GAC สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ กวาดยอดจอง 7,018 คัน คว้าอันดับ 2 แบรนด์รถไฟฟ้า ในงาน Motor Show 2025

GAC ผู้นำด้านยานยนต์จากประเทศจีน สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ด้วยยอดจองรถยนต์ภายในงานสูงถึง 7,018 คัน ก้าวขึ้นครองตำแหน่งยอดจองสูงสุดอันดับที่ 2 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และมียอดจองสูงสุดอันดับที่ 3 ในกลุ่มแบรนด์รถยนต์ทั้งหมดที่เข้าร่วมงาน ยืนยันความนิยมและความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคชาวไทยมีต่อยนตรกรรมอัจฉริยะจาก GAC

การตอบรับอย่างล้นหลามในงานครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ GAC ในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะตลาดประเทศไทยซึ่งมีการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในรถยนต์พลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ GAC ได้ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงานได้อย่างโดดเด่น ผ่านการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ AION UT รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์แฮทช์แบคที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และ M8 PHEV รถยนต์ MPV ระดับพรีเมียมที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ให้ความสะดวกสบายและความหรูหราที่เหนือระดับและตอบโจทย์การใช้งานจริงอย่างครอบคลุม

AION UT เป็นยนตรกรรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์แฮทช์แบคทันสมัยที่ให้ความคล่องตัว พร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิด 210 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟตขนาด 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยยังคงจุดเด่นด้านความปลอดภัยและฟังก์ชันอัจฉริยะ พร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อและควบคุมได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับดีไซน์ภายในที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางเกินคลาส ทำให้ AION UT เป็นทางเลือกที่น่าจับตามองในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก

นอกจากนี้ AION UT ยังสามารถคว้ารางวัล “THE MOST VALUABLE EV AWARD” หรือรางวัลรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุด ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 โดยรางวัลนี้นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญถึงความสำเร็จของ GAC ในการพัฒนาและนำเสนอยานยนต์พลังงานสะอาดที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างครบถ้วน และด้วยคุณสมบัติที่เหนือชั้นของ AION UT ทำให้สามารถกวาดยอดจองภายในงานไปได้สูงถึง 4,568 คัน

ในขณะที่ M8 PHEV ได้รับการออกแบบเพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวและผู้บริหาร ด้วยตัวถัง MPV ขนาดใหญ่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า มีระยะทางรวมในการขับขี่มากกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จและเติมน้ำมันเต็ม ช่วยลดความกังวลในการใช้งานทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งอย่างประณีต ใช้วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม เบาะนั่ง VIP แบบ Captain Seat ปรับด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พร้อมฟังก์ชันนวดและระบายอากาศ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริหารยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความสะดวกสบายและภาพลักษณ์ที่เหนือระดับ

นอกจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่แล้ว GAC ยังได้ประกาศกลยุทธ์ ONE GAC 2.0 ซึ่งเป็นการยกระดับวิสัยทัศน์ของบริษัทสู่การเป็นองค์กรยานยนต์พลังงานใหม่ระดับโลก โดยเน้นการผนึกกำลังทุกหน่วยธุรกิจภายใต้กลุ่ม GAC เพื่อสร้างระบบนิเวศยานยนต์แห่งอนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์ บริการหลังการขาย และประสบการณ์ของลูกค้า กลยุทธ์ดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ GAC ได้ลงทุนในด้านเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย การสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ที่จังหวัดระยอง จัดตั้งคลังอะไหล่กลาง และศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศ เพื่อมอบความมั่นใจในบริการหลังการขายและการดูแลระยะยาวอย่างแท้จริง

การคว้าส่วนแบ่งตลาดในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในเชิงพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่า GAC ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและนวัตกรรมจากผู้บริโภคชาวไทยในวงกว้าง โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดยานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ความนิยมของ GAC ในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด และมองหายานยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการรักษาสิ่งแวดล้อม

ความสำเร็จของ GAC ในงาน Bangkok International Motor Show 2025 จึงไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขยอดจองที่น่าประทับใจ แต่เป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของ GAC รวมถึงเป็นการตอบรับที่ดี ทั้งนี้ทาง GAC ยังยึดมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด GAC พร้อมเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณค่า ทั้งในด้านนวัตกรรม การออกแบบ ประสบการณ์การใช้งาน และการบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อส่งมอบอนาคตแห่งการเดินทางที่ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนอย่างแท้จริงให้กับผู้บริโภคชาวไทย

UNFPA-สสส. ผนึกกำลังภาครัฐ ภาคี 8 หน่วยงาน ปลดล็อกแพลตฟอร์ม SoSafe เดินหน้ายกระดับสุขภาพและความปลอดภัย ผ่านการพัฒนาชีวิตทุกช่วงวัย สำหรับทุกกลุ่ม ทุกเพศและทุกวัย

ดร. จูลิตตา โอนาบันโจ ผู้อำนวยการ UNFPA ประจำประเทศไทยและผู้แทนประจำประเทศมาเลเซีย พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ดร. นายแพทย์บุญฤทธิ์ สุขรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กระทรวงสาธารณสุข, นายไพศาล วุทฒิลานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ, ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาตินางสาวภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และนายสว่าง แก้วกันทา ผู้อำนวยการมูลนิธิพัฒนาผู้สูงอายุ  ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม SoSafe ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ ความปลอดภัย และการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทย โดยแพลตฟอร์ม SoSafe เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลในแอปพลิเคชัน Line ที่มุ่งช่วยเหลือประชากรทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ให้เข้าถึงข้อมูลสิทธิประโยชน์ และความช่วยเหลือด้านปัญหาสังคม ซึ่งเริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ใน 15 จังหวัดทั่วประเทศ ณ โรงแรมพริ้น พาเลซ กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็ว ๆ นี้

GEMS MILLION พร้อมรุกตลาดปี 68 หลังปี 67 ธุรกิจอัญมณีค่อนข้างซบเซาพร้อมส่งแบรนด์ใหม่ร่วมงาน JGAB หวังขยายฐานลูกค้า จ่อรับออเดอร์ใหม่ๆ

GEMS MILLION กล่าวว่า ปี 2567 เศรษฐกิจกระทบภาพรวมธุรกิจในรอบ 20 ปี กางแผนปี 2568 พยายามรุกตลาด จับเทรนด์ตลาดพร้อมนำสินค้ารับดีมานด์ลูกค้า ชี้เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากตลาดโลก พร้อมส่งแบรนด์น้องใหม่ร่วมงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok (JGAB) 2025 หวังขยายฐานลูกค้า ดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง

            นายธีรวัจน์ วุฒิปัญญาคม รองผู้อำนวยการ บริษัท เจมส์ มิลเลียน จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจ
อัญมณี
เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2567 ถือเป็นช่วงที่ท้าทาย โดยภาพรวมอุตสาหกรรมและยอดขายของบริษัท ค่อนข้างชะลอตัวในรอบหลายปี โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่ตลาดค่อนข้างเงียบ
ซึ่งผลกระทบดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงประเทศไทย แต่ยังมีปัจจัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ยังชะลอตัว ทำให้ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศปรับตัวลดลง

            สำหรับในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 ภาพรวมการดำเนินธุรกิจค่อนข้างปรับตัวดีขึ้น หากเทียบกับปลายปี 2567 เริ่มมีคำสั่งซื้อจากคู่ค้าเข้ามาบ้าง เป็นไปตามตลาดโลกที่เริ่มฟื้นตัว แต่ก็ยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์ต่างๆ ในหลายประเทศ ทั้งสภาพเศรษฐกิจและเรื่องสงครามการค้า ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทจะอยู่ทางแถบยุโรป รัสเซีย ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งตลาดจีนค่อนข้างเติบโตดีมากในช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ต้องยอมรับว่าด้วยสภาพเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าว ทำให้คู่ค้าชะลอการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท
เพราะบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ B2B หรือจำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์เป็นหลัก ยังไม่มีการขายปลีก ส่งออกเป็นหลักคิดเป็น 90% ของยอดขายบริษัท

แม้ว่าในช่วงหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 จะเป็นช่วงที่ธุรกิจค่อยๆกลับมา แต่ในปี 2567 ค่อนข้างท้าทายเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการหลายรายก็ได้รับผลกระทบ เห็นได้จากการออกงานของแบรนด์ต่างๆ ลดน้อยลง และในปี 2568 นี้ ก็ค่อนข้างห่วงเรื่องเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่จะส่งผลกระทบหมด แต่มองว่าการปรับตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ดีขึ้นจะมีผลทำให้สถานการณ์ทั่วโลกดีขึ้น แม้จะมีความไม่แน่นอนเรื่องการขึ้นภาษีของประเทศต่างๆ ก็พยายามมองบวก เพราะสัญญาณของยอดขายบริษัทเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่ถ้าไม่ดีก็ต้องมีการปรับตัวกันไป ต้องคอยจับตาดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่องนายธีรวัจน์ กล่าว ส่วนแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 เรามี 2 บริษัทที่เป็นเครือเดียวกัน ซึ่งมี บริษัท World Gemstone จำหน่ายพลอยในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงง่าย จับต้องได้ และ บริษัท เจมส์ มิลเลียน จำกัด ที่จำหน่ายพลอยในรูปแบบที่แตกต่างจากอีกบริษัท โดยบริษัทมีความตั้งใจที่จะเน้นหาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของคู่ค้าให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจ ที่บริษัทควรจะพัฒนาและขยายตลาด รวมไปถึงเพิ่มฐานลูกค้าใหม่

ไดกิ้นเดินหน้าพัฒนา “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ต้นแบบศูนย์การเรียนรู้คุณภาพอากาศภายในอาคาร ระดับภาคเหนือ ยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพของเด็กเล็ก

ไดกิ้นจับมือกรมอนามัย กรมการปกครอง สมาคมส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคาร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพอากาศภายในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ส่งมอบ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ซึ่งเป็นต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ด้านการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร ระดับภาคเหนือ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กเล็กและบุคลากรภายในศูนย์ โดยมีนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานรับมอบเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

โครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ได้มาตรฐาน พร้อมสร้างต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและอาคารสถานศึกษาอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการส่งเสริมมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับสถานศึกษา เพื่อให้เด็กและบุคลากรได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศที่สะอาดและปลอดภัยมากขึ้น ในโอกาสนี้ นายเจตณรงค์ อินกัน ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายฤทธิเดช จรรยาพงษ์ ปลัดอำเภอเชียงของ นายสุรินทร์ วงค์อิ่นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลห้วยซ้อ นายอำนวย หลวงไชย กำนันตำบลห้วยซ้อ นายชาญ ตาไคล้ ประธานสภาเทศบาลตำบลห้วยซ้อ และคณะผู้บริหาร รวมถึงสมาชิกสภาและประชาชนในพื้นที่ ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบห้องเรียนปลอดฝุ่นต้นแบบในครั้งนี้

ภายในโครงการได้ติดตั้งระบบระบายอากาศแบบประหยัดพลังงานจาก Daikin ซึ่งช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศ ลดการสะสมของฝุ่นและมลภาวะภายในห้องเรียน รวมถึงใช้เครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ควบคู่ไปกับระบบกรองอากาศ HRV (Heat Reclaim Ventilation) ที่สามารถกรองอากาศจากภายนอกก่อนนำเข้าสู่ภายในอาคาร เพื่อลดปริมาณฝุ่น PM2.5 และช่วยควบคุมระดับออกซิเจนและก๊าซ CO2 ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของห้องเรียน นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อให้สามารถติดตามและบริหารจัดการคุณภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์

จากการดำเนินโครงการ คาดว่าจะช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 และก๊าซ CO2 ภายในอาคารได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของเด็กและบุคลากร สนับสนุนมาตรฐานคุณภาพอากาศภายในอาคารของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโซลูชันด้านคุณภาพอากาศที่สามารถขยายผลไปยังอาคารสถานศึกษาทั่วประเทศ

การส่งมอบ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการนำเทคโนโลยีและมาตรฐานการจัดการคุณภาพอากาศมาปรับใช้กับสถานศึกษา ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเด็กเล็ก อันเป็นอนาคตของประเทศต่อไป

โรงพยาบาลพระรามเก้า ชวนร่วมกิจกรรม “วันพาร์กินสันโลก” รู้เร็ว ป้องกันได้

โรงพยาบาลพระรามเก้า ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม “วันพาร์กินสันโลก” ในวันที่ 9 เมษายน 2568       ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคาร A โรงพยาบาลพระรามเก้า งานนี้จัดขึ้นเพื่อส่งต่อความรู้เกี่ยวกับ               โรคพาร์กินสัน โรคทางสมองที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและคนรอบข้าง โดยภายในงานจะมีกิจกรรมให้ความรู้ที่หลากหลาย อาทิ บูทกิจกรรมให้ความรู้ เกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน อาการ สาเหตุ และแนวทางดูแล บูทโภชนาการ แนะนำอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน

นอกจานี้ยังมีสัมมนาพิเศษ PARKINSAN TALK ในหัวข้อ “พาร์กินสัน รู้เร็วป้องกันได้”                     โดย นพ.สิทธิ เพชรรัชตะชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและโรคพาร์กินสันและการเคลื่อนไหวผิดปกติ ที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแนวทางการรักษา

กิจกรรมดี ๆ แบบนี้นี้เปิดให้เข้าร่วม ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการดูแลสุขภาพสมองของตนเองและคนที่รัก สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1270 หรือ Website: www.praram9.com /  Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และ Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ…ไว้ใจเรา #Praram9Hospital อย่าลืมชวนคนที่คุณรัก มาร่วม “โอบกอดสุขภาพดีไปด้วยกัน” เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน

COSMAX ทุ่มงบ 1,500 ล้านบาท สร้างโรงงานใหม่ขยายกำลังการผลิต 3 เท่า ยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยสู่ระดับโลก

นายเบียงแมน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COSMAX Korea พร้อมด้วย นายมินกู คัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอเอสเอ็มเอเอ็กซ์ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ COSMAX ผู้นำด้านการผลิตสินค้าความงามระดับโลกมากกว่า 600 แบรนด์ จากประเทศเกาหลี ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดหน้าดินเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ด้วยงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอาง OEM/ODM ระดับโลกในประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 35,995 ตารางเมตร สามารถเพิ่มกำลังการผลิตถึง 3 เท่า มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีการผลิตเครื่องสำอางที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดเครื่องสำอางทั้งในประเทศและทั่วโลก โดยมี นายยงมิน ปาร์ค เอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย, นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, นายประทีป นทีทวีวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมในพิธีเปิดด้วย ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันก่อน

Excitement Builds for gamescom asia x Thailand Game Show this October

    Thailand is the Official Partner Country of gamescom 2025, with a Country Pavilion to Showcase Thriving Thai Games Industry at the World’s Largest Gaming Event in Cologne

Thailand’s strong showing at gamescom paves the way for gamescom asia x Thailand Game Show in Bangkok

Bangkok, Thailand, 2 April 2025 — Thailand will take centre stage at gamescom 2025, the world’s largest gaming event, as the Official Partner Country, a powerful move that underscores the nation’s commitment to becoming a regional and global gaming powerhouse.

This strategic partnership between the organisers of gamescom and the Thai government not only highlights Thailand’s growing influence in the global gaming industry but also sets the stage for the inaugural gamescom asia x Thailand Game Show, taking place in Bangkok this 16-19 October 2025. As the only Asian edition of gamescom, the Bangkok event will benefit from the global spotlight created by Thailand’s presence in Cologne.

As part of the partnership, Thailand will host a dedicated country pavilion at gamescom 2025, showcasing its thriving game development community, world-class creative talent, and fast-growing digital economy. The country’s presence in Cologne aims to attract international publishers, studios, investors, and media ahead of gamescom asia’s debut on Thai soil with gamescom asia x Thailand Game Show.

gamescom asia x Thailand Game Show will feature both an entertainment area (B2C) and a business area (B2B) exhibition with a combined event area of 30,000 sqm, a 40 per cent increase in space compared to the previous editions. The entertainment area will feature industry heavyweights, gaming hardware, non-endemic brands as well as indie developers. The show will bring back fan favourites like esports, streamer challenges and the cosplay competition. Within the business area, the industry conference and its supporting programs, invest circle and the pitch competition will take centre stage, whilst country pavilions and indie developers will showcase their latest games to publishers and investors. 

Thailand is the 19th largest gaming market globally, among the top 10 gaming markets in Asia, and among the 3 fastest growing in Asia. It is also the 2nd largest and fastest growing gaming market in Southeast Asia by revenue with a value of approximately USD 1.3 Billion. With around 32 million gamers representing 47 per cent of Thailand’s population, gaming is an integral part of its lifestyle. A flourishing indie scene has led to innovative game designs and increased diversity in gaming content too with a growing number of independent game developers supported by Thailand’s government initiatives and incubators.

     “Thailand being named the Official Country Partner at gamescom 2025 is more than symbolic — it is strategic. This partnership gives global industry leaders a preview of what to expect from gamescom asia x Thailand Game Show in Bangkok, and reinforces Thailand’s potential as a regional hub for gaming and digital entertainment.” said the organisers of gamescom asia x Thailand Game Show: Mathias Kuepper, Managing Director and VP of Asia Pacific at Koelnmesse Pte Ltd,      Pongsuk Hiranprueck, CEO of Show No Limit and Winradit Kolasastraseni, President – Digital Media at True Digital Group Co., LTD.

“We are proud to represent Thailand on the global stage at gamescom 2025,” said Assist. Prof. Dr. Nuttapon Nimmanphatcharin, President/CEO of the Digital Economy Promotion Agency (depa) “This milestone partnership is also about creating momentum for gamescom asia x Thailand Game Show in Bangkok, and accelerating the growth of our gaming industry through international collaboration.”

“Thailand’s participation as gamescom’s partner country is a launchpad,” said Sunanta Kangvalkulkij, Director-General at the Department of International Trade Promotion (DITP) “It is our chance to showcase Thai innovation, creativity, and investment potential — and to invite the world to join us later this year at gamescom asia x Thailand Game Show in Bangkok.”  With strong government backing, a booming local market, and a rapidly growing ecosystem of studios and developers, Thailand is fast becoming a major player in Southeast Asia’s gaming sector. The country’s dual role — as partner at gamescom and host of gamescom asia x Thailand Game Show — uniquely positions it to lead the next wave of industry growth in the region.

ไทยผงาดบนเวทีเกมโลก gamescom 2025 พร้อมรุดหน้าจัด “gamescom asia x Thailand Game Show” เปิดฉากมหกรรมเกมสุดยิ่งใหญ่ในกรุงเทพฯ 16-19 ต.ค. 68 นี้ พบกันที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

●      ประเทศไทยประกาศเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของงาน gamescom 2025  หนึ่งในงานเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุกปี ณ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี พร้อมแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมเกมไทยด้วยการนำผู้ประกอบการไทยภายใต้ไทยแลนด์ พาวิลเลียนไปสู่สากล●      ศักยภาพอุตสาหกรรมเกมไทยและประเทศไทยได้เปิดทางสู่การจัดงาน “gamescom asia x Thailand Game Show” งานเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16-19 ตุลาคมนี้ บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ครบครันทั้งโซนความบันเทิง (B2C) และโซนธุรกิจ (B2B) แบบจัดเต็ม
กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 2 เมษายน 2025 – ประเทศไทยเตรียมทะยานสู่จุดหมายใหม่ของคอเกมทั่วโลก ในฐานะประเทศพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับงานยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกม ‘gamescom’ หนึ่งในงานเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอกย้ำศักยภาพวงการเกมไทย และสะท้อนความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเกมระดับภูมิภาคและระดับโลก ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง gamescom และรัฐบาลไทย ไม่เพียงแต่เป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในอุตสาหกรรมเกมระดับโลกเท่านั้น แต่ยังปูทางให้เกิด gamescom asia x Thailand Game Show ครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ในฐานะงาน gamescom หนึ่งเดียวในเอเชีย gamescom asia x Thailand Game Show จะกลายเป็นสปอตไลต์ที่ดึงดูดเกมเมอร์ชาวไทยและต่างชาติ สตูดิโอ นักลงทุน ผู้พัฒนาและผู้จัดจำหน่ายเกมระดับโลก รวมถึงสื่อมวลชนจากทั่วโลกให้มารวมตัวกัน เพื่อสัมผัสประสบการณ์เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยในฐานะประเทศพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ gamescom ประเทศไทยจะนำผู้ประกอบการไทยภายใต้ไทยแลนด์ พาวิลเลียนไปจัดแสดง ณ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 20-24 สิงหาคม 2025 นี้ เพื่อให้ผู้จัดจำหน่ายเกม สตูดิโอเกม นักลงทุน และสื่อนานาชาติทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงศักยภาพของชุมชนนักพัฒนาเกมไทย และครีเอทีฟไทย ซึ่งมีคุณภาพระดับโลก รวมไปถึงเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีการจัดงาน gamescom asia x Thailand Game Show” ในประเทศไทยในเดือนตุลาคม2025 นี้

สำหรับงาน gamescom asia x Thailand Game Show นั้น จะมอบความครบครันทั้งในโซนรวมที่สุดแห่งความบันเทิงเต็มรูปแบบ (B2C) และโซนธุรกิจที่ตอบโจทย์การเติบโตในอุตสาหกรรม (B2B) บนพื้นที่จัดแสดงรวมกว่า 30,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นถึง 40% จากงานในครั้งก่อน

·      โดยในโซนแห่งความบันเทิง สำหรับคอเกม (B2C) จะรวบรวมและนำเสนอความมันระดับ AAA จากบรรดาค่ายเกมชั้นนำ ไปจนถึงความสนุกสนานจากผู้พัฒนาเกมอินดี้ ไม่ว่าจะเป็น เกมใหม่ ๆ อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ที่มาพร้อมสินค้าใหม่แกะกล่องและข้อเสนอพิเศษเฉพาะในงาน นอกจากนี้ ยังมีพาร์ทเนอร์แบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ที่เข้ามาเติมเต็มสีสันความสุขในงานอย่างเต็มอิ่ม รวมถึงไฮไลต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากบรรดาอีเว้นต์ที่มีเฉพาะ “gamescom asia x Thailand Game Show” เท่านั้น ทั้งการแข่งอีสปอร์ต กิจกรรมแฟนมีตติ้ง พบปะสตรีมเมอร์และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง รวมทั้งการประกวดคอสเพลย์

·      ส่วนในโซนธุรกิจ (B2B) จะเป็นเวทีหลักสำหรับการประชุมพบปะเจรจาในอุตสาหกรรมเกมจากคนในวงการทั่วโลก ท่ามกลางพาวิลเลียนจากวงการเกมนานาประเทศ พร้อมด้วยโปรแกรมสนับสนุนต่าง ๆ เช่น Invest Circle จาก gamescom asia พร้อม Pitch Competition ให้โอกาสนักพัฒนาเกมอินดี้ทั้งไทยและอาเซียน ได้นำเสนอเกมให้กับนักลงทุนและผู้จัดจำหน่ายจากทั่วโลกโดยตรง

ตลาดเกมในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีเกมเมอร์ประมาณ 32 ล้านคน คิดเป็น 47% ของประชากรในประเทศ ซึ่งนับเป็นตลาดเกมที่ใหญ่เป็นอันดับ 19 ของโลก อันดับ10 ในเอเชีย และอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังเป็น 1 ใน 3 ตลาดเกมที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย โดยประเทศไทยมีอุตสาหกรรมเกมที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งวงการเกมอินดี้ที่แข็งแกร่งซึ่งทำให้เกิดนักพัฒนาเกมอิสระจำนวนมาก พร้อมด้วยการสนับสนุนจากโครงการของรัฐบาลไทยและศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ

“การเลือกประเทศไทยเป็นประเทศพันธมิตรอย่างเป็นทางการในงาน gamescom 2025 เป็นมากกว่าการกระทำเชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่เปิดโอกาสให้ผู้นำจากอุตสาหกรรมทั่วโลก ได้เห็นภาพรวมที่คาดหวังได้จากงาน gamescom asia x Thailand Game Show ที่กรุงเทพฯ และยังตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางระดับภูมิภาคด้านเกมและความบันเทิงดิจิทัลอีกด้วย” กลุ่มผู้จัดงานอย่าง นายแมทเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการ และรองประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของ โคโลญเมสเซ่ นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ผู้ก่อตั้ง Thailand Game Show และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชว์ ไร้ขีด จำกัด และ นายวินท์รดิศ กลศาสตร์เสนี ประธานฝ่ายดิจิทัลมีเดีย บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ร่วมกันให้ข้อมูล

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า เราภูมิใจที่ประเทศไทยได้เป็นหนึ่งในตัวแทนบนเวทีระดับโลกที่งาน gamescom 2025 ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ยังเป็นการสร้างแรงผลักดันให้กับงาน gamescom asia x Thailand Game Show ที่กรุงเทพฯ และยังช่วยเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมของไทยผ่านความร่วมมือระดับนานาชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย

ทางด้าน นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า การที่ประเทศไทยเข้าร่วมกับ gamescom ในฐานะประเทศพันธมิตรอย่างเป็นทางการ เป็นเหมือนจุดเริ่มสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกมไทย และนี่คือโอกาสของเราในการนำเสนอความก้าวหน้าทางนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และศักยภาพด้านการลงทุนของประเทศ และยังเป็นโอกาสดีในการเชิญชวนคนทั่วโลกให้มาร่วมงาน gamescom asia x Thailand Game Show ที่กรุงเทพฯ ในช่วงปลายปีนี้

ปัจจุบันอุตสาหกรรมเกมไทยได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากรัฐบาล เพื่อยกระดับการเติบโตที่รวดเร็วของทั้งตลาดเกมในประเทศ สตูดิโอ และผู้พัฒนาเกมคนไทย เพื่อให้ตลาดเกมไทยสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญของอุตสาหกรรมเกมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างเต็มตัว ด้วยบทบาทของประเทศไทยที่เป็นทั้งพันธมิตรทางการของ gamescom และเป็นผู้จัดงาน gamescom asia x Thailand Game Show ครั้งนี้ จะช่วยทำให้ประเทศไทยก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมเกมแห่งภูมิภาคในอนาคตอันใกล้นี้

BRAND’S Chicken Essence presented Tesla car worth 1.649 million baht to the lucky winner of the 2024 campaign, “Drink BRAND’S, Scan the Number in the Bottle”

Mrs. Chutamas Ngamjitkul, Marketing Director of BRAND’S Essence of Chicken at Suntory Beverage & Food (Thailand) Co., Ltd, the leader of health enrichment products under the BRAND’S trademark in Thailand and Asia, revealed that over the 4-month period, the company conducted the “Drink BRAND’S, Scan the Number in the Bottle” campaign through the loyalty platform on LINE OA. It invested heavily in this first loyalty program to give back to all consumers while promoting the benefits of Carnosine in BRAND’S Essence of Chicken. Carnosine, a dipeptide that is easily absorbed, was highlighted through the experience of drinking BRAND’S Essence of Chicken continuously for 7 days, allowing consumers to see the results for themselves. The campaign attracted more than 150,000 participants, with over 960,000 bottles of BRAND’S Essence of Chicken scanned within just 4 months indicates an increase in consumption frequency, with consumers drinking BRAND’S Essence of Chicken at an average of up to 11 bottles per person.

Another factor contributing to the campaign’s success was its rewarding and communication strategies, which attract consumers by offering cashback from the first bottle via True Money Wallet and promoting through various channels, including storefront media, sales staff, and partners. This approach resulted in a continuous increase in the number of campaign participants.

For the prizes in the 2024 “Drink BRAND’S, Scan the Number in the Bottle” campaign, BRAND’S Chicken Essence gave back to participants a total value of over 6 million baht. This included giving away 1 baht gold to more than 31 lucky participants, totaling over 1.3 million baht, and offering the grand prize of a Tesla Model 3 car, valued at 1.649 million baht, to one lucky winner.

Mr. Anuwat Tiansri, the lucky winner of the grand prize, a Tesla Model 3, shared that “I am very happy to receive this incredible prize of a Tesla car. As a senior, I have been drinking BRAND’S Essence of Chicken every day for a long time. After drinking it, I feel that helps me stay focused and refreshed, thanks to theCarnosine and Vitamin B 12 found in the Essence of Chicken. Last year, when BRAND’S launched the campaign, I decided to join, and I was lucky enough to win the grand prize. I am truly grateful to BRAND’S for this amazing reward and for running such a great campaign that gives back to consumers. I encourage everyone to try BRAND’S Essence of Chicken—not only for its health benefits, but also because in the next campaign, you could be the lucky winner!”

In addition, BRAND’S Chicken Essence has continued the “Drink BRAND’S, Scan the Number in the Bottle” campaign in 2025 with attractive and diverse benefits to better meet the needs of consumers.

Follow great activities from BRAND’S Chicken Essence on Facebook: Brand’s World Thailand (www.facebook.com/BRANDSWorldThailand) or LINE Official Account: brandsworld.

แจกจริง! แบรนด์ซุปไก่สกัดส่งมอบรถเทสล่า มูลค่า 1.649 ล้านบาท ให้ผู้โชคดี ในแคมเปญ “ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด” ปี 2567

นางจุฑามาศ งามจิตรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพภายใต้ตราผลิตภัณฑ์แบรนด์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า ตลอด 4 เดือนที่บริษัทฯ จัดแคมเปญ “ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด” ผ่านลอยัลตี้ แพลตฟอร์ม บน Line OA ซึ่งเป็นการจัดทำลอยัลตี้โปรแกรมเป็นครั้งแรก ที่มีการทุ่มเงินลงทุนมหาศาลเพื่อมอบของขวัญกลับคืนให้กับผู้บริโภคทุกท่าน ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากคาร์โนซีนที่อยู่ในแบรนด์ซุปไก่สกัด ซึ่งเป็นไดเปปไทด์ที่ดูดซึมง่าย ผ่านการสร้างประสบการณ์ดื่มแบรนด์ซุปไก่สกัดต่อเนื่อง 7 วัน เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง โดยตลอดทั้งแคมเปญ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 150,000 คน มีการสแกนขวดแบรนด์ซุปไก่สกัดเข้าร่วมแคมเปญกว่า 960,000 ขวด ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน แสดงถึงความถี่ในการบริโภคที่สูงขึ้น โดยผู้บริโภคดื่มแบรนด์ซุปไก่สกัดเฉลี่ยสูงถึง 11 ขวดต่อคน

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ คือการสร้างสรรค์แคมเปญที่มีความดึงดูดต่อผู้บริโภค ผ่านการมอบเงินคืนตั้งแต่ขวดแรก ผ่าน True Money Wallet และการโปรโมทผ่านช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ สื่อหน้าร้าน พนักงานขาย และคู่ค้า ทำให้มีผู้เข้าร่วมแคมเปญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรางวัลในแคมเปญ “ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด” ปี 2567 แบรนด์ซุปไก่สกัดมอบเงินคืนให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท โดยเป็นการมอบทองคำหนัก 1 บาทให้กับผู้โชคดีมากกว่า 31 ท่าน มูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท และมอบรางวัลใหญ่ รถยนต์เทสล่า Model 3 มูลค่า 1.649 ล้านบาท ให้กับผู้โชคดี 1 ท่านอีกด้วย

นายอนุวัศ เทียนศรี ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลใหญ่ รถยนต์เทสล่า Model 3 กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลใหญ่รถยนต์เทสล่า ตัวผมเองเป็นผู้สูงอายุที่ดื่มแบรนด์ซุปไก่สกัดเป็นประจำทุกวันมาเป็นเวลานาน ผมดื่มแล้วรู้สึกว่า เพิ่มสมาธิและช่วยให้กระปรี้กระเปร่า จากคาร์โนซีนและวิตามินบี 12 ที่เป็นส่วนประกอบในซุปไก่สกัด โดยเมื่อแบรนด์จัดแคมเปญสร้างสัมพันธ์กับผู้บริโภคขึ้นในปีที่แล้ว ผมก็ตัดสินใจเข้าร่วม และโชคดีที่ได้รับรางวัลใหญ่ ขอขอบคุณทางแบรนด์สําหรับของรางวัลและแคมเปญดี ๆ ที่ตอบแทนผู้บริโภค ผมขอสนับสนุนให้ทุกคนลองดื่มแบรนด์ซุปไก่สกัด ไม่ใช่เพียงเพราะประโยชน์ที่ได้รับต่อสุขภาพเท่านั้น แต่เพราะคุณอาจเป็นผู้โชคดีในแคมเปญของปีนี้”

ทั้งนี้ แบรนด์ซุปไก่สกัดจะต่อยอดแคมเปญ “ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด” ต่อไปในปี 2568 พร้อมสิทธิประโยชน์ที่ดึงดูดใจและหลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

ติดตามกิจกรรมดี ๆ จากแบรนด์ซุปไก่สกัด ได้ที่ Facebook: Brand’s World Thailand (www.facebook.com/BRANDSWorldThailand) หรือ LINE Official Account: brandsworld