทียบงวดเดียวกับปีก่อน   และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 5,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  4% หรือ 229 ล้านบาท เปรียบเทียบกับวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 5,500 ล้านบาท  ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่  3,844 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126 ล้านบาท  เปรียบเทียบกับวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 3,718 ล้านบาท   

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แม็คกรุ๊ป กล่าวถึง พัฒนาการและแนวโน้มการเติบโตในอนาคตว่า มีเป้าหมายเติบโตทั้งยอดขายและกำไรในทุกช่องทางทั้ง ออนไลน์ และ ออฟไลน์ โดยใช้ประสบการณ์และทรัพยากรที่เพียบพร้อมจากรากฐานอันยาวนานกว่า 50 ปี  ทั้งการมี จุดขายที่ครอบคลุมทั้ง ออนไลน์ และ ออฟไลน์,  มีโรงงานผลิตสินค้าที่มีความชำนาญการ และ มีศูนย์กระจายสินค้าของตัวเองที่เปิดทำการในรอบปีบัญชีที่ผ่านมา   รวมทั้ง บริษัท มีการศึกษาพัฒนาแผนงาน สำหรับช่องทางอื่นอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายช่องทางไปต่างประเทศ และการซื้อขาย ควบรวมกิจการ รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยมีความพร้อมและความคล่องตัวและสามารถทำทันทีเมื่อมีความมั่นใจจากกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน

ขณะที่ในมิติความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทจะร่วมกับพันธมิตร  วางแผนที่จะนำวัสดุรักษ์โลกมาใช้ในกางเกงยีนส์ทุกรุ่นในปี 2569   รวมทั้งบริษัทได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สินค้าจากพลาสติกแบบเดิมไปเป็นพลาสติกรีไซเคิล ที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งล่าสุดบริษัทได้รับผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CGR) ปี 2568 ในระดับ “ดีเลิศ” เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย, ได้รับผลการประเมิน SET ESG Ratings ปี 2567 ในระดับสูงสุด “AAA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  และยังได้รับการประเมินคุณภาพการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น “AGM Checklist 2567” ด้วยคะแนนสูงสุด 100 คะแนนเต็ม ที่ระดับ “ดีเยี่ยมสมควรเป็นตัวอย่าง” โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย